ตลอด 21 ปีที่ผ่านมา “ซาชา วอลโพล” พยายามเก็บงำเรื่องความสัมพันธ์ซึ่งเธอเคยมีกับปรินซ์แฮร์รี จนกระทั่ง หนังสือของเขาปรากฏออกมา ตอนนี้เรื่องส่วนตัวของเธอกลายเป็นที่รับรู้ของสาธารณชนแล้ว เธอจึงแก้ลำด้วยการบอกเล่าเรื่องราวในเวอร์ชันของเธอเอง
ด้วยความเคารพที่มีต่ออดีตแฟนหนุ่มซึ่งมียศถาบรรดาศักดิ์ ทำให้ ซาชาในวัย 40 ปี ยอมปิดปากนิ่งเงียบมานานกว่าสองทศวรรษ ทั้งๆ ที่เธอสามารถพูดถึงสิ่งที่คนทั้งประเทศให้ความสนใจเมื่อไหร่ก็ได้ เพราะเธอคือหญิงสาวคนแรกที่เปิดบริสุทธิ์ปรินซ์แฮร์รี บนลานด้านหลังผับแห่งหนึ่ง แต่เธอไม่เคยคิดจะพูดเล่าให้ใครฟัง
แต่แล้วเมื่อหนังสือ ‘Spare’ ของแฮร์รีออกมาปลุกเร้าเรื่องราวในอดีตของเขาและเธอ ทำให้เธอกลายเป็นที่สนใจของผู้คน เธอจึงต้องเปิดตัวออกมาพูดบ้าง และเลือกที่จะเปิดอกพูดกับ “เพียร์ส มอร์แกน” ผู้สื่อข่าวและพิธีกรรายการทีวีคนดังของอังกฤษเสียด้วย “บอกตรงๆ ฉันยังช็อกอยู่เลย” เธอบอก “มีสิ่งเลวร้ายแบบนี้เกิดขึ้นในโลก ที่ฉันคิดว่ามันสมควรได้รับความสนใจจากทุกคน”
เธอบอกว่า แทบไม่อยากเชื่อรายละเอียดของข้อความในหนังสือ ที่เปิดเผยทุกอย่างที่ใกล้เคียงกับชีวิตเธอ คำสาธยายของแฮร์รีชัดเจนเสียจนเพื่อนสนิทของเธอรู้ได้ทันทีว่าเขาหมายถึงใคร “เรื่องตลกเกี่ยวกับม้าหนุ่มคึกคะนองกับสาวแก่ผุดขึ้นมาทันทีที่ฉันรู้ข่าว เพียงแต่มันไม่ตลกสำหรับฉันเท่านั้นเอง” เพราะตอนที่เธอมีความสัมพันธ์ทางเพศชั่วคืนเดียวกับเขานั้น เธอยังเป็นสาว 18 คืนนั้นเธอดื่มหนักเหตุเพราะเพิ่งเลิกกับแฟน แล้วดันไปเจอแฟนสาวคนใหม่ของเขาในผับเดียวกัน ปรินซ์แฮร์รีซึ่งอยู่ในกลุ่มเดียวกัน สังเกตเห็นอาการไม่พอใจของเธอ จึงพยายามชวนดื่มเพื่อเบี่ยงเบนความสนใจของเธอ นั่นเป็นเหตุให้เธอดื่มหนัก
จากนั้นเธอกับแฮร์รีก็ออกไปสูบบุหรี่กันที่ด้านหลังผับ และเขาก็เป็นคนเริ่ม “เขาเริ่มด้วยจูบแล้วมันก็เกิดขึ้น ตอนนั้นฉันไม่ได้มองเขาว่าเป็นปรินซ์แฮร์รี แต่เป็นแฮร์รีเพื่อนที่ดีคนหนึ่ง สำหรับฉันแล้วนั่นแตกต่างกัน” ซาชายังเล่าด้วยว่า ในตอนแรกเธอไม่รู้ว่านั่นเป็น ‘เซ็กซ์’ ครั้งแรกของแฮร์รี เธอมารู้ในภายหลัง “แต่เรื่องมันก็นานมาแล้ว และฉันไม่คิดว่ามันจะเป็นเรื่องสำคัญสำหรับฉัน” เธอเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นให้น้องสาวและแม่ของเธอฟังแค่สองคน แต่พวกเขาไม่ได้แสดงปฏิกิริยาอะไร ส่วนพ่อของเธอไม่ได้รับรู้เรื่องนี้ด้วย
ซาชาให้เหตุผลในการปิดปากเงียบต่อเรื่องนี้มานาน เพราะความจริงแล้วแฮร์รีกับเธอเป็นเพื่อนกัน ที่เผลอทำอะไรเลยเถิดไปเท่านั้น “จริงๆ แล้วมันไม่ควรเกิดขึ้น มันไม่ได้เป็นความตั้งใจ และหลังจากนั้นมันก็ไม่ได้เกิดขึ้นอีก มันไม่ใช่เรื่องน่ายินดี กับการเมาแล้วออกไปทำอะไรแบบนั้นกับเพื่อน”
โดยส่วนตัวแล้วเธอไม่เข้าใจหนังสือเล่มนี้ของแฮร์รีมากนัก “ถ้าคุณต้องการถอนตัวออกจากราชวงศ์และก้าวออกจากจุดสนใจจริงๆ การเขียนหนังสือแบบนี้ และติดต่อไปหา Netflix นั่นเป็นการตัดสินใจที่แปลก ดูมันขัดแย้งกับสิ่งที่เขาพูดว่า เขาต้องการบรรลุทุกอย่างด้วยตัวเอง” เธอไม่เสียดายหรือเสียใจกับอดีตที่ผ่านมา “ฉันมีความทรงจำดีๆ เกี่ยวกับวัยรุ่นของฉัน เราเคยสนุกด้วยกัน และโชคดีที่ตอนนั้นยังมีโซเชียลมีเดีย ทุกวันนี้ใครลองไปเที่ยวผับกับเจ้าชายดูสิ ไม่รอดหรอก”
หลังจากคืนนั้น ความสัมพันธ์ระหว่างเธอกับแฮร์รีก็สิ้นสุดลง ทุกอย่างจบไปแล้วสำหรับเธอ และเธอไม่เคยคิดจะนำเรื่องเหล่านี้ไปขายกิน “แฮร์รีก็เคยเป็นเพื่อนของฉันคนหนึ่ง ที่ฉันอยากจะปกป้อง อีกอย่างเรื่องแบบนี้ไม่มีใครเขาเอามาพูดเล่ากันพร่ำเพรื่อ จริงๆ แล้วน่าจะมีใครเตือนฉันเรื่องนี้ก่อนด้วยซ้ำ ตอนนี้ฉันอยากกลับไปใช้ชีวิตปกติแล้ว กลับไปขับรถขุดดินแบบที่ไม่ต้องคอยเหลียวหน้าแลหลังว่า จะมีใครแอบถ่ายรูปฉันอยู่หรือเปล่า”
นอกจากนี้ ซาชายังหวังใจอยากให้พี่น้อง (วิลเลียมและแฮร์รี) สงบศึกกันเสียที เธออยากแนะนำให้ทั้งสองกอดคอกันไปเที่ยวผับ “ชีวิตมันสั้น คุยกันเถอะ” แต่เธอก็แอบเชื่ออยู่เหมือนกันว่า โอกาสที่ทั้งสองจะไปผับนั่งดื่มและคุยกันนั้นน้อยมาก
