ถึงจะไม่ได้เรียนจบสายตรงมาทางด้านบริหารธุรกิจ แต่เพ็ท-ม.ล.เพ็ทรา ศักดิเดช ภาณุพันธ์ ทายาทคนเล็กของ ม.ร.ว.ทินศักดิ์ ศักดิเดชภาณุพันธ์ แห่งมณียา กรุ๊ป และคุณป๋ำ-ศิริกาญจน์ ศักดิเดชภาณุพันธ์ ณ อยุธยา ก็ไม่ยอมแตกแถว หลังเก็บเกี่ยวประสบการณ์ทำงานอยู่นอกบ้านจนอิ่มตัว ก็พร้อมนำความรู้และประสบการณ์ที่มีมาเป็นอีกหนึ่งกำลังสำคัญในการต่อยอดอาณาจักรอสังหาริมทรัพย์ย่านราชประสงค์ของครอบครัว พร้อมปลุกปั้นธุรกิจส่วนตัวที่เกิดจากแพชชั่นอย่าง Pink Bar Juicery แต่แม้จะนั่งแท่นผู้บริหารเต็มตัว เพ็ทก็ยังไม่หยุดที่จะเรียนรู้ ตอนนี้กำลังเต็มที่กับการติดอาวุธเรื่องบัญชีและการเงิน ซึ่งเจ้าตัวมองว่าเป็นหัวใจสำคัญกับการทำธุรกิจ
ก่อนจะเข้ามารับหน้าที่ Executive Director ของ มณียา กรุ๊ปเพ็ทเรียนจบด้าน Communication and Journalism จาก University of Southern California สหรัฐอเมริกา หลังจากนั้นก็ไปทำงานด้านการตลาดที่ AIS อยู่ 3 ปี เพราะตั้งใจไปเรียนรู้ระบบงานต่างๆ รวมทั้งฝึกการทำงานเป็นทีม จนกระทั่งเมื่อ 2 ปีก่อน จึงกลับมาช่วยบริหารธุรกิจครอบครัว ที่ทำด้านอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งมีทั้งธุรกิจออฟฟิศให้เช่า อย่างตึกมณียาเซ็นเตอร์และมณียานอร์ธ, ธุรกิจโรงแรมเรเนซองส์ กรุงเทพฯ ราชประสงค์ และคอนโดมิเนียม M Estate Residences
“ด้วยความที่เรียนมาสายนิเทศ เพ็ทเลยเข้ามาช่วยดูภาพรวมด้านการตลาด ตั้งแต่การวางแผนกลยุทธ์, แบรนด์ดิง และการวาง Brand Positioningวิเคราะห์ความเป็นไปได้ทางการตลาดของแต่ละโปรเจกต์ ว่าจะต้องทำอย่างไรบ้าง เพื่อให้ธุรกิจเป็นไปในทิศทางที่ถูกต้อง และเติบโตอย่างยั่งยืน พอเข้ามาทำงานจริงๆ ต้องบอกว่ายากและเครียดคนละแบบกับตอนที่ทำงานข้างนอก เพราะตอนเป็นลูกจ้าง เราก็อาจจะทำงานตามที่ได้รับมอบหมาย แต่พอมาทำธุรกิจครอบครัว กลายเป็นว่าเราต้องเปิดสวิตซ์ตลอดว่าอะไรที่เราควรจะต้องทำเพิ่มเติม หรืออุดช่องโหว่ แก้ Pain Point ตรงไหนของธุรกิจ”
อีกหนึ่งความยากในการเข้ามาสานต่อธุรกิจครอบครัวของเพ็ท คือ พอเป็นธุรกิจอสังหาฯ ที่มีทั้งสำนักงานให้เช่า โรงแรม และคอนโดฯ แต่ละธุรกิจจะมีรายละเอียดค่อนข้างเยอะให้เรียนรู้และศึกษา
“เพ็ทโชคดีที่มีครอบครัวคอยซัพพอร์ต อย่าง คุณพ่อท่านวางรากฐานธุรกิจไว้ดี ทำให้การทำงานราบรื่น ขณะที่ คุณแม่เป็น Role Model ของผู้หญิงเก่ง และทำงานละเอียด ส่วนพี่สาว (ปอ ศีกัญญา) และพี่ชาย (แพทริค ม.ล. ศรุศักดิ์) ก็พร้อมให้คำแนะนำในการทำธุรกิจและการทำพีอาร์ รวมถึงการตัดสินใจที่เด็ดขาด ซึ่งเพ็ทเองอาศัยซึมซับจุดแข็งของแต่ละคนแล้วมาเบลนด์เข้ากับสไตล์ของตัวเอง”
อย่างไรก็ตาม แม้จะเรียนจบมาไม่ตรงสาย แต่ความรู้ด้านนิเทศศาสตร์และความชอบด้านดีไซน์ที่มี ก็สามารถนำมาช่วยต่อยอดในการทำการตลาด รวมถึงเป็นกำลังสำคัญในการรีโนเวทตึกออฟฟิศมณียา ที่ก่อตั้งมายาวนานกว่า 50 ปี และโรงแรมเรเนซองส์ที่เปิดมากว่า 10 ปีได้ไม่น้อย
“เพ็ทก็มองว่า ถึงเวลาแล้วที่จะต้องรีโนเวทอาคารให้มีความทันสมัย เนื่องจากถ้าไปสำรวจตึกในละแวกใกล้เคียงในบริเวณ CBD นี้จะพบว่ามีการพัฒนาเรื่อยๆ ดังนั้นการรีโนเวท ไม่เพียงเป็นการเพิ่มมูลค่าให้กับตัวอาคาร และสร้างสิ่งแวดล้อมที่ดีให้แก่ผู้เช่าเดิม ที่อยู่กับเรามายาวนาน รวมไปถึงสร้างแรงดึงดูดให้ผู้เช่ารายใหม่ เลยเป็นที่มาของการรีโนเวทสำนักงานให้เช่าและโรงแรมเมื่อปีที่แล้ว”
นอกจากนี้ในอนาคต เพ็ทยังมีโปรเจกต์ ‘Maneeya Green Space’ ที่จะทำให้ตึกมีพื้นที่สีเขียวมากขึ้น และเป็นตึกที่ให้ความสำคัญกับการดูแลสิ่งแวดล้อม ด้วยการรณรงค์ให้มีการลดการใช้พลังงานไฟฟ้า และการแยกขยะอีกด้วย
มาถึงสไตล์ในการทำงานของผู้บริหารสาวกันบ้าง เพ็ทบอกว่า เธอให้ความสำคัญกับการรับฟังความคิดเห็นจากทุกฝ่าย ไม่ว่าจะเป็น ครอบครัว พนักงาน เพื่อนร่วมงาน ลูกค้า Supplier และ Vender เพราะเชื่อว่าการเป็นผู้ฟังที่ดี ยอมรับความคิดเห็นและความแตกต่างของคนอื่น จะทำให้ได้เห็นถึงมุมมองที่หลากหลาย และบางครั้งอาจจะเป็นมุมมองที่ที่คาดไม่ถึง เพื่อนำมาประกอบการตัดสินใจ และนำไปปรับใช้ในการดำเนินธุรกิจอย่างละเอียดรอบคอบ
นอกจากนี้ ด้วยความที่อยู่ในธุรกิจโรงแรมและสำนักงานให้เช่า เพ็ทจึงให้ความสำคัญกับเรื่องของ Service Mind โดยเธอมักสวมบทของลูกค้าในการควบคุมและตรวจสอบคุณภาพของสถานที่และการให้บริการอยู่เสมอ เพราะเชื่อว่าการส่งมอบบริการที่ดี เพื่อให้ลูกค้าเกิดความประทับใจและพึงพอใจ จะนำไปสู่การสร้าง Brand Loyalty
นอกจากเพ็ทจะยังสนุกกับการเรียนรู้โลกธุรกิจที่มีอสังหาฯ เป็นแกน ด้วยแรงบันดาลใจที่อยากจะให้บริเวณตึกมณียา เป็นพื้นที่แห่งความสุข เลยจับเทรนด์พฤติกรรมของผู้บริโภคที่หันมาใส่ใจและรักสุขภาพมากขึ้น ด้วยการทำลงขันกับหุ้นส่วนปั้นแบรนด์ “Pink Bar Juicery”ร้านน้ำผลไม้สกัดเย็น ที่ด้านหน้าโรงแรมเรเนซองส์
“จุดเด่นของ Pink Bar Juicery คือ นอกจากเราจะรีเสิร์จและพัฒนาสูตรน้ำผักและผลไม้ให้อร่อย ทานง่าย ไม่ใส่สารกันเสีย ไม่ใส่น้ำตาล ทุกหยดมาจากผักและผลไม้ล้วนๆ เรายังตั้งใจสนับสนุนเกษตรกร ชุมชน ด้วยการรับซื้อวัตถุดิบบางอย่าง เช่นขิง beetroot สับปะรดจากร้านที่รับซื้อผลผลิตจากเกษตรกรโดยตรงอีกด้วย”
อย่างไรก็ตาม แม้จะมีทั้งธุรกิจหลักและธุรกิจเสริม แต่เพ็ทยังแบ่งเวลาสำหรับกิจกรรมโปรดอย่างการออกกำลังกาย และอ่านหนังสือ
“เพ็ทชอบการออกกำลังกาย นอกเหนือจาก Pilates สัปดาห์ละ2 วัน และต่อยมวยอีกสัปดาห์ละครั้ง เพ็ทยังชอบวิ่ง บางครั้งก็วิ่งรอบหมู่บ้าน และวิ่งเล่นกับน้องหมาที่เลี้ยงไว้ 2 ตัว เป็นน้องหมาพันธุ์เยอรมันเชพเพิร์ด ซึ่งเป็นน้องหมาพันธุ์ใหญ่ ที่พร้อมปกป้องเจ้าของอยู่เสมอ สำหรับเพ็ทเขาคือแหล่งพลังงานความสุข เวลาเหนื่อยล้าจากการทำงาน แค่ได้กอดเขา ก็เหมือนได้พลังบวก ส่วนการออกกำลัง เป็นเหมือนกิจกรรมที่ช่วยให้ผ่อนคลายทั้งร่างกายและจิตใจ เพราะเวลาที่ออกกำลังกายเราต้องโฟกัสกับสิ่งที่อยู่ตรงหน้าทำให้มีสมาธิ ไม่คิดถึงเรื่องอื่น”
อีกหนึ่งงานอดิเรกที่เพ็ทชอบ คือ การอ่านหนังสือ ส่วนใหญ่จะชอบแนวพัฒนาตนเอง ปรับเปลี่ยนมุมมอง Mindset และเติมแรงบันดาลใจ
สำหรับเป้าหมายในอนาคต เพ็ทบอกว่า ในด้านธุรกิจเธออยากเห็นมณียากรุ๊ป เติบโตอย่างยั่งยืน สามารถปรับตัวให้เข้ากับทุกยุค ไม่ว่าเจนไหน กลุ่มไหนมาที่เราแล้วรู้สึกเติมเต็ม อยากสร้าง Brand Loyalty ที่ทำให้ลูกค้านึกถึง นอกเหนือจากโลเคชั่นที่โดดเด่น ยังเป็น Timeless Real Estate ที่มีความร่วมสมัย ไม่ได้ก้าวเร็วไปหรือล่าช้าไป แต่ปรับตัวไปตามยุคสมัย พร้อมตอบโจทย์ทุกเจน
“ส่วนตัวเพ็ทเอง ตอนนี้จริงจังมากกับการเรียนเรื่องบัญชีและการเงิน เพราะมองว่าหนึ่งในหัวใจของการทำธุรกิจในฐานะผู้บริหาร เรา ต้องเข้าใจเรื่องบัญชีและการเงิน สามารถอ่านผลประกอบการ วิเคราะห์งบประมาณการเงิน รายรับ รายจ่าย กำไร ขาดทุน ภาษีต่าง ๆ เพื่อช่วยให้วางกลยุทธ์ต่าง ๆได้ดีขึ้น ยกตัวอย่าง สมมติเพ็ทมีโปรเจกต์ที่อยากทำ แต่ถ้าไม่ดูตัวเลข หรือไม่รู้สถานะของบริษัทเลย สุดท้ายก็จะเป็นแค่ไอเดียฟุ้งๆ ที่ทำได้จริงหรือเปล่าก็ไม่รู้ หรือต่อให้ทำได้จริง ก็ไม่รู้ต้องรอปีนี้ ปีหน้า หรือต้องรออีกกี่ปี ที่สำคัญทำแล้วสุดท้ายผลตอบรับจะกลับมาแบบคุ้มค่าหรือไม่ เพ็ทเลยจริงจังและอยากเพิ่มเติมความรู้ตรงนี้”
ปิดท้ายด้วยมุมมองการทำธุรกิจในยุคดิจิทัล เพ็ทมองว่า ต้องเปิดรับและเข้าใจในการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วของโลกสมัยใหม่ พร้อมปรับตัว มีความยืดหยุ่น ในการรับมือกับสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงตลอดเวลา ที่สำคัญ คือ สามารถนำสิ่งที่มีอยู่มาสร้างสรรค์ คิดวิเคราะห์ ต่อยอดไอเดียให้มีความหลากหลายและนำไปสู่ผลลัพธ์ในการทำงานที่ดีขึ้น