xs
xsm
sm
md
lg

ป้อม วินิจ เผยเทรนด์แต่งหน้า 2023 สายเกาฯ และสายฝอ ยังคงมาแรง

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ป้อม - วินิจ บุญชัยศรี เมคอัพอาร์ติสอันดับหนึ่งของไทย ที่พ่วงตำแหน่งพรีเซนเตอร์และ Creative Director ที่ร่วมพัฒนาเครื่องสำอางแบรนด์ไทยที่โด่งดังไปทั่วอย่าง RAN Cosmetic อีกทั้งยังเป็นเมคอัพอาร์ติสไทยคนแรก ๆ ที่ไปบุกเบิกงานแฟชั่นระดับโลกอย่าง คานส์ มาแล้วแทบทุกปี และไม่ว่า ป้อม - วินิจ จะสร้างสรรค์การแต่งหน้าสไตล์ไหนออกมาบนใบหน้าของศิลปินดารา ผู้คนก็จะแต่งตามตามกันทั่วบ้านทั่วเมือง ดั่งที่แฟชั่นคิ้วอุยที่ป้อม - วินิจเป็นผู้ริเริ่ม ได้ปรากฏอยู่บนใบหน้าสาวไทยแทบทุกคนมาแล้ว


โดยเทรนด์แต่งหน้าในปี 2566 นี้ ป้อม - วินิจ แนะว่า “น่าจะเป็นผลต่อเนื่องจากปีที่ผ่านมา ด้วยกระแสเทรนด์เกาหลีค่อนข้างมาแรงมาก ๆ เพราะมีศิลปินนักร้องดัง ๆ มีกระแสหลายคนทั้งผู้ชายและผู้หญิง ไม่ว่าจะเป็น ลิซ่า หรือ แจ็คสัน หวัง ที่เข้ามาทำให้เทรนด์การแต่งหน้าของผู้ชายนั้นมาแรงไม่แพ้การแต่งหน้าของผู้หญิงเลย”

อีกเทรนด์ที่มาควบคู่กันก็คือ เทรนด์สายฝอ ซึ่งก็จะมาแรงสูสีพอ ๆ กันกับสายเกา ฯ สำหรับบุคคลทั่วไป พี่ป้อมขอแนะนำว่าเป็นสายเกาฯ จะดีกว่า “เพราะสไตล์สายเกาฯ จะทำให้ผู้หญิงดูอ่อนเยาว์ ดูสวยแบบธรรมชาติมากที่สุด ซึ่งถ้านำมาปรับมันจะเหมาะกับสาวไทยมากกว่า ช่วยให้ดูนุ่มละมุนอ่อนหวานมากยิ่งขึ้นกว่าสายฝอ”

“แต่โดยส่วนตัวพี่ป้อมเองแล้ว พี่ป้อมจะชอบแต่งสไตล์สายเกาฯ ผสมกับสายฝอมากกว่า สายเกาฯ นั้นจะได้ความเด็ก สายฝอจะช่วยในเรื่องการเปลี่ยนแปลงเชฟตาได้อย่างที่เราตั้งใจ หรือดีไซน์เอาไว้ เพราะฉะนั้นถ้าเรานำมาผสมผสานกันนี่พี่ป้อมว่า เราจะได้ความสวยงามที่ค่อนข้างลงตัวมากเลยนะครับ”


เริ่มจากในส่วนของสกิน คือ เริ่มจากผิวก่อน “พี่ป้อมจะค่อนข้างให้ความสำคัญค่อนข้างมากในการแต่งหน้า โดยเฉพาะการเตรียมผิวก่อนแต่งหน้า จะเป็นการบำรุงโดยการเน้นเติมน้ำให้กับผิวหน้า เน้นความชุ่มชื้นให้กับผิว และเลือกลงรองพื้นที่ช่วยปรับโทนสีผิวให้ดูสว่างมากยิ่งขึ้น ถ้าผิวขาวอยู่แล้ว ก็อาจจะใช้ตัวรองพื้นสีสว่างค่อนข้างมากไปเลย หรือถ้าหากมีผิวสองสี พี่ป้อมก็จะขอแนะนำให้ปรับอันเดอร์โทนให้สว่างขึ้นกว่าผิวจริงไปอีกหนึ่งสเต็ป และไม่ควรแต่งออกมาให้ดูดิวอี้ (Dewy มีประกายแบบฉ่ำ ๆ) มากเกินไป ให้แต่งในลักษณะกึ่ง Matt หลังจากนั้นค่อยใช้ Finisher ที่ทำให้ดูออกมาเป็นงานผิว เช่น Shimmer หรือ บาล์ม ที่มาช่วยให้ผิวดูดิวอี้เป็นงานผิวมากยิ่งขึ้นแบบพอเหมาะ

ในส่วนของรองพื้นที่พี่ป้อมอยากแนะนำ ให้เลือกตัวรองพื้นที่สามารถควบคุมปริมาณความมันบนใบหน้าได้ค่อนข้างดีสักนิดนึง เนื่องจากตัวสกินแคร์ที่เราลงไปก่อนหน้านี้นั้นเราเน้นไปที่งานผิว อาจจะมีตัวใดที่มีส่วนผสมของน้ำมัน ฉะนั้น รองพื้นและแป้งฝุ่นที่ช่วยควบคุมความมันได้ก็จะช่วยควบคุมน้ำมันบนใบหน้าได้เป็นอย่างดี และยังคงเป็นงานผิวที่สวย ดูชุ่มชื้นอยู่” สรุปคือ จะเป็นการปรับผิวให้ดูสว่างกว่าผิวจริงไป 1-2 สเต็ป เทคนิคที่พี่ป้อมขอแนะนำสาว ๆ เลยคือ “เมื่อลงรองพื้นเสร็จแล้ว ให้ลองถอยออกมาสัก 2 ก้าวจากหน้ากระจก แล้วให้ดูองค์รวมว่าหน้ามันลอยจนเกินไปไหม ?”




ในส่วนของเทรนด์การแต่งตาปี 2566 นี้ “การแต่งตาในปีนี้จะค่อนข้างเบามาก ๆ ขนตาจะเป็นนำขนตาที่ใช้แล้วดูเป็นธรรมชาติเข้ามา หรือการติดขนตาแบบเฉพาะจุด เช่นการตัดเสียบขนตา หมดสมัยขนตางอนแบบสะพรึงไปแล้ว ไม่เหมือนปีที่ผ่าน ๆ มา จะเน้นการแต่งเบาแบบที่ช่วยให้สาว ๆ ดูดวงตากลมโตมากขึ้น เพราะฉะนั้นเราจึงไม่ใช้ขนตาที่ดูหนาทึบ การตัดเสียบขนตาเป็นก้าน ๆ เพื่อให้มีช่องว่างทะลุผ่านไปถึงเปลือกตา และที่มาแรงชัดเจนแน่นอนก็คือ เส้นอายไลเนอร์ที่มาช่วยเน้นให้ดวงตาดูยาวรีขึ้น ส่วนใหญ่จะแตะไปที่บริเวณเกือบ ๆ จะหางตาแล้วลากออก องศาของเส้นอายไลเนอร์เกือบจะยาวตรงนะครับ อาจจะงอนเชิดขึ้นสักนิดนึงในกรณีที่ สาว ๆ บางคนแตะแล้วลากออกยาวตรง แล้วทำให้ดวงตาดูซึมเศร้า เราก็จะยกหางตาขึ้นมาช่วย ในการยกระดับจะเป็นการยกแบบขนานกับเส้นตาเรานะครับ ไม่ใช่การยกตั้งกระดกเหมือนตาแมวแบบที่ผ่าน ๆ มา แต่ถ้าจะเขียนอายไลเนอร์ทั้งรูปตา ควรจะเขียนให้เป็นเส้นที่บางและเล็กมาก ๆ นะครับ”


ในส่วนของสีแก้ม สีที่มาแรงคือ สีออกชมพูอมพีช หรืออาจจะมีสีอมม่วงมาผสมได้ในบางจุด จะลงบรัชออนในสีที่ค่อนข้างเบา หรือสีพาสเทล จะช่วยให้ใบหน้าดูอ่อนหวาน ละมุนขึ้น เพื่อให้ไปล้อกับเส้นตาที่ดูเปรี้ยวคม




ริมฝีปาก “ตอนนี้เทรนด์การฉีดฟิลเลอร์ที่ปากมากแรงมาก เราจะใช้เส้นเอ๊าท์ไลน์ (Out Line) รอบริมฝีปาก เพื่อจะขยายรูปปากให้ดูเอิบอิ่มมากยิ่งขึ้น ในปี 2566 ลิปไลน์เนอร์นี่มาแรงอย่างแน่นอน พี่ป้อมขอแนะนำให้สาว ๆ เลือกใช้เป็นสีเอิร์ทโทน จะเป็นเหมือนลักษณะเงาของริมฝีปากที่ตกกระทบลงบนผิวเหนือริมฝีปาก เพื่อที่จะขยายเส้นแล้วจึงใช้ลิปกลอสแตะตรงกลางเป็นลิปแมทที่ให้ความชุ่มชื้น”

ริมฝีปากจะแบ่งจะ 2 เทคเจอร์คือ ลิปเนื้อกลอสก็จะเป็นเนื้อลิปคอนดิชั่นเนอร์ที่ทาไปแล้ว จะทำให้ปากดูสวยเป็นธรรมชาติ ชุ่มชื้นแวววาว ส่วนแบบที่ 2 จะเป็นลิปกึ่งแมทให้ใช้สีเอิร์ทโทนถึงนึง แบบถึงจะอยากให้แดง ก็ให้ใช้แดงผสมเอิร์ทโทน จะออกมาเป็นแดงไม่สดมาก เทคเจอร์ที่เป็นกึ่งแมทยังไงก็ตาม ก็ยังคงต้องมีความชุ่มชื้นอยู่บนริมฝีปากอยู่สักหน่อย เพื่อทำให้ริมฝีปากดูเอิบอิ่ม ถ้าแห้งแมทเหมือนซีซั่นที่ผ่าน ๆ มาริมฝีผากก็จะดูฟีบฝ่อ และไฮไลท์ที่จะมาช่วยเน้นเรื่องความเอิบอิ่มของริมฝีปาก็จะหายไป


“โดยรวมแล้วเทรนด์การแต่งหน้าในปี 2566 นี้ ดวงตาจะดูเบาขึ้น รองพื้นการทำผิวจะเป็นการแต่งแล้วดูสบายตามากขึ้น ริมฝีปากแม้จะเน้นสีแต่เทกเจอร์จริงของริมฝีปากก็ยังต้องเห็นอยู่ ไม่ว่าจะมาในรูปแบบกลอส หรือแบบแมท การเฉดสีก็จะน้อยลง เป็นผิวที่ดูสว่าง ดูนวลเนียน สาว ๆ ควรจะต้องเตรียมทำโครงหน้าให้สวย โดยที่แทบจะไม่ต้องแต่งอะไรเลย การเน้นการแต่งผิวจะช่วยลดในเรื่องของการเฉดดิ้ง ทำให้เรามีรูปหน้าที่สวย แต่ถ้าเรารูปหน้ากลมก็อย่าไปซีเรียส หน้ากลมเราก็สวยได้ หน้ายาวเราก็สวยได้ ถ้าเรารู้จักการเลือกใช้รองพื้นให้สวยเนียน สว่างอย่างดูเป็นธรรมชาติ สามารถแก้ไขปกปิดจุดบกพร่อง หรือปัญหาต่าง ๆ ของสาว ๆ ได้ พี่ป้อมขอย้ำในเรื่องของโปรดักส์ที่จะนำมาแต่งงานผิวควรจะมีส่วนผสมของตัวบำรุงผิวค่อนข้างมาและไม่ทำร้ายผิวนะครับ”

ท้ายที่สุดนี้ “พี่ป้อมก็ขอให้สาว ๆ สนุกกับการแต่งหน้าให้อย่างเต็มที่เลยนะครับ อย่าลืมนะครับว่าเทรนด์การแต่งหน้าออกมาในแนวสดใสสนุก แต่จับต้องได้มากขึ้น ทันสมัยเข้ากับนวัตกรรมของการแต่งหน้าที่มาไกลและพัฒนาอย่างต่อเนื่อง” เมคอัพอาร์ติสมือหนึ่งกล่าว


กำลังโหลดความคิดเห็น