จากกระแสดรามาการหายหน้าไปของ “เมลานี ทรัมป์” ที่ไม่โผล่มายืนเคียงข้างสามี “โดนัลด์ ทรัมป์” ที่กลับมาลงสู้ศึกชิงตำแหน่งประธานาธิบดีรอบใหม่ เพื่อช่วยหาเสียง เหมือนเมื่อครั้งก่อนที่เธอเป็นแม่งานหลัก คอยเดินตามสามีไปลงสนามในทุกท้องที่ ทำให้เกิดข่าวลือข่าววงในมากมาย ว่าอดีตนางแบบคนนี้ไม่อยากกลับไปรับตำแหน่งสุภาพสตรีหมายเลข 1 อีกเป็นครั้งที่สอง
ตั้งแต่ที่ โดนัล ทรัมป์ ประกาศเข้าร่วมสู้ศึกเลือกตั้งประธานาธิบดี 2024 ในเดือนพฤศจิกายนเมื่อ 2 ปีก่อน เธอเพิ่งได้ปรากฏกายร่วมเฟรมช่วยสามีหาเสียงเพียง 2 ครั้ง คือในวันประกาศแคมเปญปี 2022 และเมื่อวันโหวตหาตัวแทนฟลอริด้าเมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมา แต่ถ้าเป็นงานส่วนตัวอื่นๆ ที่เป็นไพรเวท ไม่ได้มีสื่อจับตามองมากนัก เธอไม่เคยขาดหาย อย่างงานฉลองเกี่ยวกับกอล์ฟ หรืองานกินเลี้ยงกับอดีตผู้นำฮังการี ก็จะมีเธอยืนเคียงคู่สามีมาตลอด
นั่นทำให้มีการตีความจากพฤติกรรมของเธอว่า เธอไม่อยากให้สามีได้ตำแหน่ง ไม่อยากเป็นสตรีหมายเลข 1 อีกครั้ง บ้างก็ว่าความสัมพันธ์ของครอบครัวระหองระแหง และเธอทุ่มเทเวลาให้กับลูกชาย-บารอน ที่เพิ่งอายุครบ 18 ปีอย่างเต็มที่ บ้างก็ว่าเธอยังเศร้าเสียใจในการสูญเสียมารดาไปเมื่อช่วงเดือนมกราคมที่ผ่านมา
แต่อีกกระแสหนึ่งก็บอกว่า ไม่ใช่เธอไม่อยากให้สามีได้ตำแหน่ง แต่เธอรู้สึกถูกหักหลัง เพราะสมัยที่เธอต้องยืนเคียงคู่สามีในฐานะศรีภรรยาของผู้นำ เธอโดนหลายฝ่ายโจมตี แถมพอลงจากตำแหน่งก็ยังมีเหล่าบรรดาสตาร์ฟ เจ้าหน้าที่ในทำเนียบขาวออกมาแฉ พฤติกรรมนั่นนี่ และสื่อก็พยายามใส่ร้ายตีข่าวให้เธอดูไม่ดีในสายตาสาธารณชน
ทำให้เธอรู้สึกไม่อยากมีบทบาทในสื่อให้คนอื่นโจมตีได้อีก และวางแผนที่จะไม่รับบทเป็นช้างเท้าหลังที่ต้องตามติดสามี ในฐานะสตรีหมายเลข 1 แบบในธรรมเนียม แต่จะสร้างภาพลักษณ์ตัวตนเป็นสาวแกร่งที่ช่วยงานสามี และทำงานเพื่อสังคมในนามของตัวเธอเองแทน
