แม้โลกจะผันเปลี่ยนตามกาลเวลา แต่ผู้หญิงก็ยังคงเสียเปรียบเชิงโครงสร้างในสิทธิของตนเองอยู่ ไม่ว่าบทบาทในตำแหน่งผู้บริหาร ค่าจ้างที่อัตราต่ำกว่าผู้ชาย อีกทั้งมักจะตกเป็นเหยื่อของความรุนแรงทางเพศ และบ่อยครั้งก็ได้รับผลกระทบจากความยากจน หรือในบางภูมิภาคของโลก พวกเธอไม่ได้รับโอกาสทางการศึกษาอีกด้วย ครั้งนี้ เราจึงหยิบยก 10 สตรีของโลกที่ได้ชื่อว่าทรงอิทธิพล มีชื่อเสียงทั้งแง่ดีและแง่ร้ายในสื่อและสังคมตลอดปี 2022 ที่ผ่านมา
1. มาห์ซา อามินี
สาวเคิร์ดวัย 22 ปีที่กลายเป็นชนวนของการลุกฮือประท้วงครั้งใหญ่ในอิหร่าน เธอถูกเจ้าหน้าที่ศีลธรรมจับกุมตัวในกรุงเตหะราน ระหว่างเดินทางไปเยี่ยมพี่ชาย เหตุเพราะเธอไม่ได้สวมเสื้อผ้ามิดชิด และไม่สวมฮิญาบปิดคลุมศีรษะ หลังจากถูกควบคุมตัวที่สถานีตำรวจ เธอเกิดอาการป่วยและล้มฟุบไป ตามคำแถลงของเจ้าหน้าที่ ไม่มีใครทำร้ายเธอ เจ้าหน้าที่ทุกคนได้พยายามช่วยชีวิตเธอแล้วแต่ไม่เป็นผล แต่สังคมไม่เชื่อคำชี้แจง ไม่กี่วันหลังจากข่าวการเสียชีวิตของเธอแพร่ออกไป ก็เริ่มมีผู้ชุมนุมก่อหวอดประท้วงที่ด้านหน้าโรงพยาบาล และกระจายไปตามเมืองต่างๆ แม้รัฐบาลอิหร่านประกาศยุบหน่วยงานตำรวจศีลธรรมไปหลังจากนั้น แต่กระแสความไม่พอใจของชาวอิหร่านยังไม่คลาย และยังลุกลามไปถึงขั้นจะ “ล้มล้างเผด็จการ”
2. ไช่ อิงเหวิน
ประธานาธิบดีหญิงคนแรกแห่งสาธารณรัฐจีน (ไต้หวัน) ที่เข้ารับตำแหน่งตั้งแต่ปี 2016 นับแต่นั้นมาไต้หวันก็ยิ่งโดดเดี่ยวมากขึ้น เนื่องจากความพยายามที่จะหนีแรงกดดันจากจีน “เราเปิดการเจรจากับจีนทันทีที่จีนสร้างความสัมพันธ์ที่เป็นประโยชน์ร่วมกัน” เธอเคยกล่าวเมื่อปี 2020 และดูเหมือนจะเป็นประโยคเดิมที่เธอเคยกล่าวมานับร้อยครั้ง “เราจะไม่ดำเนินการอย่างเร่งรีบ แต่ก็ไม่ควรมีภาพลวงตาว่า ชาวไต้หวันจะยอมจำนนต่อแรงกดดัน ไม่มีใครบังคับเราให้เดินตามทางที่จีนคาดหวังได้ เพราะนโยบายของจีนไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับชีวิตเสรีประชาธิปไตยในไต้หวัน หรือกับอำนาจอธิปไตยของประชาชน 23 ล้านคน” นอกจากแข็งกร้าวแล้ว เธอยังท้าทาย ครั้งล่าสุดเมื่อต้นเดือนสิงหาคมปีกลาย ที่เปิดบ้านต้อนรับ “แนนซี เปโลซี”
3. เทย์เลอร์ สวิฟต์
ช่วงปลายปี 2022 เธอสามารถทำลายสถิติเกือบทุกรายการที่ทำได้ในวงการเพลง อัลบัมใหม่ของเธอ ‘Midnights’ (วางขายในเดือนตุลาคม) ครองตำแหน่ง 10 อันดับแรกในชาร์ตบิลบอร์ดของอเมริกาพร้อมกัน แบบที่ไม่เคยมีใครทำได้มาก่อน และภายในหนึ่งวันอัลบัมนี้ถูกสตรีมบน Spotify บ่อยครั้งกว่าทุกอัลบัมก่อนหน้า ความสำเร็จของเธอปรากฏอีกครั้งในเดือนพฤศจิกายน นั่นคือ ระหว่างการขายบัตรล่วงหน้าของทัวร์คอนเสิร์ต ‘The Eras’ ปรากฏว่าเซิร์ฟเวอร์ของแพลตฟอร์ม Ticketmaster ล่ม แฟนๆ กว่า 3.5 ล้านคน หรือที่เรียกว่า “Swifties” ต้องรอนานหลายชั่วโมงกว่าจะจองบัตรได้
4. อัวร์ซูลา ฟอน แดร์ ไลเอิน
ภายหลังการก้าวลงจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรีของ “อังเกลา แมร์เคล” ช่วงปลายปี 2021 เธอก็ก้าวขึ้นสู่ตำแหน่งนักการเมืองระดับสูงในปี 2022 ฟอน แดร์ ไลเอิน-ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการยุโรป-เป็นผู้กำหนดมาตรการคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจที่สำคัญต่อรัสเซีย สามข้อภายในหนึ่งสัปดาห์หลังจากเริ่มสงครามในยูเครน–การห้ามทำธุรกรรมกับธนาคารกลาง การปิดกั้นน่านฟ้าสำหรับการคมนาคมทางอากาศของรัสเซีย และการปิดกั้นสำนักข่าวของรัฐบาลในเครมลิน เนื่องจากความเป็นผู้นำของเธอในช่วงสงครามยูเครน และการรับมือกับการแพร่ระบาดของโควิด-19 เธอจึงได้รับการยกย่องเป็นสตรีที่ทรงอิทธิพลที่สุดคนหนึ่งของโลก
5. เอลิซาเบธ โฮล์มส์
เรื่องราวของเธอเป็นเรื่องราวของการไต่เต้าด้วยเล่ห์ฉ้อฉล และการตกต่ำอย่างชวนติดตาม เธอเป็นผู้ประกอบการรุ่นเยาว์เจ้าของบริษัทสตาร์ทอัพ Theranos ที่เคยได้รับการยกย่องว่า เป็นผู้บุกเบิกในซิลิคอนวัลเลย์ และด้วยเทคโนโลยีการตรวจเลือดที่ปฏิวัติวงการ สามารถตรวจสอบโรคนับสิบจนถึงมะเร็งและเอชไอวี ด้วยอุปกรณ์เจาะเลือดที่ปลายนิ้วมือ เธอจึงกลายเป็นมหาเศรษฐีสร้างเองที่อายุน้อยที่สุดในสหรัฐอเมริกา แต่ท้ายที่สุดฟองสบู่ก็แตก เมื่อการวิจัยค้นพบว่า อุปกรณ์ทดสอบของเธอใช้งานจริงไม่ได้ เมื่อต้นปี 2022 โฮล์มส์ในวัย 37 ถูกศาลตัดสินว่ามีความผิดในคดีฉ้อโกง และต้องโทษจำคุกสูงสุดถึง 80 ปี จากกรณีของโฮล์มส์ เผยให้เห็นคำขวัญของบริษัทสตาร์ทอัพอีกหลายแห่งที่ว่า “Fake it till you make it”–ปลอมจนกว่าคุณจะทำมันขึ้นมาได้
6. จาซินดา อาร์เดิร์น
ในสายตาชาวโลก นายกรัฐมนตรีของนิวซีแลนด์ยังคงได้รับการยกย่องว่าเป็นหนึ่งในผู้นำทางการเมืองที่โดดเด่น นับตั้งแต่เข้ารับตำแหน่งเมื่อปี 2017 เธอต้องรับมือกับการโจมตีของผู้ก่อการร้าย เหตุการณ์ภูเขาไฟระเบิด และการระบาดของโควิด-19 เธอผ่านวิกฤตเหล่านั้นมาได้ด้วยการสื่อสารที่ยอดเยี่ยม และเต็มไปด้วยความเห็นอกเห็นใจ การจัดการกับวิกฤตได้ดีนั้น ทำให้เธอได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลโนเบลถึงหลายครั้ง อีกทั้งทำให้เธอได้รับเลือกขึ้นปกนิตยสาร Vogue และ Time Magazine ของอังกฤษ แต่ทุกวันนี้ความนิยมของเธอในประเทศกลับค่อยๆ ลดลงเรื่อยๆ จากวิกฤตโควิด-19 เช่นกัน ซึ่งครั้งหนึ่งเธอเคยมีส่วนทำให้การระบาดเพิ่มขึ้น รวมถึงปัญหาต้นทุนอสังหาริมทรัพย์ที่ยังคงสูง และปัญหาเงินเฟ้อ
7. เมแกน มาร์เคิล
เธอคือบุคคลซึ่งทำให้แนวคิดของราชวงศ์อังกฤษยุ่งเหยิงมากยิ่งขึ้น ผู้เชี่ยวชาญสายวังหลายคนแสดงความเห็น เธอมีระดับความมั่นใจที่เหลือเชื่อและอันตราย ดังนั้น สมาชิกราชวงศ์จึงไม่รู้วิธีจัดการกับความมั่นใจในตัวเองของเมแกน เธอปฏิเสธที่จะเรียนรู้ “วิถีชีวิตพื้นฐานในราชวงศ์” ตั้งแต่เริ่มต้น ซึ่งทำให้ราชวงศ์อังกฤษรู้สึกหงุดหงิดกับเรื่องนี้ เพราะแทนที่จะใช้กฎ เมแกนกลับ “เผ่นหนี” ช่วงปี 2022 เต็มไปด้วยข่าวของเธอและแฮร์รี สืบเนื่องมาจากการให้สัมภาษณ์ในรายการของ โอปราห์ วินฟรีย์ กระทั่ง ปรากฏสารคดีซีรีส์ ‘Harry and Meghan’ และหนังสือบันทึกความทรงจำ ‘Spare’ ออกมา ล่าสุด เมแกนเพิ่งค้นพบช่องทางสื่อสารใหม่คือ Podcast บน Spotify ที่เธอบอกว่า “เป็นตัวจริงของฉัน ตรงกันข้ามกับภาพที่สื่อนำเสนอ” และ “ฉันแค่ตื่นเต้นที่ได้เป็นตัวของตัวเอง และสามารถพูดได้โดยไม่ต้องผ่านการกลั่นกรอง”
8. แนนซี เปโลซี
ด้วยตำแหน่งประธานสภาผู้แทนราษฎร เธอนับเป็นผู้นำอันดับ 3 ของสหรัฐอเมริกา ถัดจากประธานาธิบดีและรองประธานาธิบดี แต่หลังจากปฏิบัติหน้าที่มานานหลายปี ช่วงปลายปี 2022 เธอประกาศสละตำแหน่งผู้นำของพรรคเดโมแครตในสภาผู้แทนฯ เปโลซีเป็นที่รู้จักในฐานะนักกลยุทธ์ที่โดดเด่น เคยมีบทบาทสำคัญในการผ่านการปฏิรูปด้านการดูแลสุขภาพของ บารัก โอบามา และในช่วงที่ โดนัลด์ ทรัมป์ ดำรงตำแหน่งประธานาธิบดี เธอเป็นคู่ต่อสู้ที่ดุเด็ดของประชานิยมฝ่ายขวา ทรัมป์เคยเรียกเธอบ่อยครั้งว่า “แนนซีบ้า” (Crazy Nancy) ตอนที่ผู้สนับสนุนหัวรุนแรงของทรัมป์ บุกอาคารรัฐสภาเมื่อต้นปี 2021 มีเสียงหลายคนตะโกนว่า “แนนซีอยู่ไหน” สำนักงานของเธอก็ถูกโจมตีจนราบคาบในครั้งนั้นเหมือนกัน
9. แอมเบอร์ เฮิร์ด
ดาราเด่นในดรามาฤดูร้อนปี 2022 ระหว่างที่คดีความยังดำเนินต่อไปในศาล แต่แฟนๆ ในโซเชียลมีเดียได้ตัดสินไปนานแล้วว่า “จอห์นนี เดปป์” อดีตสามีของเธอเป็นผู้บริสุทธิ์ ส่วนเธอเป็นคนมุ่งร้าย จนเป็นเกมที่ดูต่างระดับและคุณภาพอย่างสิ้นเชิง ล่าสุด เธอบรรลุข้อตกลงในข้อพิพาททางกฎหมายเกี่ยวกับข้อกล่าวหาอดีตสามี และกำลังสละสิทธิ์ในการยื่นอุทธรณ์ คณะลูกขุนในรัฐเวอร์จิเนียตัดสินให้เธอจ่ายเงินกว่า 10 ล้านดอลลาร์แก่เดปป์ ชดใช้ค่าเสียหายจากการหมิ่นประมาท
10. บริทนีย์ ไกรเนอร์
เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2022 นักบาสเกตบอลหญิงอเมริกันถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมตัวที่สนามบินในมอสโก พร้อมยาเสพติดประเภทกัญชา ต้นเดือนสิงหาคมศาลในมอสโกตัดสินคดีและลงโทษจำคุกเธอ 9 ปี เดือนตุลาคมศาลในมอสโกยกคำอุทธรณ์ของเธอ เรื่องร้อนถึงทำเนียบขาวจนต้องแถลงข่าวยืนยันว่า สหรัฐฯ ได้ยื่น “ข้อเสนอสำคัญ” แก่รัสเซีย เพื่อต่อรองคดีของกริเนอร์ “ทุกนาทีที่ บริตนีย์ กริเนอร์ ต้องอยู่ในสถานคุมขังที่ผิดกฎหมายในรัสเซียนั้น แค่นาทีเดียวก็นานเกินไปแล้ว” และข้อเสนอสำคัญที่ว่า อาจเป็นการแลกเปลี่ยนตัวนักโทษกับ “วิกเตอร์ เบาต์” นักค้าอาวุธชาวรัสเซียชื่อกระฉ่อน ที่ต้องโทษจำคุก 25 ปีในสหรัฐฯ