ขณะที่หลากหลายธุรกิจประสบปัญหาหนัก โดยเฉพาะ ในแวดวงบันเทิง ที่จะเห็นได้ว่าโดนสารพัดคลื่นเศรษฐกิจถาโถม ไม่ว่าจะเป็นข่าวช่องดังลดพนักงาน บางองค์กรถึงขั้นปิดตัว แต่สำหรับใครที่ปรับตัวเป็นและจับกระแสเก่ง ช่วงเวลานี้ก็จะสามารถโต้คลื่นประสบความสำเร็จได้อย่างงดงาม เหมือนเทรนด์ของซีรีส์วาย ยูริ หรือ แนวชายรักชาย หญิงรักหญิง ที่นับวันยิ่งเฟื่องฟู จนทำเอาหลายๆ ฝ่ายต่างจับจ้อง และหันมาร่วมวงเพื่อแบ่งเค้กก้อนนี้กันอย่างสนุกสนาน
ทุกวันนี้ ประเทศไทยเรียกได้ว่าเป็นหัวหอก แม่ทัพอันดับหนึ่งของเซ็กชั่นบันเทิงที่ว่านี้ ในแวดวง BL หรือ Boy Love และ GL หรือ Girl Love ทั่วโลกไม่มีใครไม่รู้จักผลงานจากบ้านเรา ที่มีชื่อเสียงโด่งดังข้ามโลกไปทั่วทุกหนแห่ง กวาดความนิยมตั้งแต่ประเทศเพื่อนบ้าน ประเทศในแถบเอเชีย ยุโรป อเมริกา ไปจนถึงย่านละตินอเมริกา
ไม่เพียงแต่รับชมผลงานผ่านทางแพลตฟอร์มอินเตอร์เนชั่นแนลต่างๆ แต่ยังมีการเดินสายนักแสดงไปจัดงานมีตติ้งโปรโมตกันอยู่เป็นประจำ จากการวิเคราะห์ของนักลงทุน สำรวจตลาดว่า ตอนนี้มูลค่าของวงการซีรีส์วายไทยกำลังพุ่งสูงถึง 5,000 ล้านบาทเลยทีเดียว จึงไม่น่าแปลกใจที่แม้กระทั่งเหล่าเซเลบทั้งหลาย ที่ล้วนแต่เป็นนักธุรกิจผู้เก่งกาจ ต่างไม่พลาดที่จะเข้ามาร่วมสังคายนาให้กับเทรนด์อันร้อนแรงนี้ ที่ทำท่าจะไปได้อีกไกล
คนนี้ไม่พูดถึงไม่ได้เลย “เป็ป-ณพสิทธิ์ เที่ยงธรรม” ไม่เพียงเป็นนักธุรกิจตัวฉกาจ แต่ยังมีตำแหน่งสำคัญเป็น อุปนายกและเลขาธิการสมาคมเกี่ยวกับซีรีส์วาย หรือ Thai Association Boys and Girls Love Content ช่วยดูแลการส่งออกซีรีส์วายไปยังต่างประเทศ เป็นตัวกลางที่จะเชื่อมโยงระหว่างบริษัทต่างๆ กับการสนับสนุนจากรัฐบาลด้าน Soft Power โดยมีสมาชิกร่วมด้วยกว่า 50 บริษัท ส่วนตัวเองมี ณพสิทธิ์ มีโปรดักชั่นเฮ้าส์ “บริษัท ณวลาร์ท นิมิต” ที่ผลิตผลงานโทรทัศน์ และทำซีรีส์วายมาตั้งแต่ปี 2562
ถัดมาเป็นน้องใหม่ในวงการนี้ “หมู-พลพัฒน์ อัศวะประภา” ดีไซเนอร์คนดังที่หวนคืนความหลงใหลในศาสตร์นี้ อดีตนิสิตนิเทศศาสตร์ จุฬาฯ ที่เปิด ASA Studio บริษัทผลิตภาพยนตร์ และประเดิมด้วยการจับมือกับ โมโน ออริจินอล บริษัทใหญ่เจ้าของแพลตฟอร์มดัง ร่วมกันสร้าง Mandate : คมเดือน เกมการเมือง เรื่องของหัวใจ โปรเจกต์ใหญ่ที่ได้นักแสดงดัง อย่าง บอย-ปกรณ์ ฉัตรบริรักษ์ มาแสดงนำ โดยหมูนั่งในตำแหน่งโปรดิวเซอร์ ซึ่งกำลังอยู่ในขั้นตอนการผลิต เตรียมออกฉายทางช่อง Mono29
ด้านสาวเหนือ “แสงตะวัน ณ เชียงใหม่” เองก็ไม่น้อยหน้า ได้เข้าไปมีส่วนร่วมกับซีรีส์วายล้านนาย้อนยุคเรื่องแรก อย่าง “เดือนพราง” ที่ออกฉายทางช่อง One31 ผลงานค่าย MGY Entertainment ของคนเชียงใหม่เอง ที่ทั้งทีมงาน นักแสดง และการถ่ายทำ เกือบทั้งหมดล้วนเป็นผลผลิตของชาวเชียงใหม่แท้ๆ ที่ตั้งใจจะส่งเสริมวัฒนธรรมและการท่องเที่ยวของล้านนา ซึ่งสาวเชียงใหม่แท้ๆ ที่ภาคภูมิใจในท้องถิ่นอย่างเธอ ก็เข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งโดยนั่งในตำแหน่งที่ปรึกษาและช่วยประสานงานติดต่อสถานที่ อำนวยความสะดวกให้กับทีมถ่ายทำเป็นอย่างดี
ส่วนนักธุรกิจหมื่นล้าน อย่าง นัท-ณัฐพล จุฬางกูร ที่มีธุรกิจในมือหลากหลาย ตั้งแต่โรงงานอุตสาหกรรม สายการบิน โรงเรียน สนามกอล์ฟ อสังหาริมทรัพย์สารพัดโปรเจกต์ ก็ไม่พลาดที่จะเข้ามาชิมลางในธุรกิจนี้เช่นกัน โดยเขาได้ร่วมหุ้นกับเพื่อนเปิดบริษัท ACTTARCTION ENTERTAINMENT ผลิตซีรีส์วายเมื่อ 2 ปีก่อน โดยผลงานเรื่อง LAPLUIE THE SERIES "ฝนตกครั้งนั้น ฉันรักเธอ" ที่ฉายทางช่อง One31 ได้รับผลตอบรับดี แถมยังคว้ารางวัลจากเวที ASIA TOP AWARDS มาครองได้อีก
นอกจากบรรดาเซเลบนักธุรกิจเหล่านี้แล้ว บรรดาช่องดังๆ บริษัทใหญ่ๆ ในแวดวงบันเทิง ที่แต่เดิมดูว่าเป็นแนวคอนเซอร์เวทีฟ หัวโบราณ ต่างต้องปรับเปลี่ยนกลยุทธ์กันยกใหญ่ เพื่อหันมามุ่งทำคอนเทนต์ด้านนี้แข่งขันกัน เพราะต่างเชื่อว่านี่คือเทรนด์ที่มาแรง และน่าจะไม่หมดกระแสกันไปง่ายๆ อย่างแน่นอน