สภาพอากาศร้อนที่ร้อนอบอ้าวนอกจากจะส่งผลกระทบต่อสุขภาพผิวหน้าของเราทำให้หน้าของเรามันเยิ้ม เป็นสิว ฝ้าและกระได้ง่ายแล้ว ยังเป็นอุปสรรคในการแต่งหน้าที่ย่อมส่งผลถึงความมั่นใจของเราด้วย แบรนด์ผลิตภัณฑ์เพื่อการดูแลสุขภาพผิวและเส้นผม ‘ธัญ’ (THANN) แนะผลิตภัณฑ์ดูแลสุขภาพผิว ‘เพียวริฟายอิ้ง เฟซ วอช’ (Purifying Face Wash), ‘โอ๊ตมีล เฟซ สครับ’ (Oatmeal Face Scrub), ‘รีไวทอลไลซิ่ง เฟซ มาส์ก’ (Revitalizing Face Mask) และ ‘ไฮเดรติ้ง อิมัลชั่น’ (Hydrating Emulsion) พร้อมเผย “เทคนิคการแต่งหน้าที่เหมาะกับสภาพอากาศที่ร้อนอบอ้าว” โดยช่างแต่งหน้ามืออาชีพ ปรีชา ดวงเพชร (จิม เมคอัพ)
ปรีชา ดวงเพชร ช่างแต่งหน้ามืออาชีพ เผยเทคนิคการแต่งหน้าแบบมินิมอลที่เหมาะกับสภาพอากาศร้อนอบอ้าวว่า “ความสำคัญของการแต่งหน้าก็เพื่อความสวยงาม และช่วยปกปิดจุดด้อยต่างๆ บนใบหน้าเรา ดังนั้นการมีผิวสวยสุขภาพดีถือว่าเป็นพื้นฐานของการแต่งหน้าเลยก็ว่าได้ สามารถเริ่มได้จากการล้างทำความสะอาดผิวหน้า หากแต่งหน้าควรเช็ดทำความสะอาดด้วยคลีนซิ่งก่อนเพื่อขจัดคราบเครื่องสำอาง แล้วล้างหน้าด้วยเพียวริฟายอิ้ง เฟซ วอช ตามด้วยการปรับสภาพผิวและกระชับรูขุมขนด้วยโทนเนอร์ เพื่อเตรียมผิวให้พร้อมสำหรับการบำรุงก่อนบำรุงผิวด้วยมอยเจอร์ไรเซอร์ที่สามารถมอบความชุ่มชื้นให้กับผิวได้ยาวนาน และที่สำคัญควรเป็นมอยเจอร์ไรเซอร์ที่เป็นเนื้ออิมัลชั่น (Emulsion) ก็จะเหมาะกับสภาพอากาศร้อนอบอ้าวอย่างบ้านเรา และไม่ควรลืมทาครีมกันแดดเพื่อปกป้องผิวจากแสงแดดก่อนการแต่งหน้า
เทรนด์การแต่งหน้าในแต่ละปีอาจจะไม่ได้แตกต่างกันมาก แต่จะเน้นการเลือกใช้สีสันแต่งแต้มตามแต่ละฤดูกาล อย่างช่วงสปริง ซัมเมอร์ จะเน้นสีโทนธรรมชาติอย่างสีน้ำตาล เบจ นู้ด หากเป็นช่วง ออทัม วินเทอร์ ก็จะมีสีสัน มีการเพิ่มกลิตเตอร์ ชิมเมอร์ ให้ดูแวววาวมีลูกเล่น ดูสนุกสนานมากขึ้น สำหรับเทรนด์การแต่งหน้าที่เหมาะสำหรับสภาพอากาศร้อนอบอ้าวแบบช่วงนี้ก็จะเน้นการใช้เครื่องสำอางน้อยๆ แบบเบาสบาย เพื่อเป็นการโชว์ผิวได้และไม่ทำให้หน้าเราเกิดความมันเยิ้มได้ง่าย สามารถแบ่งออกเป็น 2 แบบ คือ
- การแต่งหน้าแบบ Skinimalism มาจากการรวมคำว่า "Skin" (ผิวหนัง) และ "Minimalism" (การเน้นสิ่งน้อยลง) เข้าด้วยกัน การแต่งหน้าแนวนี้จะเน้นความเรียบง่ายและเปิดเผยความเป็นธรรมชาติของผิว โดยให้ความสำคัญกับขั้นตอนการบำรุงผิวให้ชุ่มชื้นดูมีสุขภาพดีมากกว่าเน้นการประโคมด้วยเครื่องสำอางเพื่อปกปิดจุดบกพร่องอย่างริ้วรอย จุดด่างดำหรือรูขุมขน อาจมีการใช้รองพื้นแบบที่มีความเบา เกลี่ยง่าย เพื่อทำให้สีผิวดูสม่ำเสมอกัน เพราะช่วยให้ผิวสามารถหายใจได้และลดการอุดตันของรูขุมขน นอกจากนี้ยังสามารถแต่งเติมสีสันและความโกลว์ได้ด้วยการแต่งตา แต่งคิ้ว และทาลิปสติกเฉดสีที่ชอบได้
- การแต่งหน้าแบบ Makeup No Makeup จะเน้นความเป็นธรรมชาติ ไม่ฉูดฉาด เหมือนไม่ใช้เครื่องสำอาง การแต่งหน้าแนวนี้จะใช้เบสหรือไพรเมอร์เพื่อปรับสภาพสีผิวแทนการใช้รองพื้น ใช้คอนซีลเลอร์ปกปิดริ้วรอยเฉพาะจุด ใช้แป้งฝุ่นเพื่อควบคุมความมันส่วนเกินบนใบหน้า ใช้ครีมบลัชแทนการใช้บลัชออนแบบฝุ่น ส่วนตาไม่ต้องใช้อายแชโดว์หรือใช้เพียงสีเดียวอ่อนๆ ดัดขนตาและปัดมาสคาร่าก็เพียงพอ ส่วนคิ้วก็เขียนตามโครงคิ้วเดิมและใช้แปรงปัดจัดระเบียบให้เรียบร้อย ถ้าเป็นลิปก็ใช้ลิปกลอสเพื่อความเป็นธรรมชาติ”