การประกวดความงามเวที Miss Universe เริ่มมีขึ้นตั้งแต่ปี 1952 ก่อตั้งขึ้นโดย Pacific Mills ซึ่งเป็นบริษัทสิ่งทอของสหรัฐฯ เพื่อแข่งขันกับเวที Miss World โดยเฉพาะ สาเหตุมาจากกองประกวดมิสยูเอสเอปี 51 ปฏิเสธที่จะมอบมงกุฎให้กับ “โยลันด์ มาร์กาเร็ต เบตเบซ ฟอกซ์” ที่ชนะการประกวด ด้วยเหตุผลด้านความเหมาะสม ที่เธอโพสท่าถ่ายภาพในชุดว่ายน้ำตามที่ผู้จัดงาน และผู้สนับสนุนตั้งใจไว้ ซึ่งสปอนเซอร์หลักก็คือ Pacific Mills เจ้าของแบรนด์ชุดว่ายน้ำ Catalina นั่นเอง ในปีถัดมาการประกวด Miss Universe จึงถือกำเนิดขึ้น หลังการประกวดมิสยูเอสเอ
:: อาร์มี คูอุเซลา
นางงามวัย 17 ปีจากฟินแลนด์ ประเดิมเป็นมิสยูนิเวิร์สคนแรก ในการประกวดที่ฟอนทานา รัฐแคลิฟอร์เนีย เธอเป็นหนึ่งในบรรดาสาวงาม 30 คนจากทั่วโลก ที่ถูกส่งไปยังลองบีชเพื่อเข้าประกวดมิสยูนิเวิร์ส หลังจากคว้ามงกุฎมาได้ อดีตนางแบบก็เป็นที่ต้องการของธุรกิจบันเทิง เธอได้ข้อเสนอทั้งงานหนังและละครทีวี แต่ระหว่างการเดินทางไปทั่วโลกในฐานะมิสยูนิเวิร์ส เธอได้รู้จักกับ “เวอร์จิลิโอ ฮิลาริโอ” นักธุรกิจชาวฟิลิปปินส์ ทั้งสองตกหลุมรักกัน วันที่ 4 พฤษภาคม 1953 เธอคืนตำแหน่งมิสยูนิเวิร์ส แม้ว่ายังปฏิบัติหน้าที่ได้ไม่ครบปี (ตามกฎผู้ครองตำแหน่งจะต้องเป็นโสด) จากนั้นเธอก็แต่งงานกับ ฮิลาริโอ ในโตเกียว คูอุเซลากับสามีร่วมทำธุรกิจอพาร์ตเมนต์ในย่านกลางเมืองมะนิลา รวมถึง ‘มากาตี ซิตี’ ซึ่งเป็นที่พักอาศัยของเธอในตอนนั้น ปี 1975 ฮิลาริโอเสียชีวิตด้วยโรคหัวใจ สามปีต่อมาเธอแต่งงานใหม่กับ “อัลเบิร์ต วิลเลียมส์” นักการทูตชาวอเมริกัน ทั้งสองโยกย้ายไปอยู่บาร์เซโลนาและอิซเมียร์ ก่อนจะไปปักหลักในแคลิฟอร์เนียในภายหลัง ปี 2012 อาร์มี คูอุเซลาได้รับเหรียญเกียรติยศ ‘กุหลาบขาว’ เธอร่วมทำงานกับองค์กรการกุศลต่างๆ เช่น สถาบันวิจัยมะเร็ง Sanford Burnham Prebys Medical Discovery เธอใช้ชีวิตอยู่ในแคลิฟอร์เนีย แต่ก็มีบ้านพักตากอากาศในฟินแลนด์ ที่ซึ่งเธอเดินทางไปเยือนบ้านเกิดสม่ำเสมอ
:: รีนา มอร์-โกเดอร์
มิสยูนิเวิร์สคนแรกของอิสราเอล ที่ชนะการประกวดเมื่อเดือนกรกฎาคม 1976 ในฮ่องกง เนื่องในโอกาสที่เธอได้ครองมงกุฎ 3 ปีหลังจากสงคราม ‘ยม-คิปปูร์’ สิ้นสุด เธอกล่าวว่า “ฉันไม่ใช่นักการเมือง ฉันคิดว่าตำแหน่งมิสยูนิเวิร์สของฉันจะแสดงให้ผู้คนทั่วโลกเห็นว่า ยังมีอีกด้านหนึ่งของอิสราเอล ไม่ใช่แค่สงคราม” ความปรารถนาของเธอที่จะไปเยือนประเทศอาหรับ ไม่อาจเป็นจริงได้ เพราะเธอถูกนับเป็นบุคคลไม่พึงปรารถนา สำหรับประเทศเหล่านั้น เนื่องจากเธอเป็นพรีเซนเตอร์ให้กับหน่วยงานชาวยิว หลังจากนั้นไม่นานเธอได้ศึกษาต่อด้านกฎหมาย และทำงานเป็นทนายอัยการอยู่ในเทลอาวีฟ
:: ไอรีน ซาเอซ
เธอได้ครองตำแหน่งมิสยูนิเวิร์สในปี 1981 และเป็นนางงามคนที่สองของประเทศเวเนซูเอลา ถัดจาก “มาริตซา ซายาเลโร” (1979) ซาเอซเป็นมิสยูนิเวิร์สอีกคนหนึ่ง ที่ผันชีวิตเข้าสู่เส้นทางการเมือง เริ่มจากปี 1992 ที่เธอได้รับเลือกเป็นนายกเทศมนตรีของเมืองชาเคาเป็นครั้งแรก ในช่วงการทำงานของเธอนั้นสถิติอาชญากรรมและคอร์รัปชันลดลง อีกทั้งเธอยังปรับเปลี่ยนระบบราชการให้ดีขึ้น ทำให้เธอได้รับเลือกให้ดำรงตำแหน่งเป็นวาระที่สองกระทั่งถึงปี 1998 เป้าหมายถัดไปของเธอคือ การเลือกตั้งตำแหน่งประธานาธิบดี แต่ผู้สมัครอิสระอย่างเธอสามารถก้าวไปถึงเพียงอันดับ 3 ซาเอซแต่งงานกับ “ดาร์ริล ดูปองต์” โปรดิวเซอร์ทีวีชาวอเมริกัน จากนั้นหย่าร้างและแต่งงานใหม่ ได้ลูกชายหนึ่งคนแล้วหย่าอีกครั้ง ต่อมาเธอโยกย้ายไปอยู่ไมอามี แต่งงานอีกครั้งและมีลูกชายอีกหนึ่งคน ปี 2003 เธอได้รับการเสนอชื่อให้เป็นคณะกรรมการบริหารของ Colonial BancGroup ภูมิภาคฟลอริดาตอนใต้
:: สุมิตรา เซน
อดีตนางแบบชนะการประกวดมิสอินเดีย และถัดมามิสยูนิเวิร์สในปี 1994 ที่กรุงมะนิลา นับเป็นนางงามคนแรกจากอินเดีย สองปีจากนั้นเธอก็เข้าสู่วงการบันเทิงอย่างเต็มตัว ผลงานหนังเรื่องแรก ‘Dastak’ (1996) เธอถูกวิจารณ์ด้านลบ มาเริ่มดีในปี 1999 ในเรื่อง ‘Biwi No.1’ ที่ส่งให้เธอได้รับรางวัล Filmfare Award สาขานักแสดงประกอบหญิงยอดเยี่ยม สุมิตรารับอุปถัมภ์เด็กสองคนเป็นลูกสาวบุญธรรม และหันมาสนใจกิจกรรมเกี่ยวกับสิทธิสตรี และปัญหาครอบครัวในสังคมอินเดีย จนได้รับรางวัลผู้บำเพ็ญประโยชน์เพื่อสังคม จากมูลนิธิแม่ชีเทเรซา ถึงกระนั้น เธอก็ยังไม่ทิ้งวงการบันเทิงเสียทีเดียว ล่าสุด เธอยังมีผลงานบทนำใน ‘Taali’ สร้างจากเรื่องอิงชีวประวัติของ Shreegauri Sawant หญิงข้ามเพศนักเคลื่อนไหวจากมุมไบ ที่คอยให้ความช่วยเหลือกลุ่มคนข้ามเพศและผู้ติดเชื้อเอชไอวี/เอดส์ อีกทั้งสุมิตรายังแจ้งข่าวว่า จะกลับไปร่วมงานในซีรีส์ ‘Aarya’ ซีซันส์ 3 ในเร็วๆ นี้ด้วย
:: เจนนิเฟอร์ ฮอว์กินส์
นางแบบสาวจากโฮล์มสวิลล์ รัฐนิวเซาต์เวลส์ สามารถคว้ามงกุฎมิสยูนิเวิร์สได้ในปี 2004 ที่เวทีในกีโต ประเทศเอควาดอร์ นับเป็นนางงามคนแรกจากโอเชียเนียนับตั้งแต่ปี 1983 ระหว่างครองตำแหน่งเธอมีโอกาสเดินทางไปหลายประเทศทั่วโลก รวมทั้งเมืองไทยหลายครั้ง หลังจากเข้าพบ “โฮเซ อะเลนคาร์” รองประธานาธิบดีของบราซิลอย่างเป็นทางการ เขาถึงกับกล่าวถึงเธอว่าเป็นสาวงามที่สุดเท่าที่เขาเคยพบเจอ แต่ก็มีเรื่องน่าอายและเป็นข่าวดังเกิดขึ้นกับเธอ เมื่อครั้งที่เธอไปร่วมเดินแบบแฟชั่นโชว์ในศูนย์การค้าเวสต์ฟิลด์ มิแรนดา คราวนั้นเธอเดินพลาดไปเหยียบชายกระโปรง ทำให้ล้มลงกับพื้นและเผยให้เห็นกางเกงในจี-สตริงสีแดง ในเวลาต่อมาเธอเล่าอย่างขำๆ ว่าความจริงเธออยากจะใส่ชุดชั้นในที่ดีกว่านั้น ฮอว์กินส์เคยได้รับเชิญเข้าร่วมเป็นกรรมการในการประกวดมิสยูนิเวิร์สรอบตัดสิน เมื่อปี 2008 ที่เวียดนาม ทุกวันนี้เธอใช้ชีวิตคู่ราบรื่น เป็นแม่ลูกสอง และหวนกลับเข้าสู่อาชีพนางแบบอีกครั้ง
