แม้ว่า “แพม-สรีนา ธีระวิทยภิญโญ” จะมีแพสชั่นด้านแฟชั่น แต่เพราะเติบโตมาในครอบครัวที่คุณแม่เป็นจิวเวลรีเลิฟเวอร์ และเป็นผู้ก่อตั้งธุรกิจ Scintilla Gioielli (ชินติลา โจแยลลี) ผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายเครื่องประดับอิตาเลียนไฟน์จิวเวลรีชั้นนำจากอิตาลีมากกว่า 20 แบรนด์ มานานกว่า 30 ปี ทำให้แพมค่อยๆ ซึมซับความชอบในจิวเวลรีมาโดยไม่รู้ตัว จนกระทั่ง เมื่อ 4 ปีก่อน เธอก็ตัดสินใจเข้ามาสานต่อธุรกิจครอบครัว ในฐานะทายาทรุ่นที่ 2
“จุดเริ่มต้นของธุรกิจนี้ มาจากความชอบจิวเวลรีของคุณแม่ เพราะคุณตาก็ทำร้านจิวเวลรี คุณแม่เลยมีโอกาสเรียนรู้เกี่ยวกับการดูพลอยดูเพชรมาตั้งแต่ยังไม่แต่งงาน จนกระทั่ง มีครอบครัว คุณแม่เลยมีไอเดียว่าอยากจะทำธุรกิจจิวเวลรีในคอนเซ็ปต์ที่แตกต่างจากตอนที่คุณตาทำ กับสิ่งที่ประเทศไทยมี ด้วยการนำเข้าเครื่องประดับอิตาเลียนไฟน์จิวเวลรี ซึ่งขึ้นชื่อเรื่อง Craftmanship มาจำหน่ายในประเทศไทย จำได้ว่าตอนที่คุณแม่เริ่มธุรกิจแพมเพิ่งจะ 5-6 ขวบ”
แพมยังบอกอีกว่า ด้วยความเป็นเด็กเธออาจจะไม่ได้อินกับจิวเวลรีมากนัก แต่ชอบด้านแฟชั่นมากกว่า พอตอนเข้ามหาวิทยาลัย เลยเลือกเรียนปริญญาตรีสาขา Fashion textile Merchandising ที่เมลเบิร์น ประเทศออสเตรเลีย และปริญญาโทด้าน MBA Luxury Brand Marketing ที่ลอนดอน ประเทศอังกฤษ
หลังจากเรียนจบแพมเริ่มต้นทำงานแรกที่ ALIST รับหน้าที่ดูแลแบรนด์ระดับโลกอย่าง Valentino, Jimmy Choo และ Chole หลังจากทำได้ 3 ปี ก็ย้ายไปที่ Chanel Thailand เป็นเวลา 3 ปี โดยตำแหน่งสุดท้ายคือ Project Manager เป็นแม่งานรับผิดชอบงาน Cruise La Pausa Replica show งานระดับโกลบอลครั้งแรกของประเทศไทย
“ด้วยความที่เป็นลูกสาว แพมคิดอยู่แล้วว่าวันหนึ่งก็ต้องกลับมาช่วยสานต่อธุรกิจของคุณแม่ ซึ่งตอนแรกที่เรียนจบมา แพมก็ยังไม่ได้คิดว่าจะไปทำงานข้างนอก แต่คุณแม่แนะนำให้ไปหาประสบการณ์ เรียนรู้การทำงานจากข้างนอกก่อน ซึ่งแพมโชคดีได้ไปทำงานในบริษัทที่ดี ได้เรียนรู้อะไรหลายอย่าง ที่สำคัญ ได้ทำงานสายแฟชั่นที่ชอบ ทำอยู่ 6 ปี จนเมื่อ 4 ปีที่แล้ว ช่วงที่ก่อนเกิดโควิด-19 คุณแม่ก็ชวนให้กลับมาทำงานที่บ้าน ก็เลยตัดสินใจลาออกจากงาน”
ปัจจุบัน แพมดำรงตำแหน่งผู้บริหาร Scintilla Gioielli ดูแลรับผิดชอบด้าน Retail and Marketing มีหน้าที่กำหนดทิศทางด้านการตลาดและการขายของแบรนด์ รวมทั้งเจรจาธุรกิจและประสานงานพาร์ตเนอร์เครื่องประดับจิวเวลรีแบรนด์อิตาลีระดับโลกมากกว่า 20 ราย ตลอดจนการสร้างภาพลักษณ์ของแบรนด์ที่สื่อสารไปถึงกลุ่มเป้าหมายอีกด้วย
“พอได้เข้ามาลงมือทำอย่างจริงจัง ทำให้ยิ่งเข้าใจธุรกิจนี้มากขึ้น และค้นพบว่า แพมเองก็มีความชื่นชอบในจิวเวลรีไม่น้อย โดยเฉพาะ ไอเทมที่มีดีไซน์เก๋ๆ มีความยูนีค ไม่เหมือนใคร จนบางชิ้นแทบจะเป็น one of a kind ซึ่งถือเป็นหนึ่งในจุดเด่นของแบรนด์ ที่สำคัญ ทุกแบรนด์ที่เราคัดสรรมาเป็นอย่างดี ยังมีจำหน่ายเฉพาะที่ Scintilla Gioielli เท่านั้น ตอบโจทย์กลุ่มลูกค้าที่ชอบไอเทมที่มีความแตกต่าง ไม่อยากใส่ของที่ซ้ำกับคนอื่น รวมถึงกลุ่มที่เป็นนักสะสม สามารถมาเลือกซื้อสินค้าที่เรา เพราะจำหน่ายในราคาที่เท่ากับยุโรป อำนวยความสะดวกให้ลูกค้า และยังปลอดภัย ไม่ต้องเสี่ยงเดินทางไปซื้อถึงต่างประเทศ”
ในฐานะผู้บริหารรุ่นใหม่ ถามว่าแพมมีหลักในการทำงานอย่างไร หลักการง่ายๆ ของเธอคือ “ทำทุกอย่างให้เต็มที่ ทำด้วยใจเกินร้อย”
“ในทุกการทำงาน ย่อมมีทั้งมุมที่เราชอบและไม่ชอบ แต่แพมจะพยายามมองหามุมที่ชอบและมีความสุขมากกว่ามุมที่ไม่ชอบ พอบวกกับการมีเป้าหมายชัดเจนว่า เราจะพาธุรกิจเติบโตหรือขยายไปทางไหน ทำให้เราทำงานอย่างมีความสุข และพร้อมจะไปให้ถึงเป้าหมายที่วางไว้”
สำหรับเป้าหมายระยะยาวที่แพมวางไว้คือ บริหารร้าน Scintilla Gioielli ที่เป็นความรักของคุณแม่ให้ดำเนินไปได้อย่างดี และเติบโตขึ้นเรื่อยๆ ส่วนในระยะสั้นคือ การสร้างพาร์ตเนอร์เพื่อสร้างโปรเจกต์ใหม่ๆ ร่วมกัน สร้างความตื่นเต้นให้กับลูกค้า รวมทั้งสร้างความพึงพอใจและความประทับใจให้กับลูกค้าทุกคน
“แพมมองว่า ธุรกิจเรายังมีโอกาสที่จะขยายไปได้อีกเยอะ เราเองก็ยัง Explore แบรนด์ใหม่ๆ อยู่ตลอด เพราะทุกปีแพมจะเดินทางไปดูของที่อิตาลีเอง ก็จะถือโอกาสอัปเดตเทรนด์ไปด้วย ขณะเดียวกัน เทรนด์ของไฟน์จิวเวลลีที่มีความยูนีค บางชิ้นเป็น one of a kind เป็นอะไรที่ตอบโจทย์ลูกค้ายุคนี้ รวมถึงเด็กรุ่นใหม่ที่โตมาในยุคที่กล้าคิด กล้าแสดงออก เพราะฐานลูกค้าหลักของเราคือ กลุ่มผู้หญิงที่ประสบความสำเร็จ กล้าตัดสินใจ รู้ว่าตัวเองชอบหรือไม่ชอบอะไร”
ชวนคุยเรื่องงานมาพอสมควร พักเบรคมาชวนคุยเรื่องไลฟ์สไตล์ส่วนตัวของแพมกันบ้าง โดยเฉพาะ สไตล์การแต่งตัว ซึ่งแพมออกตัวเลยว่า ชอบแต่งตัวแบบแนวมินิมัล เรียบแต่เก๋ ไม่เน้นหวาน
“เราเน้นมิกซ์แอนด์แมตช์เป็นสไตล์ของเราเอง เพราะโลกของแฟชั่นเป็นอะไรที่หลากหลายมาก ในแต่ละคอลเลกชันมีไอเทมให้เลือกเยอะ แล้วแต่ละแบรนด์ก็มีคาแรกเตอร์ของตัวเอง ซึ่งเราสามารถเลือกแบรนด์ที่เราถูกใจ และมิกซ์แอนด์แมตช์ในสไตล์ที่เราชอบได้ สไตล์ที่แพมชอบจะไม่ใช่สายหวานเลย อย่าง ลายดอกไม้ หรือสีชมพู จะไม่มีในตู้เสื้อผ้าเลย แพมชอบแต่งตัวเรียบๆ เท่ๆ มีความ Masculin นิดๆ เพิ่มความน่าสนใจให้แต่ละลุค ด้วยการใส่เครื่องประดับ ทำให้ส่วนใหญ่ถ้าถามว่าเสียเงินกับอะไรเยอะ อันดับหนึ่งคือ จิวเวลรี รองลงมาคือ กระเป๋า และรองเท้า”
นอกจากแพสชั่นด้านแฟชั่นและจิวเวลรี แพมยังชอบทะเลเป็นชีวิตจิตใจ ถึงขนาดว่างเมื่อไหร่ต้องเก็บกระเป๋าไปเที่ยวทะเล
“แพมชอบทะเล ฉะนั้น ถ้ามีวันหยุดก็จะไปทะเล ออกเรือไปใช้ชีวิตตามเกาะ ดำน้ำ แพมไม่กล้วแดดนะ เพราะมีคุณแม่เป็นทีมซัพพอร์ต จัดสกินแคร์ให้ เลยไปเที่ยวทุกทริปได้แบบไร้กังวล” แพมกล่าวทิ้งท้าย
