ถ้ามีการประกวด “นักเดินทางอาชีพ” เห็นทีตำแหน่งนี้คงต้องยกให้ “อู้-นพปฎล พหลโยธิน” นักออกแบบเชื้อชาติไทยแถวหน้าๆ ของโลก ที่ขยันเดินทางไปทริปโน่นทริปนี่เป็นว่าเล่น จนแทบจะไม่อยู่เมืองไทยเลยก็ว่าได้ พอได้จังหวะเหมาะทราบว่า เจ้าตัวเช็กอินอยู่ประเทศไทย Celeb Online จึงไม่พลาดขอคิวแบบสายฟ้าแลบ เพื่อชวนมาคุยถึงไลฟ์สไตล์การเดินทาง ทริปประทับใจให้หลายคนตาร้อนผ่าว
ประเดิมด้วยคำถามที่เชื่อว่าคาใจหลายๆ คน คือ ในแต่ละปี อู้เดินทางถี่ขนาดไหน งานนี้เจ้าตัวบอกว่า ถ้ารวมๆ น่าจะเกิน 10 ทริปต่อปี เพราะเฉลี่ยอย่างน้อยต้องมี 1 ทริปทุกเดือน ซึ่งจะประกอบด้วยทริปใหญ่ๆ 1 ทริป อย่าง สหรัฐฯ ยุโรป หรือละตินอเมริกา
“ล่าสุด ผมเพิ่งไปเล่นสกีที่ชิลีมา แค่เวลาเดินทางก็ 60 ชั่วโมง บินไป 30 ชั่วโมง กลับอีก 30 ชั่วโมง ไปเล่นสกี 4 วัน วันละ 5 ชั่วโมง รวมแล้วน้อยกว่าเวลาที่ใช้เดินทางอีก แต่สำหรับผมเวลาเดินทางไม่ใช่ประเด็น แต่จุดหมายปลายทางที่ไปสำคัญกว่า เป้าหมายของผมในทริปนี้คือ อยากไปเปิดประสบการณ์ใหม่ๆ ในการลองเล่นสกีที่ชิลี ซึ่งอยู่ในโซนขั้วโลกใต้ดูซักครั้ง”
สำหรับรูปแบบทริปของอู้ มีทั้งทริปครอบครัว ทริปเพื่อน และทริปแบบตะลุยเดี่ยว ซึ่งอู้บอกว่า ได้อรรถรสคนละแบบ ถ้าไปกับครอบครัวหรือเพื่อนฝูง อาจจะเดินทางไม่คล่องตัว เพราะไปกันหลายคน แต่ก็มีคนดูแลกันตลอดทริป มีวีรกรรมต่างๆ ให้จดจำระหว่างทริป แต่ถ้าทริปไหนลุยเดียว จะเน้นความคล่องตัว เปลี่ยนสถานที่ไปเรื่อยๆ ตามใจ
“ผมไม่ใช่แนวหาข้อมูลเยอะ เวลาไปเที่ยวไม่ได้แพลนอะไร ถ้าไปที่ที่ไม่เคยไป ผมก็อาจจะหาไกด์ท้องถิ่นพาเที่ยว แต่ถ้าเป็นที่ที่ไปบ่อยแล้ว ไปคนเดียวผมก็จะลุยมาก อาจจะไปพักเวนิส 2 วัน แล้วก็ไปปิซ่าอีก 2 วัน จากนั้นไปมาร์ราเกซ 1 วัน แล้วก็ไปลิสบอน ไปลอนดอน
ใครที่เห็นแพลนผมอาจจะแปลกใจทำไมไปหลายที่ จริงๆ แล้วเพราะว่าผมเคยไปมาหมดแล้วทุกที่ที่บอกมา เลยรู้ว่าแต่ละที่มีอะไรและอยากไปทำอะไรที่ไหน ผมก็จะเลือกไปจะได้ไม่เสียเวลา แต่บางทริปผมก็อาจจะอยากไปนอนเล่นชิลๆ อยู่ยาวๆ ที่เดียวเลยก็มี แล้วแต่สถานการณ์ ถ้าเป็นทริปที่ไปกับคุณแม่ ซึ่งท่านอายุ 82 ปีแล้ว ท่านก็จะมี Bucket List ในใจที่อยากไป แต่ส่วนใหญ่จะชอบไปเช่าวิลล่า เล่นสกีที่เมือง Megève ซึ่งผมไปตั้งแต่อายุ 10 ขวบ จนตอนนี้อายุ 57 ปี คือไปมา 47 ปีแล้วก็ยังไป และไปทีไรก็ยังประทับใจเสมอ เพราะนอกจากจะไปเล่นสกีที่ชอบ ด้วยบรรยากาศของเมือง ร้านอาหาร ทุกอย่างลงตัว”
ถามว่าเดินทางมาเยอะ ยังมีจุดหมายไหนที่อยากไปแล้วยังไม่ได้ไป อู้ตอบว่าไม่มี เพราะถ้าเป็นที่ที่อยากไปก็ไปมาหมดแล้ว แต่ถ้าถามว่าเดินทางมารอบโลกหรือยัง คำตอบคือยัง และคงไม่ได้คิดว่าจะเดินทางเพื่อเก็บให้ครบ
“ส่วนใหญ่ผมจะไปที่ซ้ำๆ อย่าง ปารีส ผมไปมาไม่น้อยกว่า 100 ครั้ง คิดง่ายๆ ไปปีละ 2 ครั้งมา 50 ปี หรืออย่าง ลอนดอน นี่คล่องมาก ทั้งเดินทั้งขับรถได้หมด ไม่ต้องใช้ Google Maps มาถึงตอนนี้ ไลฟ์สไตล์การเดินทางของผมก็เปลี่ยนไป เน้นไปที่ที่อยากไปมากกว่า ไม่เหมือนตอนวัยรุ่น ที่เดินทางเยอะมาก เที่ยวเชิง exotic มาหมดแล้ว อย่างไปอยู่อินเดีย 1 เดือน ซึ่งสมัยนั้นยังไม่ได้มีเชนโรงแรมเหมือนทุกวันนี้ ต้องไปติดต่อกับมหาราชา หรือไป อินโดนีเซีย ก็นั่งเรือไปตะลุยทุกเกาะ ไปอยู่โมร็อกโก 2 เดือน นอนเต็นท์กับชาวเขา นอนกลางทะเลทราย”
ทั้งนี้ อู้บอกว่าหนึ่งใบเบิกทางสำคัญที่ทำให้เดินทางได้คล่องตัวคือ ด้วยความที่เป็น British Citizen ทำให้พาสปอร์ตของผมสามารถเดินทางไปได้ 90 ประเทศทั่วโลก บางครั้งเพื่อนชวนไปปาร์ตี้ หรือไปงานเฟสติวัลในต่างประเทศ ก็เดินทางไปได้เลย ไม่ต้องขอวีซ่า
“อย่างช่วงที่เปิดประเทศแรกๆ หลังโควิด-19 ผมก็เริ่มเดินทางเลย ช่วงนั้นเป็นนาทีทอง เพราะราคาตั๋วเครื่องบินและโรงแรมถูกมาก อย่าง First Class ราคาสมเหตุสมผล จนรู้สึกว่าไม่มีทางจะจ่ายราคานี้ไปตลอดชีวิต และก็เป็นอย่างนั้นจริงๆ เพราะตอนนี้ ราคาตั๋วเครื่องบินและโรงแรมปรับขึ้นเยอะมาก แต่ในฐานะคนชอบเดินทางก็ต้องยอมจ่าย(หัวเราะ)”
ชวนคุยเรื่องท่องเที่ยวมาอย่างเต็มอิ่ม ปิดท้ายด้วยการอัปเดตธุรกิจร้านอาหารของอู้กันบ้าง ที่นอกจาก ล่าสุด จะมีข่าวดีคือ ห้องอาหาร ‘Ojo’ ของโรงแรม The Standard, Bangkok Mahanakhon ที่อู้ออกแบบได้รับรางวัล Restaurant & Bar Design Awards® ซึ่งเป็นหนึ่งในรางวัลที่สำคัญที่สุด ในวงการธุรกิจโรงแรม อู้ยังเพิ่งเปิดร้านอาหารแห่งใหม่ เอาใจคนชอบซีฟู้ดอีกด้วย
“ตอนนี้ผมมีร้านอาหาร 3 แห่ง ได้แก่ ร้านหอสมุทร ร้านอาหารทะเลริมแม่น้ำเจ้าพระยาน้อง ที่เพิ่งเปิดตัวหมาดๆ, ร้านโรงรส ที่นอกจากจะอยู่ตรงข้ามวัดอรุณฯ มีวิวสวยๆ เป็นอาหารตา ยังเน้นต้อนรับนักท่องเที่ยว ด้วยรสชาติอาหารแบบไทยแท้ และ Contento ร้านอาหารสไตล์อิตาเลียน ที่เปิดตัวช่วงโควิด-19 เน้นออกแบบให้รู้สึกเหมือนว่าได้บินไปอิตาลี แต่จริงๆ แล้วแค่แวะมาที่หัวลำโพง นอกจากนี้ ยังมีบาร์ที่ชื่อว่า Mr. OU’s Famous Lucky Duck บาร์ลับเซี่ยงไฮ้แห่งใหม่ย่านไชน่าทาวน์”
เรียกได้ว่าหนุ่มคนนี้ใช้ชีวิตได้อย่างคุ้มค่าแบบสุดๆ ทั้งทำงานหนัก มีโปรเจกต์ใหม่ๆ แบบไม่หยุดนิ่ง แต่ก็ไม่ลืมให้เวลาตัวเอง ออกเดินทางท่องเที่ยวอย่างเต็มที่ เติมเต็มชีวิตในทุกแง่มุมอย่างแท้จริง