เซเลบออนไลน์จะพาไปสนุกกับห้องนิทรรศการเล็กๆ ใจกลางเมืองย่านปทุมวัน ในซอยเกษมสันต์ 2 ณ Cafe At Ease (คาเฟ่ แอท อีส) คาเฟ่ขนมไทยประยุกต์ที่มีเครื่องดื่มเย็นๆ พร้อมขนมไทยที่สวยราวกับงานศิลป์ อย่าง ขนมชั้นหน้าอาลัว หรือขนมสัมปันนี ขนมทองเอก รอให้ลิ้มรส ถัดไปด้านในจะเป็นห้องจัดแสดงผลงานของอาร์ติสสาว "โบว์-มนต์ริสสา ลีนุตพงษ์" ในธีมท้องทะเลสีคราม ก้อนเมฆเปลี่ยนสี เคล้าเสียงเพลง Tropical Beach มีที่นั่งให้เอนกายชิมขนม พร้อมชื่นชมศิลปะแนวใหม่ที่ผสมผสาน ระหว่างความทรงจำแสนสนุก รูปวาด เสื้อผ้า และของแต่งบ้าน ไว้ด้วยกัน
โดย โบว์-มนต์ริสสา บอกเล่าที่มาที่ไปกว่าจะมาเป็นห้อง Art & Design Diving Space ไว้ว่า
เมื่อจบถ่ายภาพและจิตวิทยาการสื่อสารในสื่อ จาก Royal Holloway + Goldsmiths , University of London ประเทศอังกฤษ โบว์ ก็สนุกไปกับการสร้างสรรค์จินตนาการบนเสื้อผ้าอย่างไร้ขอบเขต และไม่คำนึงถึงวาระการสวมใส่มากนัก จนผลงานของเธอได้เข้าไปสู่หนังสือ Louis Vuitton City Guide “Sense of Style” ที่ระบุผลงานของเธอไว้ในลักษณะ conceptual design มากกว่าผลงานเสื้อผ้า fashion ที่สวมใส่ตามปกติ
ในช่วงระหว่างนั้นถึงปัจุปัน เป็นเวลานานกว่า 8 ปี ที่โบว์ใช้เวลาอยู่กับการค้นหามุมมองความสุขของโลกใบนี้ผ่าน ศิลปะหลายๆแขนง ไม่ว่าจะเป็นการเรียนทำขนมไทยจนได้เป็นครูสอนทำขนม สูตรไร้น้ำตาลที่ไม่เคยมีมาก่อน จนถึงขนมชั้นก้อนละหมื่นที่มีลูกค้ามาขอให้ทำในงานมงคลต่างๆ จนได้ชื่อว่าฉีกกรอบขนมไทยแบบเดิมๆ แต่สร้างมูลค่าแบบไม่เคยมีมาก่อน
การได้ฝึกฝนในการฉีกกรอบศิลปะและค้นหาตัวเองไปพร้อมกันนั้น ได้นำพาโบว์กลับไปสู่ความชอบที่ฝังรากลึกที่สุดในใจตอนวัยเด็ก นั้นก็คือ การวาดรูป ในช่วงเวลาเดียวกันนั้น โบว์ก็ได้ท่องเที่ยวและตกหลุมรักโลกใต้น้ำ และนั่นก็คือจุดเปลี่ยนของทุกอย่าง และเป็นจุดเริ่มต้นของผลงานในนิทรรศการนี้
โบว์ได้นำเอาความสุขใต้น้ำ ซึ่งประสบด้วยตัวเอง บ้างก็ถ่ายเองนั้น มาถ่ายทอดเรื่องราว และแบ่งบัน moment ความสุขผ่านงานศิลปะ ซึ่งออกมาในลักษณะของ style accessories เช่น หมวกชนิดต่างๆ ที่สามารถ สวมใส่ได้จริง และ furniture living เช่น ชั้นวาง อะคริลิค ตกแต่งบ้าน อาทิ เช่น ชั้นวางรองเท้า ที่วางนิตยสาร ทำให้โบว์มีความสุขทุกครั้งที่ได้อยู่ไกล้ชิดผลงาน เพราะทำให้นึกถึงช่วงเวลาอันแสนพิเศษนั้น และได้อยู่ไกล้ความทรงจำนั้นมากขึ้น มิหนำซ้ำ โบว์ยังนำมันมามอบให้เป็นความสุขของทุกคนอีกด้วย ด้วยการนำเสนอการถ่ายทอดเรื่องราวในลักษณะ interactive media ผ่าน QR Code ที่อยู่คู่กับผลงานในงาน ทำให้ผู้คนได้เห็นเหตุการณ์จริง ที่มาที่ไปของผลงาน เสมือนได้อยู่ในเหตุการณ์จริงและสนุกไปกับงานศิลปะนั้นๆ
โดยรวมแล้ว collection นี้ของ SKIN ON SKIN by Monrissa เป็นมากกว่าแค่เสื้อผ้า ของใช้ แต่เป็นการนำศิลปะมาเป็นเครื่องมือแห่งการไกล้ชิดความทรงจำที่พิเศษอีกครั้ง ผ่านงานการออกแบบ ชนิด accessories สวมใส่ได้จริง และ furniture ตกแต่งบ้าน โดยลูกค้าสามารถเลือก skate ที่ตัวเองชอบได้ (หรือจะสั่งทำก็ได้) ให้ match กับสี และ แบบ acrylic furniture ที่ท่านชอบ ซึ่งมีให้เลือก 3 สี 3 อารมณ์ ด้วยกันคือสี ดำ เขียว ส้ม และ มี 3แบบ มี 3 function ด้วยกันคือ โต๊ะวางของโชว์ ชั้นวางแมกกาซีนและแก้ว และ ชั้นวางรองเท้า ซึ่งท่านสามารถเลือกได้เลยตามความชอบ ความเหมาะสม
สุดท้ายนี้ โบว์ มีความประสงค์อย่างยิ่งว่า งานศิลปะ และ งานออกแบบของเธอ จะสร้างรอยยิ้มให้กับสังคมไม่มากก็น้อย
#monrissadivingjourney #monrissasketchbook @skinonskin_monrissa