ทรงผมที่เป๊ะ แว่นกันแดดอันใหญ่ ลุคที่ทะมัดทะแมง และสายตาจิกกัดพร้อมประโยค “อย่ามาล้อเล่นกับฉัน” นั่นคือ “แอนนา วินทัวร์” เจ้าแม่แห่ง Vogue ที่ตอนนี้กำลังมองหาผู้ช่วยคนใหม่ ทำให้นึกย้อนไปถึงภาพยนตร์เรื่องดังของวงการแฟชั่นอย่าง ‘The Devil Wears Prada’ นางมารสวมปราด้า ที่ตีแผ่ชีวิตของผู้ช่วยบก.นิตยสารแฟชั่นชื่อดัง ได้แบบถึงพริกถึงขิง
“แอนนา วินทัวร์” ได้ชื่อว่าเป็นผู้หญิงทรงอิทธิพลมากที่สุดคนหนึ่งของโลกแฟชั่น และเป็นที่รู้จักจากแววตาที่เข้มงวดของเธอ ตอนนี้เธอกำลังมองหาผู้ช่วย เห็นได้จากประกาศของสำนักพิมพ์ Condé Nast ที่เปิดรับสมัครตำแหน่งผู้ช่วยบรรณาธิการใหญ่ และหัวหน้าฝ่ายบทความของนิตยสาร Vogue มานานเกือบสัปดาห์แล้ว
เรื่องนี้ฟังดูเหมือนจะเป็นโอกาสชั่วชีวิตสำหรับบางคน ขณะเดียวกัน ก็ดูเหมือนเป็นการตกนรกสำหรับใครคนอื่น เรื่องแบบนี้เคยปรากฏในหนัง ‘The Devil Wears Prada’ ที่นำแสดงโดย “เมอรีล สตรีป” และ “แอนน์ แฮททาเวย์” บอกเล่าเรื่องราวในอุตสาหกรรมแฟชั่นจนใครๆ เห็นภาพคล้ายงานอาชีพของแอนนา วินทัวร์ โฆษณารับสมัครงานของ Vogue ในตอนนี้ จึงชวนให้หวนคิดถึงหนังจากปี 2006 เรื่องนี้ แต่คราวนี้เป็นฉากนายใหญ่เฟ้นหาผู้ช่วยในความเป็นจริง
ในเรื่องแฮททาเวย์รับบทเป็น “แองเจลา” บัณฑิตจบใหม่นิสัยขี้อาย ได้ตำแหน่งงานที่ใครๆ ต่างปรารถนาในแวดวงแฟชั่นนิวยอร์ก นั่นคือนิตยสารแฟชั่นชื่อดัง ‘Runaway’ (หรือที่รู้จักกันว่า Vogue) ทำงานเป็นผู้ช่วยของ “มิแรนดา พรีสต์ลีย์” (หรือที่รู้จักในชื่อ แอนนา วินทัวร์) ความเป็นผู้หญิงที่ไม่เด่น-สะดุดตา จึงไม่เหมาะกับโลกที่ไร้สาระของอุตสาหกรรมแฟชั่นในตอนแรก และดูเงอะงะเกะกะนัยน์ตาของเจ้านาย ซึ่งแองเจลาก็รู้สึกได้ แต่เธอไม่ยอมแพ้ ข้อนี้นับเป็นทัศนคติและคุณสมบัติของ “ว่าที่ผู้ช่วย Vogue” ในอนาคตควรมีติดตัว
หากลองอ่านประกาศรับสมัครงานอย่างละเอียด จะเห็นได้ชัดว่างานนั้นยากกว่าที่ใครๆ คิดในตอนแรก เพราะโลกแฟชั่นก็เหมือนกับโลกอื่นๆ ที่ไม่ได้มีเสน่ห์ให้สัมผัสด้านเดียว ในประกาศระบุว่า “นี่คือบทบาทสำคัญในการสนับสนุนงานของ Global Chief Content Officer และ Executive Assistant to the Global CCO” ดังนั้น ผู้สมัครที่เข้าเกณฑ์ควร “มีระเบียบวินัยสูง มีประสิทธิภาพในการจัดการและบริหารเวลา” หมายความว่า ต้องมีความสามารถในการทำงานหลายอย่างพร้อมกันและจัดลำดับความสำคัญที่เหมาะสมใน “สภาพแวดล้อมสื่อดิจิทัลที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วและหลากหลาย” นี่เป็นโอกาสที่ยิ่งใหญ่สำหรับมืออาชีพ ที่มีความทะเยอทะยาน เข้าใจธุรกิจ และหลงใหลในวัฒนธรรม แฟชั่น สื่อดิจิทัล และคอนเทนต์
Condé Nast ระบุคุณสมบัติของผู้สมัครชัดเจนว่า ต้องเป็นบุคคลที่สามารถแสดงให้เห็นถึง “ความฉลาดทางอารมณ์ การตัดสินใจ ดุลยพินิจ และรู้รักษาความลับในทุกเรื่อง รวมถึงความสามารถในการคาดการณ์ปัญหาและป้องกันปัญหา” เท่านั้นไม่พอ ยังต้องมีการเตรียมการประชุม การนำเสนอ กระบวนการปฏิบัติงานและติดตามผล การริเริ่มเนื้อหา กำหนดการผลิต กำหนดเส้นตายการทำงานสำหรับนิตยสาร Vogue ซึ่งต้องมีการวางแผน คำนึงถึงและสนับสนุน “การทำงานร่วมกันอย่างมีประสิทธิภาพ กับผู้อำนวยการกองบรรณาธิการและทีมงานในองค์กร
นอกเหนือจากวุฒิการศึกษาระดับปริญญา และประสบการณ์การฝึกงานหรือทำงานรวม 1-2 ปีด้านการบริหารแล้ว ผู้ช่วยในอนาคตยังต้องมีความรู้อย่างช่ำชองเกี่ยวกับ ‘Google Workspace’ การสื่อสารด้วยวาจา ลายลักษณ์อักษร และความสัมพันธ์ระหว่างบุคคล อีกทั้งต้องสามารถคิดแบบมุ่งเน้นการแก้ปัญหา เป็นอิสระ และอยู่ในความรับผิดชอบของตัวเอง, มีสายตาที่ละเอียดไร้ที่ติ, กล้าแสดงออกอย่างยอดเยี่ยม, มั่นใจในตนเอง, กระตือรือร้น, มีทัศนคติที่ดีในเรื่อง “ทำได้” ควบคู่ไปกับความสุภาพเรียบร้อย และมีความเต็มใจที่จะเรียนรู้ตลอดเวลา
ใครก็ตามที่สามารถผ่านเข้าไปถึงตรงนั้น ก็จะได้รับค่าตอบแทนอย่างงาม ด้วยอัตราเงินเดือนระหว่าง 60,000-80,000 ดอลลาร์ หรือราว 2.1-2.8 ล้านบาทต่อปี ซึ่งถือเป็นรายได้เฉลี่ยที่ค่อนข้างสูงสำหรับชาวนิวยอร์ก แต่อาจจะดูน้อยไปเมื่อเทียบกับคุณสมบัติที่ต้องการ แถมยังต้องรับมือกับนางมารสวมปราด้าในชีวิตจริง อย่าง แอนนา อีกต่างหาก
แม้ว่า ‘The Devil Wears Prada’ หรือนางมารสวมปราด้า สร้างจากหนังสือชื่อเดียวกันที่เขียนโดย “ลอเรน ไวส์เบอร์เกอร์” อดีตผู้ช่วยส่วนตัวของแอนนา วินทัวร์ ส่วนความจริงเบื้องหลังเรื่องราวที่เป็นตำนานเกี่ยวกับนายใหญ่ Vogue นั้น ยังไม่ชัดเจน เมื่อครั้งที่หนังเรื่องนี้ออกฉาย วินทัวร์แสดงท่าทีโกรธเกรี้ยวมาก เธอขู่ดีไซเนอร์ทุกคนที่ปรากฏตัวในหนังเรื่องนี้ว่า จะไม่เอ่ยชื่อหรือเขียนถึงพวกเขาอีก และยังแสดงปฏิกิริยาบึ้งตึงต่อไวส์เบอร์เกอร์-ผู้เขียนหนังสือ
ในตอนนั้นวินทัวร์เคยกล่าวว่า “ฉันไม่รู้ด้วยซ้ำว่าผู้หญิงในเรื่องนั้นน่าจะเป็นใคร” แต่ทุกวันนี้เธอแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับหนังเรื่องนี้ว่า “มันบันเทิงดี” และยอมรับแล้วว่าเธอมีส่วนคล้ายกับตัวละครนั้น “อะไรก็ตามที่ทำให้แฟชั่นดูสนุก หรูหรา และน่าสนใจ ถือว่ายอดเยี่ยมที่สุดแล้ว”
