xs
xsm
sm
md
lg

ดังแค่ไหน ก็ไม่พ้นโดนแบน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



มาตรการลงโทษบรรดาศิลปินคนดังส่วนใหญ่มักจะใช้วิธี “การแบน” ตั้งแต่การงดเผยแพร่ผลงานไปจนถึงการขึ้นบัญชีดำเป็นบุคคลห้ามเข้าอาณาจักร โดยเฉพาะประเด็นเกี่ยวข้องกับการเมืองซึ่งเป็นเรื่องอ่อนไหว ที่ศิลปินหรือคนดัง ‘หัวดื้อ’ มักหยิบยกความเห็นต่างมาแสดงออก ด้วยการพูดออกสื่อหรือแสดงพฤติกรรมยั่วยุเรียกร้องความสนใจ และมักจะได้ผล ทำให้ใครที่เกี่ยวข้องต้องตอบโต้ด้วยมาตรการที่เห็นชอบ เรื่องแบบนี้สามารถเกิดขึ้นได้ทุกที่ ไม่ว่าในประเทศเผด็จการหรือประเทศประชาธิปไตยเบ่งบานก็ตาม


The 1975
กลายเป็นวงต้องห้ามสำหรับมาเลเซียไปทันที หลังจากพวกเขาเปิดการแสดงคอนเสิร์ตที่ ‘Good Vibe Festival’ ในเมืองหลวงกัวลาลัมเปอร์ซึ่งเป็นเทศกาลดนตรีที่ใหญ่ที่สุดของประเทศ เหตุเพราะ “แมตตี ฮีลี” นักร้องนำของวงเปิดฉากยั่วยุ ด้วยการจูบปากกับ “รอสส์ แม็คโดนัลด์” มือเบสของวง เพื่อเรียกร้องความสนใจไปที่สถานการณ์ปัจจุบันของมาเลเซีย และรณรงค์เพื่อสิทธิเสรีภาพของชาว LGBTQ+ ซึ่งก่อนหน้าเขาก็วิจารณ์เกี่ยวกับท่าทีของรัฐบาลมาเลเซียที่ต่อต้านโฮโมเซ็กฌวลว่า “ผมไม่เห็นประเด็นที่จะเชิญวง The 1975 ไปแสดงแล้วมากำหนดว่าเราควรจะมีเพศสัมพันธ์กับใครได้บ้าง แต่มันก็เป็นความผิดของผมเองที่ไม่ได้ใส่ใจตอนที่เขาติดต่อขอคิวมา” ภาพอื้อฉาวบนเวทีส่งผลให้หน่วยงานที่รับผิดชอบของรัฐต้องสั่งยุติเทศกาลดนตรีกลางคัน พร้อมแจงเหตุผลว่า “จะไม่มีการประนีประนอมกับใครก็ตามที่ท้าทาย ดูแคลน หรือละเมิดกฎหมายของมาเลเซีย” และรักร่วมเพศในประเทศมาเลเซียถือเป็นอาชญากรรมที่มีโทษจำคุกสูงสุด 20 ปี และโทษเฆี่ยนตี “พฤติกรรมของวง The 1975 ครั้งนี้ถือว่าหยาบคายมาก” แต่นี่ไม่ใช่ครั้งแรก แมตตี ฮีลีเคยรณรงค์เพื่อ LGBTQ+ ตามที่ต่างๆ มาแล้วหลายครั้ง เมื่อปี 2019 เขาก็จูบปากแฟนเพลงผู้ชายคนหนึ่งระหว่างการแสดงคอนเสิร์ตในสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ซึ่งเป็นการต่อต้านกฎหมายที่บังคับใช้ที่นั่นเหมือนกัน


Rechtsrock
หรือ “ร็อกฝ่ายขวา” เป็นคำจำกัดความของดนตรีที่มีเนื้อหาแบบขวาสุดโต่งในเยอรมนี ซึ่งมีเนื้อหาของเพลงต่อต้านกลุ่มเซมิติกและเหยียดผิว เหยียดโฮโมเซ็กฌวล เหยียดเพศ ชาตินิยม และยกย่องลัทธินาซี คำว่า “ร็อกฝ่ายขวา” ไม่ได้หมายความเพียงดนตรีร็อกแบบขวาสุดโต่งเท่านั้น แต่ยังรวมถึงเพลงบัลลาด แบล็กเมทัล ฮาร์ดคอร์ และแร็ปที่ขวาสุดขั้วด้วย ปัจจุบันในเยอรมนีมีศิลปิน “ร็อกฝ่ายขวา” อยู่กว่า 100 วง มีรายชื่อเปิดเผยอย่างเป็นทางการให้สาธารณชนรับรู้ เพื่อให้เยาวชน ครู ผู้ปกครอง และนักสังคมสงเคราะห์ตื่นรู้ถึงดนตรีของกลุ่มศิลปินการเมืองแบบขวาสุดโต่ง ศิลปิน 100 กว่าวงนี้แทบไม่มีโอกาสได้แสดงหรือโชว์ผลงานต่อสาธารณชน แต่เป็นที่รู้จักและชื่นชมเฉพาะในกลุ่มที่มีแนวคิดทางการเมืองแบบเดียวกันเท่านั้น


Al Bano
ชื่อจริง “อัลบาโน คาร์ริซี” ป๊อปสตาร์ชาวอิตาลีวัย 80 ปี และภรรยา “โรมินา พาวเวอร์” กลายเป็นศิลปินต้องห้ามสำหรับประเทศยูเครน ด้วยเหตุผลว่าเป็นอันตรายต่อความมั่นคงของชาติ สาเหตุเพราะบทสัมภาษณ์ของเขาที่แสดงความยินดีต่อการที่รัสเซียผนวกคาบสมุทรไครเมียในทะเลดำเข้าเป็นส่วนหนึ่งของรัสเซีย อีกทั้งเขายังแสดงความชื่นชม “วลาดิมีร์ ปูติน” อย่างออกหน้าออกตาว่า “อิตาลีน่าจะมีนักการเมืองแบบปูติน” อัล บาโนรู้จักมักคุ้นกับผู้นำรัสเซียมาตั้งแต่ปี 1986 เมื่อครั้งที่ปูตินยังเป็นเจ้าหน้าที่ของหน่วยสืบราชการลับ KGB การถูกขึ้นบัญชีดำของอัล บาโนยังหมายความว่า มิวสิกวิดีโอและภาพยนตร์ที่เขาเล่นจะไม่ได้รับการเผยแพร่ในยูเครนได้อีกต่อไปด้วย เมื่อปี 2019 ที่รู้ข่าวถูกยูเครนแบน อัล บาโนรู้สีกเสียใจ เขากล่าวบอกความในใจกับสื่อว่า “ผมไม่เคยพูดอะไรที่ต่อต้านยูเครนเลย เป็นเรื่องที่ยอมรับไม่ได้ ที่ผมผู้ซึ่งร้องเพลงเพื่อสันติภาพมาโดยตลอด แต่กลับได้รับการปฏิบัติเหมือนเป็นผู้ก่อการร้าย” นอกจากอัล บาโนแล้ว ในคราวเดียวกันยูเครนยังใส่ชื่อคนดังอีก 147 คนในบัญชีดำ อย่างเช่น “เจอรารฺด์ เดอปาร์เดอ” นักแสดงชาวฝรั่งเศส “เอมีร์ คุสตูริกา” ผู้กำกับฯ ชาวเซอร์เบีย “สตีเวน ซีกัล” ดาราฮอลลีวูด และ “รอย โจนส์ จูเนียร์” นักมวยชาวอเมริกัน




Lady Gaga & Ariana Grande
ผลงานเพลง หนัง หรือซีรีส์ของ 2 ซูเปอร์สตาร์ชาวอเมริกัน ไม่เป็นที่ปรารถนาของประเทศสิงคโปร์อย่างแรง สิงคโปร์ได้ชื่อว่าเป็นประเทศที่มีกฎหมายค่อนข้างเข้มงวด โดยเฉพาะเรื่องที่เกี่ยวกับระเบียบสังคม นอกจากนี้ยังเป็นประเทศอนุรักษ์นิยม เพศสัมพันธ์แบบรักร่วมเพศเป็นสิ่งต้องห้าม เนื้อหาคำพูดและสื่อจะถูกควบคุม และนั่นทำให้เพลงฮิตอย่าง ‘God is a Woman’ ของ “อาเรียนา กรันเด” จึงเข้าไปติดในรายชื่อ “เนื้อเพลงที่ชี้นำ” ไม่เพียงแต่ชื่อเพลง แต่เนื้อหาที่กล่าวถึงพระเจ้าซึ่งอาจจะเป็นผู้หญิงก็ได้-นั่นด้วย รวมถึงเพลง ‘Judas’ ที่เกี่ยวข้องกับเรื่องศาสนาหรือชาติกำเนิดของเลดี้กาก้าก็ไม่รื่นหูนักสำหรับรัฐบาลสิงคโปร์ กระทรวงมาตุภูมิของสิงคโปร์ยืนยันว่า ไม่ใช่ทุกสิ่งที่ “ก้าวร้าว” จะได้รับอนุญาต


จัสติน บีเบอร์
ศิลปินคนดังไม่ได้ถูกแบนด้วยเหตุผลทางการเมืองของประเทศไหน แต่กลับมีปัญหากับค่ายรถหรู Ferrari เหตุเพราะพฤติกรรมการใช้รถของเขา เริ่มจากการเปลี่ยนสีรถ Ferrari 458 Italia F1 สีขาวดั้งเดิมเป็นสีน้ำเงินนีออนเสียใหม่ และเมื่อปี 2016 เขาขับมันไปจอดทิ้งไว้ที่ลานจอดรถในลอสแองเจลิสนานถึงสองสัปดาห์ เพราะเขาหามันไม่เจอหลังจากปาร์ตี้มาทั้งคืน เรื่องนี้เขากล่าวกับสื่อว่า เป็นเพราะประตูบังโคลนน่าเกลียดนั่น และขอบล้อจากผู้ผลิตรายอื่น ในที่สุดเขาก็ขายรถและนำเงินไปบริจาค สำหรับค่ายรถอิตาลีแล้วคำกล่าวและการกระทำของเขาถือเป็น “บาปมหันต์” บีเบอร์อาจไม่รู้ว่าเฟอร์รารีมองรถของตนเป็นงานศิลปะ และกฎที่เข้มงวดก็มีผลกับลูกค้า แค่ทำการดัดแปลงรถให้ผิดไปจากสภาพเดิมก็นับว่าหนักหนาแล้ว นี่ยังกล่าวถึงรถอย่างดูแคลนอีกด้วย กฎของเฟอร์รารีมีอยู่ว่า ห้ามขายต่อรถใหม่ในปีแรก หากจะขายต้องแจ้งบริษัทเพื่อว่าบริษัทจะได้ซื้อคืนเอง อย่างไรก็ตาม จัสติน บีเบอร์ไม่ได้เป็นคนเดียวที่ติดบัญชีดำของ Ferrari ยังมีแรปเปอร์ 50 Cent, นิโคลัส เคจ และคิม คาร์เดเชียน เป็นคนบาปในกลุ่มด้วย


กำลังโหลดความคิดเห็น