ตามรอยพระอนุชา “เจ้าชายแฮร์รี” เวลานี้ “เจ้าชายวิลเลียม” กำลังเข้าสู่โลกของหนังสารคดี แต่ด้วยเหตุผลด้านการกุศล ไม่ใช่เพื่อการโปรโมตพระองค์เอง
เจ้าชายวิลเลียมทรงตั้งเป้าหมายใหญ่ให้กับพระองค์เอง นั่นคือ ทรงต้องการยุติปัญหาคนไร้บ้านในสหราชอาณาจักร เมื่อปีที่แล้วพระองค์ทรงเปิดตัว ‘Homewards’ ซึ่งเป็นโครงการห้าปี เพื่อจัดการกับชีวิตบนท้องถนนใน 6 พื้นที่ ด้วยเงินเริ่มต้น 500,000 ปอนด์ต่อโครงการ
โปรแกรมนี้เริ่มเมื่อเดือนมิถุนายน 2023 Homewards เชื่อมโยงเครือข่ายองค์กรและบุคคลที่ไม่มีใครเทียบได้ โดยใช้ประโยชน์จากความเชี่ยวชาญของพวกเขาเพื่อ “พัฒนาและดำเนินการตามแผนเพื่อป้องกันการไร้ที่อยู่ในพื้นที่เสี่ยง” สำนักราชวังเคนซิงตันเปิดเผยในขณะนั้น ภารกิจของเจ้าชายวิลเลียมนั้นชัดเจน โดยในข่าวพีอาร์เมื่อปี 2023 ระบุว่า ในสังคมสมัยใหม่และก้าวหน้า ทุกคนควรมีบ้านที่ปลอดภัย ได้รับการปฏิบัติอย่างมีศักดิ์ศรี และได้รับการสนับสนุนอย่างที่ทุกคนต้องการ “ด้วยโครงการ Homewards ข้าพเจ้าต้องการทำให้สิ่งนี้เป็นจริง และช่วยให้ผู้คนทั่วสหราชอาณาจักรมีความหวังตลอด 5 ปีข้างหน้าว่า ปัญหาคนไร้บ้านสามารถป้องกันได้ด้วยการทำงานร่วมกัน”
เพื่อดึงดูดความสนใจของสื่อให้มาที่หัวข้อนี้มากขึ้น เจ้าชายวิลเลียมจึงทรงตัดสินพระทัยที่จะเผยแพร่สารคดี เกี่ยวกับการทำโครงการนี้ปีแรกในฤดูใบไม้ร่วงปี 2024 ในโฮมเพจขององค์กรเปิดเผยเกี่ยวกับโปรเจ็กต์หนังสารคดีที่วางแผนไว้ว่า “เจ้าชายวิลเลียมจะทรงเปิดตัวโครงการ Homewards ทั่วประเทศ ตลอดจนเสด็จไปพบปะผู้ที่ประสบปัญหาไร้บ้าน และร่วมแชร์ประสบการณ์กับพวกเขา” งานนี้จะเป็นซีรีย์สารคดีพิเศษสองตอนของ ITV ซึ่งตอนนี้ตั้งชื่อไว้แล้วว่า ‘Prince William: We Can End Homelessness’ สารคดีเรื่องนี้จะออกอากาศในฤดูใบไม้ร่วงปีนี้ ทางช่อง ITV1 และ ITVX ของอังกฤษ
ด้วยความมุ่งมั่นของพระองค์ในการต่อสู้กับปัญหาคนไร้บ้าน เจ้าชายวิลเลียมทรงเดินตามรอยพระมารดา “เจ้าหญิงไดอานา” พระองค์ทรงรณรงค์ต่อต้านชีวิตข้างถนนมายาวนาน หลังจากที่ เจ้าหญิงไดอานาทรงเคยพาไปสถานสงเคราะห์คนไร้บ้านเมื่อพระองค์มีพระชันษา 11 ขวบ อีกทั้งเจ้าชายวิลเลียมยังทรงต้องการสืบทอดการเลี้ยงดูแบบดั้งเดิมของพระมารดาอีกด้วย พระองค์ตรัสกับ The Times ว่า พระองค์ทรงมีแผนจะไปเยือนศูนย์คนไร้บ้านพร้อมกับพระโอรสและพระธิดา-เจ้าชายจอร์จ เจ้าหญิงชาร์ล็อตต์ และเจ้าชายหลุยส์ ในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้านี้
“ข้าพเจ้ากับลูกๆ เคยคุยกันถึงสิ่งที่เราเห็นบ่อยครั้ง เวลาที่เรานั่งรถไป-กลับลอนดอน เรามักจะเห็นผู้คนนั่งอยู่ข้างถนนหรือหน้าซูเปอร์มาร์เก็ตประจำ แล้วเรามักจะคุยกันถึงเรื่องนี้”
