เพราะให้ความสำคัญกับเรื่องของกลิ่นหอมที่ช่วยเสริมความมั่นใจและสะท้อนอัตลักษณ์ ปัญญ์ปุริเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ PAÑPURI EXTRACT Perfume Oil ออยล์น้ำหอมที่มาพร้อมแนวกลิ่นอันน่าหลงใหลและเปี่ยมไปด้วยประสิทธิภาพในการบำรุงผิวพรรณ โดยถ่ายทอดผ่านนิทรรศการศิลปะรูปแบบใหม่ที่ผสานเรื่องราวของกลิ่นหอมเข้ากับงานศิลปะ พร้อมพาเข้าไปสู่โลกแห่งกลิ่นหอมที่เป็นอัตลักษณ์เฉพาะของปัญญ์ปุริ
ภายในนิทรรศการประกอบด้วยห้องจัดแสดง Exhibition Multimedia ของช่างภาพชาวเยอรมัน Frank Hülsbömer ที่นำความพริ้วไหวของส่วนผสมจากธรรมชาติ มาสร้างเป็นผลงานพร้อมเสน่ห์ของเสียง และการเล่นแสงที่ทำให้เกิดมิติใหม่ และแตกต่าง รวมไปถึงโซนจัดแสดงผลงานของ ธีรวัฒน์ เฑียรฆประสิทธิ์ ศิลปินนักวาดภาพประกอบที่มีชื่อเสียงทั้งในไทยและต่างประเทศ ที่ถ่ายทอดกลิ่นหอมของ PAÑPURI EXTRACT Perfume Oil ผ่านลายเส้นบนกล่องน้ำหอมลวดลายเอ็กซ์คลูซีฟ 10 กลิ่น 10 ลาย ภายใต้คอนเซ็ปต์ที่ต้องการเปลี่ยนเรื่องราวแห่งกลิ่นหอม ให้กลายเป็นผลงานศิลปะอันบ่งบอกถึงตัวตนของปัญญ์ปุริ และโซนจัดแสดง PAÑPURI EXTRACT Perfume Oil ทั้ง 10 กลิ่นหอม ซึ่งมีทั้งกลิ่นหอมดั้งเดิมของปัญญ์ปุริ ตลอดจนกลิ่น Best seller ซึ่งเป็นที่ชื่นชอบมาทุกยุคสมัย รวมทั้งมีการพัฒนากลิ่นใหม่เพิ่มขึ้นมาอีกหลากหลายให้ได้สัมผัสอย่างใกล้ชิด
วรวิทย์ ศิริพากย์ ผู้ก่อตั้งและซีอีโอแบรนด์ปัญญ์ปุริ กล่าวว่า “ปัญญ์ปุริ มีชื่อเสียงในเรื่องกลิ่นหอม และมีความตั้งใจที่จะพัฒนาน้ำหอมที่มาจากธรรมชาติ ซึ่งเป็นรากกำเนิดของกลิ่นหอมจริง ๆ อย่างสมัยก่อนตอนที่ยังไม่มีแอลกอฮอลล์นำมาใช้สกัดหัวน้ำหอมเช่นในปัจจุบัน คนสมัยโบราณก็ใช้น้ำมันในการช่วยเก็บกักน้ำหอม เพราะคุณสมบัติของน้ำมันที่นอกจากบำรุงผิวแล้ว ยังทำให้กลิ่นหอมติดทนผิวได้ยาวนานยิ่งขึ้น ซึ่งเราได้ทำรีเสิร์ชเรื่องนี้แล้วนำมาแปลความใหม่ให้เป็นน้ำหอมในยุคปัจจุบันที่ติดทนกับผิวได้นาน สำหรับความเข้มข้นของกลิ่นถือว่าเป็น Pure Perfume 25-30% ทำให้กลิ่นติดทนนาน นอกจากนี้เบสของออยล์ยังเป็นน้ำมันมะรุมออร์แกนิค ซึ่งช่วยบำรุงผิวด้วย และเหมาะสำหรับผู้ที่ไม่ชอบกลิ่นแอลกอฮอลล์ หรือมีอาการแพ้แอลกอฮอลล์
วรวิทย์ เล่าว่า ตนมีส่วนร่วมพัฒนาทุกกลิ่นหอม ซึ่งมาจากแรงบันดาลใจส่วนตัว ไม่ว่าจะมาจากความทรงจำในอดีต อย่างกลิ่น Siamese Water ถือเป็นกลิ่นที่คลาสสิคและติดอันดับกลิ่นที่ขายดีที่สุดของปัญญ์ปุริ โดยมีที่มาจากวัยเด็ก ทุกครั้งที่ไปบ้านคุณย่าจะให้ไปเก็บดอกมะลิจากสวนมาลอยในน้ำฝน จึงนำความรู้สึกสดชื่น และความอบอุ่นของครอบครัวมาแปลความให้เป็นกลิ่น Siamese Water นอกจากนี้ยังมีอีกหลายกลิ่นที่ได้รับแรงบันดาลใจจากการเดินทาง เช่น Eternal Sunshine ได้รับแรงบันดาลใจมาจากการเดินทางไปขึ้นบอลลูนที่พุกาม ความรู้สึกที่ได้เห็นแสงแรกจากพระอาทิตย์ขึ้นจากขอบฟ้า การได้สัมผัส ความสดชื่นของอากาศ และได้เพลิดเพลินกับทิวทัศน์ที่เขียวขจี เป็นแรงบันดาลใจที่นำมาสร้างสรรค์กลิ่นดังกล่าวนั่นเอง
“สำหรับคอนเซ็ปต์ของผลิตภัณฑ์คือ Perfume Beyond limit ซึ่งเป็น Perfume Lifestyle แนวใหม่ ที่สามารถใช้ได้หลากหลายมิติ เพราะนอกจากจะใช้แต้มบนผิวหนังในส่วนต่าง ๆ ของร่างกายแล้ว ยังสามารถใช้เป็น Bath oil หยดลงในอ่างอาบน้ำได้ด้วย หรือนำออยล์หยดผสมกับบอดี้โลชั่นช่วยให้กลิ่นติดทนนานยิ่งขึ้น เรียกว่าสามารถนำไปปรับใช้ในไลฟ์สไตล์ได้หลากหลายมากกว่า Perfume ทั่วไป
“นอกจากนี้ Perfume oil ก็กำลังเป็นเทรนด์ด้วย และมองว่าเป็น Self-expression แบบใหม่ เพราะน้ำหอมที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอลล์จะทำให้คนรอบข้างได้กลิ่นน้ำหอมจากระยะไกล ซึ่งในยุคสมัยที่หลายคนอาจจะต้องการความเป็นส่วนตัว กลิ่นของ Perfume oil จะค่อนข้างอยู่รอบ ๆ ตัวเรา ซึ่งจะทำให้ได้กลิ่นเฉพาะจากคนที่เข้ามาใกล้ชิดเราเท่านั้น และกลิ่นจะติดผิวนาน ซึ่งถือว่าเป็นเทรนด์ใหม่ของการใช้น้ำหอมเช่นกัน” วรวิทย์ กล่าวเสริมถึงคุณลักษณะพิเศษของ Perfume oil
ภายในงานได้รับเกียรติจากผู้มีชื่อเสียงจากในแวดวงต่าง ๆ มาร่วมสัมผัสความพิเศษของผลิตภัณฑ์ใหม่มากมาย ความพิเศษในครั้งนี้ ปัญญ์ปุริได้ดีไซน์ขวดน้ำหอมที่ได้รับแรงบันดาลใจจากรูปทรงของเจดีย์และเทคนิคการย่อมุมในสถาปัตยกรรมไทย ซึ่งไม่เพียงแต่สะท้อนคุณค่าแห่งความคิดสร้างสรรค์ แต่ยังบ่งบอกถึงความใส่ใจจากการเลือกใช้ขวดน้ำหอมในรูปแบบแท่งแก้ว เพื่อให้กลิ่นหอมสัมผัสกับผิวได้โดยตรง
