สำหรับโลกในยุคนี้ ที่นวัตกรรมใหม่ๆ เกิดขึ้นอย่างไม่หยุดหย่อน เครื่องมือสื่อสารแห่งทศวรรษ อย่าง โซเชียลมีเดีย เข้ามามีบทบาทในชีวิตประจำวันของทุกคน ทำให้สภาพสังคมเปลี่ยนแปลงไป ทั้งในด้านพฤติกรรมของมนุษย์ อุบัติการณ์ในบ้านเมือง ไลฟ์สไตล์ของผู้คน ก็เป็นธรรมดาที่ทำให้รูปแบบบรรทัดฐานของสิ่งต่างๆ ต้องปรับตัวไปเช่นกัน อย่าง นิยามของความมีชื่อเสียง แพตเทิร์นของความโด่งดัง ที่ทุกวันนี้ การจะจุดกระแสให้คนดังฮอตฮิตขึ้นมาได้ มีเทคนิคใหม่ที่ต่างจากสมัยก่อนอย่างสิ้นเชิง และวันนี้เราจะมาเผยสมการสูตรสำเร็จของการสร้างซูเปอร์สตาร์ในยุคนี้
ถ้าเป็นในอดีต เวลามีอีเวนต์หรืองานเทศกาลสำคัญต่างๆ รายชื่อไฮไลต์ของงานคงหนีไม่พ้นเหล่าซุป’ตาร์คนดัง พระเอก นางเอก นักแสดงตัวหลักของช่องโทรทัศน์ต่างๆ หรือนักร้องของค่ายดัง แต่ในทุกวันนี้ รายชื่อแขกรับเชิญถูกเบียดกลบด้วยบรรดาคู่จิ้นนักแสดงนำของซีรีส์วาย ที่ชื่อเริ่มคุ้นหูกันเพราะความโด่งดังในโลกโซเชียล ที่มีแฟนคลับมากมาย และมีแฮชแท็กขึ้นเทรนด์ได้ไม่เว้นแต่ละวัน ไม่ว่าจะเป็น ไบรท์-วิน, พีพี-บิวกิ้น, มาย-อาโป, เอิร์ธ-มิกซ์, ซี-นุนิว ฯลฯ
ปรากฏการณ์ของกระแสความดัง ของเหล่าดาราวัยรุ่นหน้าใหม่เหล่านี้ เกิดจากส่วนผสมของคู่จิ้นที่มีแฟนคลับตามเชียร์ บวกกับเหล่าบรรณาธิการผู้ทรงอิทธิพลในวงการแฟชั่น แบรนด์ธุรกิจแนวคิดก้าวหน้า ซึ่งรู้จักเล่นกับเทรนด์โซเชียล ออกมาเป็นสมการที่ลงตัว ที่ผสานกันออกมาแล้ว win ด้วยกันทุกฝ่าย
เริ่มจากเหล่าบรรณาธิการนิตยสารหัวนอก สไตลิสต์คนดัง ที่มีอิทธิพลในวงการแฟชั่น มีคอนเนกชันมากมาย ไม่ว่าจะเป็น ฟอร์ด-กุลวิทย์ เลาสุขศรี, หนุ่ม–อภิวัฒน์ ยศประพันธ์, โกโก้–ณิชกุล กิตยานุพงษ์, ป๊อป–กำพล ลิขิตกาญจนกุล ฯลฯ เป็นตัวเชื่อมประสาน นำเอาบรรดานักแสดงหน้าใหม่ ที่โด่งดังมาจากคู่จิ้นในละครวัยรุ่น มีแฟนคลับติดตามอย่างจริงจัง และมีบทบาทในการขับเคลื่อนโซเชียลมีเดียสูง มาเปิดตลาดโมเดลธุรกิจใหม่ ด้วยการร่วมมือแบบเอ็กซ์คลูซีพ กับบรรดาแบรนด์ดังๆ อย่าง Louise Vitton, Burberry, Valentino, MCM, Christian Dior, Gucci ฯลฯ ทั้งพาบินไปนั่งฟรอนต์โรว์ชมแฟชั่นโชว์ที่ต่างประเทศ หรือจะให้สวมใส่หรือถือไอเทมชิ้นพิเศษถ่ายแบบลงในนิตยสาร และเชิญมาเป็นแขกคนสำคัญในงานอีเวนต์เปิดคอลเลกชันต่างๆ รวมไปถึงการนำมาเป็นพรีเซนเตอร์โปรโมตคอลเลกชันต่างๆ อีกด้วย
ปรากฏการณ์นี้เริ่มเห็นได้ชัดในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา ต้องบอกว่าหนึ่งในการเปิดศักราชของสูตรสำเร็จนี้ ต้องยกให้ นิตยสาร GQ ประเทศไทย ที่ในช่วงต้นปี 2562 ได้พา แบมแบม และ มาร์ค สมาชิกวง GOT7 เดินทางไปร่วมชมแฟชั่นโชว์แบรนด์ Ermenegildo Zegna ที่ มิลาน แฟชั่นวีก แบบฟรอนต์โรว์ พร้อมกับทำการถ่ายแบบแฟชั่นเซ็ตปกที่อิตาลี ซึ่งมีการทำแคมเปญปล่อยคอนเทนต์ทางสื่อออนไลน์อย่างต่อเนื่อง สร้างความฮือฮาให้บรรดาแฟชั่นคลับได้ติดตามเกาะติดตลอดทั้งทริป เทรนด์ทั้งชื่อนักร้อง ชื่อนิตยสาร รวมถึงชื่อแบรนด์ ฮอตฮิตติดลมบนอยู่นานเป็นวัน แถมแฟนๆ ยังพากันจับจองนิตยสารกันล่วงหน้า จนทำให้ฉบับนั้นทำยอดขายได้อย่างถล่มทลายเป็นประวัติการณ์ และกลายเป็นตัวอย่างโมเดลของเทรนด์ธุรกิจการตลาดแบบใหม่
จากนั้นก็มีการพานักแสดงหนุ่มหน้าใส ดาราหน้าใหม่บินไปร่วมแฟชั่นวีกกันอยู่ตลอด ทั้ง นาย–ณภัทร เสียงสมบุญ, ต่อ–ธนภพ ลีรัตนขจร, สกาย-วงศ์รวี นทีธร ฯลฯ ต่างจากเดิมๆ จะเห็นแต่พวกเหล่าซูเปอร์โมเดลตัวแม่ หรือดารานักแสดงรุ่นเก๋า พระเอก นางเอก ตัวท็อป ซึ่งคนอาจจะรู้จักกันมากก็จริง แต่ไม่ได้รับความนิยม ไม่ได้มีแฟนคลับช่วยขับเคลื่อนเหมือนกับบรรดา “คู่จิ้น” ที่กำลังเริ่มสร้างชื่อ ที่ค่อยๆ เข้ามามีบทบาทในโมเดลธุรกิจนี้
ผลลัพธ์ที่ได้คือ ทางตัวนักแสดงเองก็ได้ฟีดแบ็กที่ดี มีภาพลักษณ์ของสินค้าลักชัวรี ฟากนิตยสารก็ขายดีเป็นเทน้ำเทท่า และแคมเปญต่างๆ ก็ได้รับการกล่าวขานไปในวงกว้าง เป็นที่รู้จักในสาธารณชน งานอีเวนต์ต่างๆ การันตีได้ถึงความฮือฮาและกระแสความนิยมในโซเชียลมีเดีย
เนื่องจากแฟนคลับของบรรดาคู่จิ้น และนักแสดงหน้าใหม่เหล่านี้ ต่างทุ่มเทกันอย่างจริงจัง ทั้งยกกองทัพไปร่วมงาน ตามกรี๊ดตามเชียร์เวลาศิลปินเข้าร่วมอีเวนต์ต่างๆ ทั้งสร้างแฮชแท็กให้ติดอันดับขึ้นเทรนด์ทั้งของไทยและเทรนด์ระดับโลก เพราะเหล่าแฟนๆ เหล่านั้นไม่ได้มีแค่ในประเทศ แต่มีความนิยมจากต่างประเทศ ตามที่กระแสซีรีส์วายไทยไปตีตลาดอินเตอร์ได้หลายแห่ง ทั้งในประเทศจีน เวียดนาม ญี่ปุ่น ไปจนถึงอเมริกาใต้ มีการเดินทางไปจัดแฟนมีต จัดคอนเสิร์ตต่างๆ ก็ขายบัตรหมดได้อย่างรวดเร็ว
แบรนด์ต่างๆ จึงได้ทั้งกระแสในโลกออนไลน์ แถมยังทำยอดขายได้ด้วย เพราะเหล่าแฟนคลับตามซื้อของตามไอดอล รวมไปถึงการสร้างแคมเปญท็อปสเปนเดอร์ จัดงานอีเวนต์ให้แฟนคลับแย่งชิงกันซื้อสินค้า เพื่อให้ได้สิทธิ์เป็นผู้โชคดีเข้าร่วมงาน
การผสานพลังกันของ 3 วงการนี้ ที่ Synergy ทั้งวงการบันเทิง วงการแฟชั่น และแวดวงธุรกิจ ขับเคลื่อนให้กระแสโมเดลความดังสไตล์ใหม่นี้ ยิ่งโบยบินติดลมบน และน่าจะยังคงเป็นกระแสไปอีกนานแบบไม่จางลงง่ายๆ เป็นแน่