xs
xsm
sm
md
lg

เที่ยวเหนือปลายฝนต้นหนาว ชมหมอกภูลังกา สูดโอโซนกลางนาในหุบเขา

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



เดือนตุลาคมช่วงปลายฝนต้นหนาว ฤดูกาลที่หลายคนเริ่มออกไปสัมผัสอากาศเย็นของภาคเหนือ วันนี้เซเลบออนไลน์มีทริปสั้นๆ จะพาไป "พะเยา" ชมหมอกบนยอดภูลังกา ลัดเลาะภูเขาข้ามมายัง "น่าน" เพื่อสักการะพระธาตุแช่แห้ง แล้วไปปิดทริปกันที่ "แพร่" สูดโอโซนกลางหุบเขากันที่บ้านนาคูหา




เริ่มออกเดินทางจากกรุงเทพฯ ด้วยรถยนต์จะใช้เวลาประมาณ 12 ชม.โดยเป้าหมายแรกของเราอยู่ที่ แม่กอยโฮมสเตย์ จุดชมวิวผาช้างน้อย ภูลังกา อำเภอปง จังหวัดพะเยา ซึ่งบริเวณนี้มีที่พักแบบโฮมสเตย์ และจุดกางเต้นสำหรับสายแคมป์ปิ้งอยู่หลายที่ อาทิ ภูลังกาบ้านสวน, บ้านกลางหมอก, ลานกางเต็นท์ภูซัน, Route1148 เป็นต้น สายกินไม่ต้องกลัวอด เพราะมีร้านขายอาหารของชาวบ้าน และร้านค้าชุมชน ส่วนมื้อค่ำบนยอดภูที่อากาศเย็นมีฝนปรอยเราเลือกฝากท้องกับ ชุดหมูกระทะ ที่ลานกางเต็นท์ภูซัน






ตื่นกันตั้งแต่รุ่งเช้าพร้อมเสียงฝนที่ตกกระหน่ำ จนหลายคนถอดใจว่าอาจไม่ได้ชมหมอกหนา ๆ แต่เมื่อฝนเริ่มซา แสงอาทิตย์เริ่มแตะขอบฟ้า ความงดงามที่รอคอยก็ปรากฏ หมอกหนาบนจุดชมวิวผาช้างน้อย ค่อย ๆ เคลื่อนตัวไล้เลียภูเขาลงไปจนเต็มพื้นที่ ให้นักท่องเที่ยวได้บันทึกภาพกันอย่างจุใจ






แวะไปปักหมุดเช็คอินกันที่ร้านกาแฟชื่อดัง Magic mountain cafe เป็นจุดชมทะเลหมอกพร้อมจิบกาแฟอุ่น ๆ ชื่นชมบรรยากาศกันจนสาย พอหมอกหนาเริ่มจาง ก็เก็บกระเป๋าพร้อมออกเดินทางลงเขา ซึ่งมีจุดชมวิวให้แวะจอดรถข้างทางถ่ายภาพกันได้อีกหลายจุด โดยทางลงเขาฝั่งน่านนี้เป็นทางที่คดเคี้ยวจนทำให้วิงเวียนกันได้ง่าย ๆ




เข้าสู่ตัวเมืองน่านกันตอนเที่ยง มาเติมพลังด้วยอาหารพื้นเมืองที่ "ร้านเฮือนภูคา" ร้านอาหารเหนือที่ตกแต่งสไตล์พื้นเมือง ราคาดี วัตถุดิบคุณภาพ เมนูที่มาแล้วต้องสั่งกันแทบทุกโต๊ะคือ ซี่โครงหมูทอดมะแขว่น, ผักเชียงดาผัดไข่, แกงฮังเล, ลาบหมูคั่ว, ยำผักกูดกุ้งสด, ออร์เดิร์ฟเมือง เป็นต้น




อิ่มท้องแล้วไปอิ่มบุญกันต่อที่ "วัดพระธาตุแช่แห้ง พระอารามหลวง" โบราณสถานศักดิ์สิทธิ์คู่เมืองน่าน อายุกว่า 600 ปี นอกจากนั้นยังเป็นพระธาตุประจำปีนักษัตรกระต่าย นอกจากองค์พระธาตุแช่แห้งแล้ว ภายในวัดยังมีวิหารหลวง ประดิษฐานพระเจ้าล้านทอง ปางมารศรีวิชัยศิลปะล้านนา เป็นพระประธาน ด้านหน้านอกกำแพงแก้วยังมี วิหารพุทธไสยาศน์, วิหารพระเจ้าทันใจ, เจดีย์ชเวดากองจำลอง และ บันไดนาคคู่ที่อยู่ด้านหน้าทางเข้าวัดอีกด้วย

ซึ่งในวันขึ้น 12 ค่ำ เดือนเกี๋ยงเหนือ ปีนี้ตรงกับวันที่ 26 ตุลาคม 2566 ทางวัดจะมีงานประเพณีถวายตานสลากภัตร ใครมาเที่ยวช่วงนี้สามารถร่วมบุญ ร่วมถวายตานสลากภัตร เพื่อสืบสานประเพณีตานก๋วยสลากที่สำคัญของชาวล้านนาไทย






ออกจากน่านเข้าสู่ตัวเมืองแพร่ก็เย็นค่ำ เราแวะพักกันที่ "สวนกลางนา โฮมสเตย์" (Suan Glang Na Homestay) โฮมสเตย์เล็ก ๆ กลางทุ่งนา ออกแบบให้โปร่งโล่งรับลม ชมวิวได้กว้าง 360 องศา ไม่ว่าจะชมหลังคาเมืองแพร่หรือภูเขาช้างผาด่านล้อมด้วยหมอกยามเช้า ไปจนถึงชมสีสันบนท้องฟ้ายามพระอาทิตย์ตกดินที่ลานกางเต้นท์ แถมคนรักสัตว์จะต้องถูกใจเพราะที่นี่มีกิจกรรมให้อาหารห่านในตอนเช้า และน้องห่านทุกตัวเป็นมิตรกับนักท่องเที่ยว






สวนกลางนา โฮมสเตย์ ยังมีร้านอาหารโฮมเมดชื่อ "Bunny's Steakhouse" เน้นอาหารฝรั่งมีทั้ง สเต็กเนื้อ, สเต็กแซลมอน, สเต็กอกเป็ด, ซีซ่าสลัด, สปาเก็ตตี้ หรืออาหารไทยอย่าง ผัดกะเพรา, ข้าวผัด, ส้มตำ ไว้ให้บริการในช่วงกลางวันไปจนดินเนอร์ แถมยังมีไวน์ หรือ คอกเทลให้บริการ บนรูฟท็อปของร้านยังมีมุมให้ถ่ายรูปและชมวิวแบบพาโนราม่า




แม้สวนกลางนา โฮมสเตย์ จะไม่ได้มีสิ่งอำนวยความสะดวกมากมาย ไม่มีทีวี หรือตู้เย็นในห้องพัก แต่ก็เหมาะกับการเป็นสถานที่พักผ่อน ตัดขาดจากความรีบเร่งในเมืองใหญ่แล้วไปฮีลใจในวันหยุด จะไปแบบคู่รัก แก๊งค์เพื่อน หรือทริปครอบครัว เจ้าของอย่างคุณต่ายและคุณเจอโรม ก็พร้อมที่จะให้การต้อนรับอย่างอบอุ่นเหมือนไปนอนบ้านเพื่อนแน่นอน






ขับรถจากที่พักมาเพียง 20 นาทีก็ถึงแหล่งโอโซนอันดับ 7 ของประเทศไทย ณ "บ้านนาคูหา" ตำบลสวนเขื่อน อำเภอเมือง จังหวัดแพร่ หมู่บ้านเล็กๆ ที่ซ่อนตัวอยู่กลางหุบเขา จุดเด่นคือวัดนาคูหา ที่มองเห็นพระเจ้าต๋นหลวง พระพุทธรูปปางฉันสมอสีทองอร่ามท่ามกลางทุ่งนาสีเขียว จากองค์พระมีทางเดินสะพานไม้ไผ่(สะพานขัวแตะ) ให้เดินออกไปชมทุ่งนา ชมลำห้วยแม่แคมที่ใสเย็น




ในพระอุโบสถยังประดิษฐานพระพุทธรูป พระเจ้ายิ้ม และสมเด็จองค์ปฐมบรมจักรพรรดิทรงเครื่อง ส่วนที่ศาลาแสงศิรประภาก็ประดิษฐานพระพุทธสุวัณณมเหสักข์ หรือ พระเจ้าไม้สักทอง ให้ชาวบ้านได้สักการะบูชากัน ก่อนเดินทางกลับอย่าลืมแวะอุดหนุนสินค้าชุมชนทั้งผักผลไม้ตามฤดูกาล รวมถึงกาแฟ และผ้าม่อฮ่อมที่เป็นของขึ้นชื่อประจำจังหวัดแพร่อีกด้วย


กำลังโหลดความคิดเห็น