คฤหาสน์สไตล์แวร์ซายส์กำลังประกาศขายในดูไบ ตั้งราคาไว้ที่ 750 ล้านเดอร์แฮม หรือประมาณ 7,000 ล้านบาท ทำให้กลายเป็นบ้านราคาแพงที่สุด ในตลาดของเมืองที่ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์หรูหรากำลังแข่งขันกันอย่างดุเดือด คฤหาสน์ในย่านเอมิเรตส์ฮิลส์ (หรือ “เบเวอร์ลีฮิลส์” ของดูไบ) มีพื้นที่ภายใน 5,574 ตารางเมตร แม้จะมีเพียง 5 ห้องนอน ขนาดห้องละ370 ตารางเมตร แต่ห้องนอนใหญ่ของคฤหาสน์ก็ใหญ่โตโอ่อ่ากว่าบ้านส่วนใหญ่
ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ตลาดอสังหาริมทรัพย์ในดูไบ นอกจากจะเติบโตอย่างรวดเร็วแล้ว ยังมีข้อเสนอเป็นบ้านหรูราคาแพงเพิ่มขึ้นจำนวนมากอีกด้วย เศรษฐกิจของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์กำลังฟื้นตัว หลังจากภาวะตกต่ำทั่วโลกจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ซึ่งดึงดูดบรรดามหาเศรษฐีจากทั่วโลก ให้เข้ามาอาศัยอยู่ในเมืองต่างๆ โดยเฉพาะ ในดูไบ สื่อด้านอสังหาริมทรัพย์รายงานว่า ราคาที่พักอาศัยในดูไบถีบตัวสูงขึ้นประมาณ 60 เปอร์เซ็นต์จากในช่วงปีที่ผ่านมา เหตุผลเพราะตลาดบ้านหรูกำลังอยู่ในช่วงบูม แม้โครงการต่างๆ จะก่อสร้างแล้วเสร็จไปถึง 31,000 หลังในช่วงท้ายปี 2021 แต่ก็ยังอยู่ในเกณฑ์ขาดแคลนในตลาด และย่านที่ขายดีที่สุดของตลาดคือ เอมิเรตส์ฮิลส์, ปาล์มจูไมราห์ และจูไมราห์เบย์ไอส์แลนด์
ตามรายงานของ Luxhabitat Sotheby’s International Realty ระบุว่า คฤหาสน์หลังนี้มีชื่อเรียกว่า ‘Marble Palace’ หรือพระราชวังหินอ่อน ใช้เวลาก่อสร้างและออกแบบตกแต่งนานเกือบ 12 ปี และแล้วเสร็จเมื่อปี 2018 ใช้วัสดุหินอ่อนอิตาลีมูลค่ากว่า 700 ล้านบาทเกือบทั้งหลัง แต่เดิมเจ้าของบ้านออกแบบสร้างและอาศัยอยู่ด้วยตนเองหลังจากหย่าร้าง สไตล์การออกแบบตกแต่งตามยุคเรอเนซองส์และบาโรค ที่เน้นการประดับตกแต่งพื้นผิว ความประณีตของรูปทรงเรขาคณิต และรูปปั้นปิดทอง ซึ่งเจ้าของบ้านจ้างช่างฝีมือถึง 70 คน เพื่อลงทองคำเปลวประมาณ 700,000 แผ่นในงานประดับตกแต่ง และใช้เวลาทำนานกว่าเก้าเดือน
ลักษณะเด่นอื่นๆ ยังมีโดมสไตล์ปารีส 2 โดม ความสูง 14 เมตร ใช้เวลาก่อสร้างนานกว่าสองปีครึ่ง กระจกแกะสลักด้วยมือที่สร้างโดยช่างฝีมือชาวฝรั่งเศส 17 คน นอกจากนั้น ยังมีห้องรับประทานอาหารใหญ่ที่เป็นหัวใจของคฤหาสน์ อควาเรียมประดับแนวปะการังขนาด 80,000 แกลลอน โต๊ะรับประทานอาหารที่ทำจากหินและคริสตัลล้ำค่า และชั้นล่างของคฤหาสน์ยังมีสระว่ายน้ำในร่ม ที่ประดับประดาด้วยหอยมุก ห้องอบไอน้ำและซาวนา และอ่างจากุซซีทองคำ 24K
มาพร้อมกับสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ อาทิ โฮมออฟฟิศสไตล์ประธานาธิบดี โรงยิมที่ติดตั้งอุปกรณ์ TechnoGym ตู้นิรภัย อุปกรณ์พลังงานทดแทน ต้นไม้ใหญ่ 50 ต้น ทะเลสาบขนาดเล็กพร้อมศาลาริมน้ำ บ่อปลาคราฟ และโถงจอดรถใต้ดินที่รองรับได้มากถึง 16 คัน บ้านหลังนี้ยังมีทิวทัศน์ที่สวยงามของสนามกอล์ฟ และสกายไลน์อันเป็นเอกลักษณ์ของดูไบ ซึ่งรวมถึง Burj Al Arab ในสายตาด้วย
ล่าสุด มีการตกแต่งบ้านด้วยงานศิลปะประมาณ 400 ชิ้น จากคอลเลกชันงานศิลปะส่วนตัวของเจ้าของบ้าน ส่วนใหญ่เป็นงานปั้นและภาพวาดจากยุคศตวรรษที่ 19 และ 20 ผู้สนใจซื้อคฤหาสน์หลังนี้ สามารถเจรจาต่อรองราคาของตกแต่ง รวมทั้งเฟอร์นิเจอร์ได้
นายหน้าขายคฤหาสน์หลังนี้ เขียนข้อความโฆษณาเชิญชวนว่า “คฤหาสน์หลังนี้คือสิ่งที่คุณจะซื้อเพื่ออวด เพื่อพาบุคคลชั้นสูง ผู้นำ นักการเมืองมาเยือน เพราะเป็นสถานที่เหมาะสำหรับการสร้างความบันเทิงให้กับผู้คน”