แม้มงจะลงไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว สำหรับการประกวดนางงามจักรวาล แต่ดูเหมือนว่าจะกลายเป็นประเด็นฮอตที่ทอล์ก ออฟ เดอะ ทาวน์ มากกว่าช่วงการประกวดซะอีก เมื่อผลประกาศออกมาน่ากังขาและดูพลิกล็อกในหลายจุด ทั้งตัวเต็งของทวีปเอเชียที่ร่วงรอบแรกกันหลายประเทศ ทั้งคนคว้ามงที่มีประวัติไม่ค่อยดี และการจัดการเวทีที่เป็นการทิ้งทวนเจ้าของลิขสิทธิ์เดิม แบบไม่ค่อยอลังการสมศักดิ์ศรีเท่าไหร่ และอีกหลากหลายประเด็นเบื้องหลังที่น่าสนใจ
เริ่มตั้งแต่กระแสการเรียกร้องถึง “สตีฟ ฮาร์วีย์” พิธีกรขาประจำของเวทีนี้ที่ทำหน้าที่ต่อเนื่องมาหลายปี แต่ในปีนี้กลับตกเป็นของ "โอลิเวีย คัลโป" อดีตนางงามจักรวาลปี 2012 ที่เคยช่วยดำเนินรายการมาหลายปีแล้ว ก้าวขึ้นมารับบทหนักนี้ พร้อมกับ "เจนนี ไม เจนกินส์" พิธีกรมืออาชีพเจ้าของรางวัล Emmy ซึ่งทำให้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์จากหลายส่วน เพราะสไตล์การทำหน้าที่ที่ดูไม่คล่อง ไม่น่าสนใจ
ผู้ชมคิดถึงการทำหน้าที่ของสตีฟ ที่ถึงแม้จะเคยสร้างเหตุการณ์สุดอึ้งเมื่อประกาศผลผิด ที่ทำเอาเกิดโมเมนต์ช็อกโลกเมื่อปี 2015 แต่ด้วยความสามารถมีวาทศิลป์ในการพูด มีจังหวะการหยอดมุก ดำเนินพิธีการได้อย่างลื่นไหล และอยู่กับเวทีมาหลายปี ประหนึ่งเป็นสัญลักษณ์ที่คุ้นชิน พอปีนี้หายไปแฟนๆ นางงามหลายคนสงสัยว่าทำไมเขาไม่ได้ทำหน้าที่ต่อ แม้ทางกองประกวดจะได้ออกมาประกาศก่อนหน้าแล้วว่า สาเหตุที่เปลี่ยนพิธีกรเพราะสัญญาของสตีฟหมดลงพร้อมกับสัญญาการถ่ายทอดสดของค่าย FOX แต่ สาวแอน–จักรพงษ์ จักราจุฑาธิบดิ์ เจ้าของคนใหม่ของมิสยูนิเวิร์สได้ออกมาเผยเพิ่มเติมว่า ต้องการให้เวทีนี้เป็นพลังของผู้หญิงอย่างแท้จริง แถมยังแฉด้วยว่าพิธีกรดังไม่เคยมาซ้อมเลยด้วย
ถัดมาเป็นเรื่องการจัดงาน ที่หลายคนมองว่าสถานที่ไม่เวิร์ก เวทีไม่อลังการ แสงสีเสียงจัดเต็มไม่พอ แถมการถ่ายทอดสดไปทั่วโลกก็มีจังหวะขัดข้อง ซึ่งปีนี้ช่องทางการถ่ายทอดสดได้เปลี่ยนจากค่าย FOX มาเป็น Roku ช่องน้องใหม่ที่ไม่ค่อยได้จับงานใหญ่ แฟนๆ จึงโจมตีว่าเป็นเพราะการเข้ามาของผู้ถือสิทธิ์คนใหม่ ที่อาจจะไม่มืออาชีพมากพอ แต่หลายฝ่ายก็บอกว่าแม้จะมีเจ้าของใหม่ แต่ยังเป็นทีมบริหารเดิมเป็นส่วนใหญ่ ดังนั้น การจัดครั้งสุดท้ายแบบทิ้งทวนนี้ ก็อาจทำได้ทั้งการปิดฉากแบบสมมง หรือจะเลือกทิ้งระเบิดก่อนไป แถมพอประกาศผลออกมา ทั้งตัวเต็งไม่ผ่านรอบแรก ทั้งผลที่พลิกโผ ก็ทำเอาแฟนพันธุ์แท้นางงามบ่นอุบ เพราะค้านสายตา จนเกิดคำครหาการล็อกมงเกิดขึ้น มีการเรียกร้องให้ออกมาเผยผลคะแนนและเกณฑ์มาตรฐานการตัดสิน
ด้านสาวงามที่คว้ามงกุฎมิสยูนิเวิร์สปีนี้ไปครอง “อาร์ บอนนีย์ กาเบรียล” วัย 28 ปี ตัวแทนจากสหรัฐอเมริกา เธอเป็นลูกครึ่งอเมริกัน-ฟิลิปปินส์ จากรัฐเท็กซัส ทำอาชีพนางแบบและดีไซเนอร์ มีความสนใจในเรื่องการรักษาสิ่งแวดล้อมและธรรมชาติเป็นอย่างมาก ก่อนมาประกวดเวทีนี้เธอได้ชิงชัยมิสเท็กซัสมาถึง 2 ครั้ง ก่อนจะได้อันดับหนึ่งและเข้าร่วมประกวดมิสอเมริกา ซึ่งการประกวดในครั้งนั้นก็มีดรามากับผลการแข่งขันว่า ล็อกมง โดยผู้เข้าชิงจากรัฐอื่นๆ ได้ออกมากล่าวถึงการแข่งขันไม่โปร่งใส มีการเลือกปฏิบัติที่ไม่เท่าเทียม และหาว่ามิสเท็กซัสที่สนิทสนมกับทีมงานและสปอนเซอร์ ได้รับสิทธิพิเศษหลายอย่างเหนือคนอื่น จนทั้งกองประกวดต้องออกมาประกาศว่า ไม่เป็นความจริง ทุกฝ่ายได้ทำหน้าที่อย่างยุติธรรมและสมเกียรติแล้ว
ปิดท้ายกันที่ ดรามาของสาวงามจากยูเครน “วิกตอเรีย อพานาเซนโก” วัย 28 ปี ที่เรียกได้ว่าเป็นนางงามสู้ชีวิต เพราะในวาระที่ประเทศมีสงคราม ทำให้เธอต้องใช้ชีวิตยากลำบาก การเดินทางมาร่วมประกวดครั้งนี้ เธอต้องขับรถข้ามประเทศ ผ่านหลายเมืองที่กำลังสู้รบ เพื่อไปขึ้นเครื่องบินที่ประเทศเพื่อนบ้านอย่าง โปแลนด์ ซึ่งใช้เวลาถึง 2 วัน ฝ่าพื้นที่ดงกระสุนแบบต้องภาวนาไม่ให้โดนโจมตี โดยเธอเดินทางมาเพียงคนเดียว ไม่มีทีมงานเสื้อผ้าหน้าผมมาด้วยเลย
แถมในช่วงการเตรียมตัวเข้าประกวด และจัดทำเครื่องแต่งกายก็แสนลำบาก ทั้งการตัดเย็บชุดประจำชาติภายใต้แสงไฟที่มืดสลัว จากพลังงานที่จำกัด ชุด “WARRIOR OF LIGHT” ที่งดงามประหนึ่งชุดนักรบในตำนาน ที่สะท้อนถึงจิตวิญญาณที่ไม่เคยยอมแพ้ของคนในชาติ แถมยังกางออกเป็นปีกกว้าง สะท้อนถึงการกำเนิดใหม่อย่างแข็งแกร่งแบบนกฟีนิกซ์ ทั้งสวยงามและเรื่องราวสุดประทับใจนี้ ทำเอาผู้ชมทั่วโลกคอยเอาใจช่วยเธอ แต่บทบาทบนเวทีที่เธอได้รับกลับน้อยเหลือเกิน เรียกได้ว่ากองประกวดแทบไม่ให้ซีนกับเธอเลย จนแทบไม่มีใครรู้ว่าเธอเองก็ได้รับรางวัล spirit of carnival award แต่เป็นการมอบกันง่ายๆ ที่ด้านหลังเวทีเพียงเท่านั้น