xs
xsm
sm
md
lg

เฮลิคอปเตอร์หรู “แอนตัน มาร์ติน” บินโฉบมาไทยครั้งแรก หลังเคยบินมาแล้วกว่า 30 ประเทศทั่วโลก

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



นับเป็นที่ฮือฮาสำหรับวงการบินและยานยนต์ เมื่อ “แอสตัน มาร์ติน แบงคอก” ผู้นำเข้าและจำหน่ายรถยนต์”แอสตัน มาร์ติน” อย่างเป็นทางการแต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทย มีโอกาสต้อนรับ “ACH130 Aston Martin Edition” เฮลิคอปเตอร์หรู ของนักธุรกิจหนุ่มชาวออสเตรเลีย และเพื่อนอีก 2 คน ที่บินมาเยือนประเทศไทยเป็นครั้งแรก พร้อมเข้าตรวจสภาพและทำความสะอาด ที่ศูนย์แอร์บัส เฮลิคอปเตอร์ เขตมีนบุรี กรุงเทพมหานคร เมื่อวันก่อน


ACH130 Aston Martin Edition” เฮลิคอปเตอร์สุดหรู เปี่ยมด้วยกลิ่นอายของแบรนด์สุดยอดยนตรกรรมอย่าง แอสตัน มาร์ติน ไม่ว่าจะเป็นสีภายในห้องโดยสาร เบาะ หมอนรองศีรษะ ทั้งยังได้รับเกียรติจาก มร. เจพี ธอร์ ผู้ครอบครอง พาชมความงดงามของเฮลิคอปเตอร์ส่วนตัวลำนี้ พร้อมบอกเล่าถึงประสบการณ์การบินเฮลิคอปเตอร์ลำโปรดที่ไปมาแล้วกว่า 30 ประเทศ ใน 4 ทวีปทั่วโลก ตลอด 4 สัปดาห์ ตั้งแต่ประเทศในแถบยุโรป อียิปต์ ซาอุดิอาระเบีย ปากีสถาน อินเดีย ไทย มาเลเซีย และออสเตรเลีย”


ด้านมร. เจพี ธอร์ นักธุรกิจหนุ่มชาวออสเตรเลีย วัย 34 ปี เล่าเหตุผลในการตัดสินใจเป็นเจ้าของเฮลิคอปเตอร์ลำนี้ ว่า “ผมอยากได้เฮลิคอปเตอร์ที่มีความปลอดภัย สมรรถนะดี และมีระยะการบิน ที่ต่อเนื่อง และเรื่องดีไซน์ความสวยงามทั้งภายในและภายนอก ซึ่ง “ACH130 Aston Martin Edition” เป็นรุ่นเดียวที่ตอบสนองความต้องการทั้งหมด ผมเริ่มขับเฮลิคอปเตอร์ครั้งแรกเมื่อประมาณสองปีที่แล้ว ในประเทศออสเตรเลีย จากนั้นมีโอกาสบินท่องเที่ยวสำรวจสถานที่ต่างๆ ผมชื่นชอบการขับ เฮลิคอปเตอร์ เพราะรู้สึกปลอดภัยและรวดเร็ว เลยตัดสินใจอัพเกรดเฮลิคอปเตอร์ให้มีขนาดใหญ่ขึ้น นี่เป็นลำแรก ที่มีขนาดใหญ่ถึง 7 ที่นั่ง และเป็นครั้งแรก ที่ได้ขับเฮลิคอปเตอร์นอกออสเตรเลีย ผมไปรับเครื่องที่สหราชอาณาจักร เพื่อบินกลับมาออสเตรเลียด้วยตัวเอง”


นอกจาก ACH130 Aston Martin Edition จะเปี่ยมล้นด้วยสมรรถนะแล้ว ยังจัดเต็มด้านความหรูหราสุดๆ โดยภายนอกมีสีให้เลือกทั้ง Stirling Green, Skyfall Silver, Xenon Grey, Arizona, ltramarine Black ซึ่งเป็นสีแบบเดียวกันกับรถ แอสตัน มาร์ติน ห้องโดยสารได้แรงบันดาลใจมาจาก แอสตัน มาร์ติน ดีบี11 เบาะนั่งหุ้มด้วยหนังกลับ Ultra-suede Pure Black สลับกับอัลคันทารา เลือกสีได้ อาทิ Oxford Tan, Pure Black, Cormorant และ Ivory หมอนรองศีรษะมีโลโก้ ‘Aston Martin’ หลังเบาะหน้าติดกระเป๋า Saddle Bag ไว้สำหรับเก็บสัมภาระที่เป็นงานแฮนด์เมดสุดคลาสิก ตามสไตล์ แอสตัน มาร์ติน บริเวณแผงหน้าปัด ยังมีเพลตโลหะระบุลำดับที่ผลิต หมายเลขรุ่น และชื่อผู้เป็นเจ้าของอีกด้วย


เรียกว่าเป็นความหลงใหลในแบรนด์ยนตรกรรมหรูและแรง แอสตัน มาร์ติน ที่สะท้อนรสนิยมออกมาได้อย่างลึกซึ้ง ประณีต งดงาม เฉกเช่น แอสตัน มาร์ติน รุ่นเด่นที่กำลังเป็นที่จับตามองของเหล่าผู้ชื่นชอบซูเปอร์คาร์หรู จากเมืองผู้ดีอังกฤษ อย่าง ‘Vantage Coupe F1® Edition’ ที่รังสรรค์ขึ้นเพื่อเฉลิมฉลอง การกลับมาสู่วงการแข่ง F1 ในรอบ 60 ปี ด้วยเฉดสีเขียว Aston Martin Racing Green แบบทีมแข่งรถ F1 ทุกสีจะคาดลายยาวกลางรถ Solid Matte Dark Grey รูปลักษณ์ภายนอกเรียกได้ว่าถอดสเปกมาจาก เซฟตี้คาร์ หลังคาวัสดุคาร์บอนไฟเบอร์ แอร์โรไดนามิก ทั้งด้านหน้าและหลังรถ ที่ความเร็วสูงสุดสามารถสร้างแรงกดได้สูงถึง 200 กก. ปรับใหม่หมดทั้งแซสซีส์ ระบบบังคับเลี้ยวและช่วงล่าง เพื่อความเร้าใจบนถนนและสนามแข่ง ปิดท้ายด้วยล้อแม็ก Satin Black ขอบ 21 นิ้ว จับคู่ยาง Pirelli P Zero พร้อมคาลิเปอร์เบรกสีเขียว (Lime Green)


ส่วนภายในห้องโดยสารจะมาในแนวโหดดุดัน ด้วยคาร์บอนไฟเบอร์แพ็กเกจ และเบาะ Satin Carbon Fibre Performance Seat ทำจากวัสดุคาร์บอนไฟเบอร์และหนัง อัลคันทารา ซึ่งมีเฉพาะ F1 Edition เพิ่มความโฉบเฉี่ยวเป็นพิเศษด้วย F1 Edition AMR Lime stitching ขุมพลังเบนซิน วี 8 สูบ 4.0 ลิตร เทอร์โบคู่ ปรับแต่งให้แรงขึ้น 25 แรงม้า เป็น 535 แรงม้าที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 685 นิวตัน-เมตร ที่ 2,000 – 5,000 รอบ/นาที ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ 8 จังหวะ


กำลังโหลดความคิดเห็น