xs
xsm
sm
md
lg

3 หนุ่มตระกูลไฮโซไทย ใครเป็นใครในธุรกิจอาวุธสงคราม

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ท่ามกลางความร้อนระอุของการขัดแย้งที่ชายแดนของ ไทย - กัมพูชา แม้จะเป็น 2 ประเทศเล็กๆ ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ แต่ก็เป็นที่จับตามองทั่วโลก โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องอาวุธยุโธปกรณ์ของไทย ประเทศที่แทบไม่เคยเผชิญสงคราม หรือมีประวัติเกี่ยวกับทางทหารเลืองชื่อ แต่กลับมีหลายคนให้ความสนใจ เพราะมีการนำเอาเทคโนโลยีด้านการสู้รบที่ไม่เคยเห็นมาก่อนมาใช้งาน อย่างรถถัง สติงเรย์ และเครื่องบินรบ กริพเพน

มาดามรถถัง
โดยรถถังสติงเรย์ มีชาติไทยให้ประจำการอยู่เพียงชาติเดียว แต่รถถังสไตล์นี้โด่งดังและเป็นต้นแบบของอาวุธในเกมส์ออนไลน์หลากหลายเกมส์ ส่วน กริพเพน เครื่องบินรถสัญชาติสวีเดนที่เลืองลือว่าคุณภาพเลิศ แต่ยังไม่เคยได้แสดงศักยภาพในการรบให้เห็นกัน ก็ได้มาประจักษ์กันในการสู้รบครั้งนี้ ซึ่งสำหรับประเทศไทยเรา ด้วยเทคโนโลยีและกำลังการผลิตที่จำกัด จึงต้องพึ่งพาการนำเข้าอาวุธยุทโธปกรณ์จากต่างประเทศเสียเป็นส่วนใหญ่

บริษัท ชัยเสรี อินเตอร์กรุ๊ป จำกัด ของ “มาดามรถถัง”
ทุกวันนี้แม้จะมียุทโธปกรณ์สัญชาติไทยใช้เพียงร้อยละ 10-15 เท่านั้น แต่ก็ถือว่าเป็นแนวโน้มที่ดีของอุตสาหกรรมป้องกันประเทศที่ผลิตขึ้นเองภายในประเทศที่เติบโตขึ้น โดยในระยะเวลา 10 ปีโตขึ้นจากมูลค่า 20,000 ล้านบาท ในปี 2558 มาสู่ 50,000 ล้านบาท ในปีที่แล้ว ซึ่งเป็นผลมาจากการส่งเสริมการพัฒนาอุตสาหกรรมป้องกันประเทศอย่างต่อเนื่อง และนโยบายของรัฐบาลในการสนับสนุนการจัดหายุทโธปกรณ์ภายในประเทศ

กฤต กุลหิรัญ - เจ้าชายรถเกราะไทย
จากรายงานการพิจารณาศึกษาขีดความสามารถอุตสาหกรรมป้องกันประเทศ ความท้าทาย และโอกาสของประเทศไทย ได้มีการระบุถึงภาคเอกชนไทยหลายบริษัทที่มีบทบาทในการอุตสาหกรรมนี้ ไม่ว่าจะเป็น มารีนโกลด์ อินเตอร์เนชั่นแนล ที่ผลิตเรือเร็วตรวจการณ์ที่มีขีดความสามารถสูง บริษัท ที่ดินไทย ผู้ผลิตยานพาหนะทางทหาร ยานรบทั้งกู้ซ่อมและเก็บกู้ทางทหาร บริษัทมิลคอม ซิสเต็มส์ ผลิตระบบสื่อสารทางทหาร และระบบวิทยาสื่อสารทางยุทธวิธี ส่วน ไทยรุ่งยูเนี่ยนคาร์ ที่ผลิตยานพาหนะทางทหารบางประเภท เอเชียน มารีน เซอร์วิสส์ อู่ซ่อมเรือขนาดใหญ่ที่มีศักยภาพสูง รวมไปถึงบริษัทต่อเรืออีกหลายแห่ง และ บริษัทผลิตอาวุธปืนและชิ้นส่วน อย่างบริษัทไทยอาร์ม, บริษัทกรุงไทยอุตสาหกรรม ฯลฯ

กานต์ กุลหิรัญ และ กฤต กุลหิรัญ
โดยเฉพาะอย่างยิ่งบริษัทใหญ่ของ 3 หนุ่มรุ่นใหม่นี้ที่มีส่วนช่วยสนับสนุนการทำงานของกองทัพไทยเป็นอย่างมาก อย่าง บริษัท ชัยเสรี อินเตอร์กรุ๊ป จำกัด ของ “มาดามรถถัง” นพรัตน์ กุลหิรัญ ที่ตอนนี้ส่งต่อให้กับทายาทอย่าง กฤต กุลหิรัญ หนุ่มหล่อวัย 40 ปี ที่ได้รับสมญาว่าเป็น “เจ้าชายรถเกราะไทย” ที่ได้จับมือกับ กานต์ กุลหิรัญ ผู้เป็นพี่ชายช่วยกันสานต่อธุรกิจของครอบครัวที่มีอายุเกือบ 60 ปี ผลิตรถเกราะล้อยาง รถเกราะสายพาน และรับซ่อม สร้าง ปรับปรุง เพิ่มประสิทธิภาพยุทโธปกรณ์ในกองทัพอย่าง รถเกราะคอมมานโด ผลิตยาง Run-lat ล้อกดสายพานและข้อสายพานรถถัง ฯลฯ รวมทั้งผลิตส่งออกรถเกราะสัญชาติไทยให้กับองค์การสหประชาชาติ (UN) และกว่า 40 ประเทศทั่วโลก

ภัทรวิน จงวิศาล
ถัดจากทางบก มาถึงทางเรือ ต้องยกให้กับ ภัทรวิน จงวิศาล ทายาทรุ่น 2 วัย 43 ปีของบริษัท มาร์ซัน จำกัด (มหาชน) ผู้ผลิตเรือสัญชาติไทยที่ดำเนินการมากว่า 45 ปีแล้ว จากการต่อเรือข้ามฟากมาสู่การสามารถต่อเรือที่มีความซับซ้อนสูง อย่าง เรือรบ เรือเร็วสำหรับตรวจการณ์ ซึ่งใช้การผลิต การออกแบบ และการวิจัยพัฒนาโดยคนไทยเอง สร้างสรรค์อาวุธยุทโธปกรณ์ให้กองทัพไทยมาอย่างยาวนาน และปัจจุบันนี้ได้รับความไว้วางใจจากทั้งจากกองทัพเรือและหน่วยงานความมั่นคงทางทะเลของประเทศไทย รวมถึงส่งออกไปยังหลากหลายประเทศทั่วโลก

ภัทรวิน จงวิศาล

ภัทรวิน จงวิศาล บริษัท มาร์ซัน จำกัด (มหาชน)




กำลังโหลดความคิดเห็น