เป็นธรรมเนียมของทุกปีที่นิตยสารดัง อย่าง Forbes จะทำการรวบรวมข้อมูลทรัพย์สินของเหล่านักธุรกิจทั่วโลก และประกาศรายชื่อว่า “ใครรวยที่สุดในโลก” เสมือนรายงานประจำปี ซึ่งในปีนี้ผลออกมาก็ไม่ได้มีอะไรผิดคาดสักเท่าไหร่ เมื่อลิสต์อันดับความรวยของนักธุรกิจทั่วโลกนั้น แชมป์ก็ยังคงอยู่ในโซนยุโรปและสหรัฐอเมริกา
ขณะเดียวกัน Oxfam องค์กรช่วยเหลือการพัฒนา ก็มีรายงานผลวิจัยด้านเศรษฐกิจโลกออกมาว่า วิกฤตไวรัสโคโรนากลายเป็นโอกาสให้คนรวยได้รวยเพิ่มขึ้น เพราะรัฐบาลในหลายประเทศได้ทุ่มเงินก้อนใหญ่เพื่อพยุงเศรษฐกิจ ทำให้ผู้ได้รับประโยชน์ส่วนใหญ่ก็เป็นเหล่านักธุรกิจ ดังนั้นสำหรับมหาเศรษฐีทั้งหลายแล้ว การแพร่ระบาดของโรค จึงไม่ต่างอะไรกับยุคตื่นทอง มาดูกันสิว่า 10 อันดับคนที่รวยที่สุดในโลก ตามลิสต์ของ Forbes ในปีนี้นั้นเป็นใครกันบ้าง?
อันดับ 1 : แบร์นาร์ด อาร์โนลต์ (ฝรั่งเศส)
นักธุรกิจชาวฝรั่งเศสวัย 74 ปี เจ้าของปรัชญาหาเงินที่ว่า “คนรวยมักจะซื้อของที่คนจนไม่มีปัญหาซื้อ” เขาขึ้นแท่นคนรวยที่สุดในยุโรปและในโลก ด้วยมูลค่าทรัพย์สิน 226 พันล้านเหรียญสหรัฐ รายได้ส่วนใหญ่มาจากบริษัท LVMH SE ซึ่งมีแบรนด์สินค้าหรูในเครือมากกว่า 70 แบรนด์ เรียกว่าแบรนด์เนมที่คนส่วนใหญ่รู้จักล้วนอยู่ในใต้ชายคาของ LVMH แทบทั้งหมด
อันดับ 2 : อีลอน มัสก์ (สหรัฐอเมริกา)
ผู้ร่วมก่อตั้ง Paypal, ประธานบริษัท Tesla และซีอีโอของ Twitter มีทรัพย์สินในความครอบครองมูลค่า 194.2 พันล้านเหรียญสหรัฐ เขาเคยเป็นคนรวยคนแรกของโลกที่มีทรัพย์สินเกินขีด “200 พันล้าน” นอกจาก Tesla แล้วมัสก์ยังเป็นหัวเรือใหญ่ใน SpaceX และ Boring Company บริษัทโครงสร้างพื้นฐานในแคลิฟอร์เนีย แต่ช่วงนี้เขาอาจไม่เฟื่องฟูมากนัก กับมูลค่าหุ้นที่ตกของ Tesla อีกทั้งมีความสุขน้อยลงกับกิจการ Twitter
อันดับ 3 : เจฟฟ์ เบซอส (สหรัฐอเมริกา)
ผู้ก่อตั้ง Amazon มีทรัพย์สินในความครอบครองมูลค่า 125.5 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ พาตัวเองกลับเข้าสู่อันดับท็อป 3 อีกครั้ง เบซอสเป็นมหาเศรษฐีอีกคนที่สร้างผลกำไรได้มหาศาล จากธุรกิจออนไลน์ในช่วงวิกฤตโควิด แต่ถึงอย่างนั้น ในระหว่างการปรับฐานของตลาดหุ้น ทำให้หุ้นของ Amazon สูญเสียมูลค่าไปอย่างเห็นได้ชัด และทำให้เขาต้องพลัดจากอันดับหนึ่งที่เคยครองมาก่อนหน้า
อันดับ 4 : แลร์รี เอลลิสัน (สหรัฐอเมริกา)
ผู้ก่อตั้ง Oracle ยังครองอันดับ 4 ที่เดิม ด้วยมูลค่าทรัพย์สิน 118.8 พันล้านเหรียญสหรัฐ เอลลิสันยังเป็นที่รู้จักของคนทั่วไปจากการถือหุ้นใหญ่ 98 เปอร์เซ็นต์ในเกาะลาไน ซึ่งเป็นเกาะใหญ่อันดับ 6 ของหมู่เกาะฮาวาย
อันดับ 5 : บิล เกตส์ (สหรัฐอเมริกา)
อดีตชายที่ร่ำรวยที่สุดในโลก ผู้ก่อตั้ง Microsoft ปัจจุบัน เขามีทรัพย์สินมูลค่าราว 110.4 พันล้านเหรียญสหรัฐ หรือสามล้านเจ็ดแสนห้าหมื่นล้านบาท โดยมีรายงานว่า รายได้ของเขาเพิ่มพูนขึ้นในช่วงวิกฤตโควิด เมื่อปีที่แล้วจึงขอถอนตัวจากอันดับคนรวย พร้อมทั้งโอนเงินเข้ามูลนิธิของตนเองราว 2 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ
อันดับ 6 : วอร์เรน บัฟเฟตต์ (สหรัฐอเมริกา)
ชายผู้เป็นหนึ่งในบรรดาคนรวยแถวหน้าของโลกชาวอเมริกัน เจ้าพ่อแห่งวงการเทรดหุ้น วอร์เรนเป็นซีอีโอและหุ้นส่วนของบริษัท Berkshire Hathaway ครอบครองมูลค่าทรัพย์สิน 107.8 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือ สามล้านหกแสนล้านบาท จนทำให้เขาติดอันดับ 6 ในลิสต์ปีนี้
อันดับ 7 : ไมเคิล บลูมเบิร์ก (สหรัฐอเมริกา)
ผู้ก่อตั้งบริษัท Bloomberg L.P. และ Bloomberg Television ติดอันดับ 7 ด้วยมูลค่าทรัพย์สิน 94.5 พันล้านเหรียญสหรัฐ ในอดีตเขาเคยเป็นนายกเทศมนตรีของนครนิวยอร์กระหว่างปี 2002-2013 และได้รับความไว้วางใจจากชาวเมืองอย่างสูง
อันดับ 8 : การ์ลอส สลิม เอลู และครอบครัว (เม็กซิโก)
เจ้าของธุรกิจด้านโทรคมนาคมชาวเม็กซิโกวัย 83 ปีคนนี้ มีทรัพย์สินรวมมูลค่ากว่า 93.3 พันล้านเหรียญสหรัฐ หรือราวสามล้านหนึ่งแสนเจ็ดหมื่นล้าน ทั้งนอกเหนือจาก Telmex บริษัทโทรคมนาคมแล้ว เขายังเป็นซีอีโอในบริษัทอสังหาริมทรัพย์ America Movil, อุตสาหกรรม Grupo Carso และชายวัย 83 ยังได้ชื่อว่าเป็นคนรวยที่สุดในเม็กซิโกอีกด้วย
อันดับ 9 : ฟรองซัวส์ เบ็ตตองคูร์ต-เมเยอร์ส และครอบครัว (ฝรั่งเศส)
หลังจาก “ลิเลียน เบ็ตตองคูร์ต-เมเยอร์ส” แม่ของเธอเสียชีวิต ทายาทคนเดียวอย่างเธอก็ได้สืบทอดมรดก นั่นคือกิจการ L’Oreal ที่ผู้เป็นตาได้สร้างไว้ทั้งหมด มูลค่าทรัพย์สินปัจจุบันอยู่ที่ 90.6 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ ซึ่งนอกจากจะเป็นคนรวยอันดับ 9 ของโลกแล้ว เธอยังเป็นผู้หญิงรวยที่สุดในโลกอีกด้วย
อันดับ 10 : สตีฟ บอลล์เมอร์ (สหรัฐอเมริกา)
อดีตซีอีโอของ Microsoft รั้งอันดับ 10 ด้วยมูลค่าทรัพย์สิน 90.5 พันล้านเหรียญสหรัฐ หรือราวๆ 3 ล้านล้านบาท นับตั้งแต่ก้าวลงจากตำแหน่งในบริษัทเทคในตำนานเมื่อปี 2014 จากนั้นเขาก็ผันตัวมาเป็นเจ้าของทีมสโมสรบาสเกตบอล Los Angeles Clippers อย่างเต็มตัว และทีมก็ดูจะประสบความสำเร็จไม่น้อย ล่าสุด ทีมก็เพิ่งเข้าสู่รอบ Play-off ของ NBA ปีนี้ไปได้