ปัจจุบันคนหนุ่มคนสาวรุ่นใหม่ ที่ใฝ่ฝันอยากมีธุรกิจเป็นของตัวเอง หลายคนทำตามฝันไปแล้วอาจจะไม่ได้เป็นไปอย่างที่ใจคิด แต่ก็มีหลายคนที่ประสบความสำเร็จ วันนี้ จะพามาทำความรู้จักกับหนุ่มสาวนักธุรกิจรุ่นใหม่หัวก้าวหน้า ที่เดินหน้าทำตามฝันจนถึงเป้าหมายที่วางไว้ แถมบางคนยังเกินกว่าเป้าที่ตั้งไว้อีกต่างหาก มาดูสิว่ามีใครและทำอะไรกันบ้าง?
มาดามฟิน
เริ่มก่อตั้งโดย “ทราย-นรี ชีวสุทธิศิลป์” ซึ่งมีความชื่นชอบน้ำหอมเป็นทุนเดิม และทำธุรกิจขายเครื่องสำอางจากต่างประเทศมาก่อน โดยร่วมหุ้นกับเพื่อนๆ อีก 2 คนคือ ธนนรินทร์ โตป่าเตย และสิริชัย ชีวสุทธิศิลป์ ช่วงแรกๆ ขายเฉพาะในออนไลน์ และเริ่มขยับขยายมามีผู้จัดจำหน่าย จากคนธรรมดาสู่คนดังนักแสดง ที่ต่างก็มาร่วมวงในการสร้างกระแสให้น้ำหอมของมาดามฟินเป็นที่รู้จัก และน่าเชื่อถือจากคนทั่วไป จนแตกไลน์จากน้ำหอม มาเป็นครีมบำรุงผิวที่มีกลิ่นหอมเดียวกัน และโด่งดังสร้างมูลค่าให้กับผลิตภัณฑ์ จากทุนจดทะเบียน 1 ล้านบาทในปี 2560 ปัจจุบันมีรายได้เกินกว่า 500 ล้านบาท
ดร.จิลล์
เซรัมบำรุงผิวหน้ายอดนิยม “Dr.JiLL” ที่มีเหล่านักแสดงระดับท็อปของเมืองไทย ออกมาการันตีในคุณภาพนั้น มี หนุ่มหล่อ “ซี-สักก์พิพัฒน์ ประภาสิทธิ” เป็นผู้อยู่เบื้องหลังความสำเร็จ ซึ่งกว่าจะมาถึงจุดนี้ได้เขาต้องฝ่าฟันมาตลอด ตั้งแต่เริ่มทำธุรกิจขายตรงกับเพื่อนในระหว่างที่กำลังศึกษาระดับปริญญาตรี จนกระทั่งเรียนจบ ได้ทำงานประจำด้านการตลาดให้กับโรงงานผลิตอาหารเสริมเครื่องสำอาง จนมีโอกาสได้สูตรสกินแคร์มา จึงนำไปผลิตออกมาแล้วส่งให้เพื่อนที่สนิทกันทดลองใช้ดู จนพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าดี เลยนำชื่อคุณหมอที่ให้สูตรมาตั้งเป็นชื่อผลิตภัณฑ์ว่า “Dr.Jill” เพราะความมุ่งมั่นและไม่เคยปล่อยให้โอกาสหลุดมือของเขา ส่งผลให้ธุรกิจประสบความสำร็จมาจนถึงปัจจุบันก็ 9 ปีแล้ว
อีฟแอนด์บอย
บิวตี้สโตร์มัลติแบรนด์ที่อยู่คู่คนไทยมากว่า 17 ปีนี้ จุดเริ่มต้นมาจากคนหนุ่มไฟแรง “บอย-หิรัญ ตันมิตร” ผู้ซึ่งต่อยอดธุรกิจโชห่วยของครอบครัวที่มหาสารคาม จนมาเป็น EVEANDBOY มัลติแบรนด์สัญชาติไทย มีสาขาอยู่ในศูนย์การค้าชื่อดังของเมืองไทย ตั้งแต่ สยามสแควร์ เซ็นทรัล และอื่นๆ จนตอนนี้มีทั้งหมด 19 สาขา และในต่างจังหวัดมี 4 สาขาที่ เชียงใหม่ นครราชสีมา ขอนแก่น พัทยา ส่วนที่มหาสารคามได้ปิดไปนานแล้ว อีกทั้งมีจำหน่ายทางช่องทางออนไลน์ ปัจจุบันมีแบรนด์ในร้านมากกว่า 1,000 แบรนด์ นอกจากวางแผนจะขยายไปยังศูนย์การค้าดังๆ อีกหลายสาขาแล้ว ยังวางแผนขยายไปสู่ตลาดต่างประเทศ อย่าง เวียดนามและกัมพูชาอีกด้วย
O&B
สาวๆ ที่ชอบแต่งตัว ต้องเคยเห็นรองเท้าคัทชูสีสันสวยงาม 50 เฉดสี จากแบรนด์ O&B (Other and Book) ที่มีเซเลบริตีสาวสวย “ต้า-รรินทร์ ทองมา” เป็นเจ้าของ ซึ่งเริ่มต้นจากเงินหมื่นและขายทางออนไลน์ จนกระทั่งมียอดขายกว่าหลายร้อยล้าน แถมยังมีร้านค้าเป็นของตนเอง ก่อนที่จะขายรองเท้า O&B เธอเริ่มขายกระเป๋าแบรนด์ Bag book มาก่อน เมื่อขายดีขึ้นจึงเริ่มขยายมาทำรองเท้าขายและขายดีมากๆ จึงเปลี่ยนชื่อแบรนด์เป็น O&B ปัจจุบันเธอทำธุรกิจมาได้ 10 ปีแล้ว
SLC
SLC Group อาณาจักรศัลยกรรมความงามของ คุณหมอดา-พญ.พิมพิดา วรัญญูรัตนะ กับ นพ.ธีระชัย วรัญญูรัตนะ สองผู้ก่อตั้ง และมี นิ-นิสา ทั่งทอง ดูแลในส่วนของการตลาด จุดเริ่มต้นของ Siam Laser Clinic คือคุณหมอดากับสามีอยากทำคลินิกเกี่ยวกับการทำเลเซอร์ จึงเปิดสาขาแรกที่สยามสแควร์ และเปิดสาขา 2 ที่ทองหล่อ จากนั้นเริ่มขยายไปเปิดในห้างสรรพสินค้า และขยายสู่ธุรกิจโรงพยาบาลเสริมความงาม และบิวตี้เซอร์วิส โรงพยาบาล SLC Hospital จึงถูกก่อตั้งขึ้น
คาร์มาร์ท
KARMART ผู้จัดจำหน่ายเครื่องสำอาง ที่มี “แก๊ป-พงศ์วิวัฒน์ ทีฆคีรีกุล” เป็นผู้ก่อตั้ง ช็อปสีชมพูช็อกกิงพิงค์ ซึ่งมีตัวการ์ตูนเคที่ดอลล์เป็นพรีเซนเตอร์ ภายในระยะเวลา 10 กว่าปี สามารถทำยอดขายได้กว่าพันล้านบาท ปัจจุบันมี 60 สาขา มีสแตนอะโลน 27 สาขา และที่เดอะมอลล์ โรบินสันอีก ร้านสะดวกซื้อ และซูเปอร์มาร์เก็ตทั่วประเทศ จากทายาทเจ้าของธุรกิจเครื่องใช้ไฟฟ้าแบรนด์ไดสตาร์ มาสู่เจ้าของ บมจ.คาร์มาร์ท ที่ผลิตเครื่องสำอางและอุปกรณ์เสริมความงามรวม 10 แบรนด์ ส่งออกในกลุ่มประเทศ CLMV อินโดนีเซีย มาเลเซีย สิงคโปร์ ไต้หวัน และมีบริษัทร่วมทุนที่เวียดนาม โดยมีแบรนด์ที่คุ้นหูคือ เคที่ดอลล์ (Cathy Doll) และเบบี้ไบร์ท (Baby Bright) สิ่งที่เขาภูมิใจมากคือ เคยมีนักร้องเกาหลีวงแบล็กพิงก์ ใช้ลิปสติกแบรนด์เบบี้ไบร์ทแล้วโพสต์ลงไอจีด้วย
สุกี้ตี๋น้อย
หลังจากที่ “เฟิร์น-นัทธมน พิศาลกิจวนิช” กรรมการผู้จัดการ บริษัท บี เอ็น เอ็น เรสเตอรองท์ กรุ๊ป จำกัด ในวัย 29 ปี เจ้าของแบรนด์ “สุกี้ตี๋น้อย” ซึ่งได้ก่อตั้งธุรกิจมาเพียง 4 ปี ก็สร้างรายได้ทะลุ 500 ล้าน นับว่าเติบโตเร็วและมาแรง จนไปเข้าตาทีมผู้บริหารจาก บมจ.เจ มาร์ท (JMART) เปิดดีลกันจนเจมาร์ทได้เข้าไปถือหุ้นในสัดส่วน 30% หรือ 1,200 ล้านบาท ทำให้ปัจจุบันสุกี้ตี๋น้อยมีมูลค่าบริษัทถึง 4,000 ล้านบาท มี 42 สาขา และในปี 2566 ตั้งเป้าขยายเพิ่มไม่ต่ำกว่า 12 สาขา โดยจะบุกตลาดต่างจังหวัดเป็นครั้งแรก แถมยังเล็งๆ ขยายตลาดไปยังประเทศเพื่อนบ้านอีกด้วย
ฉัตรคอสเมติกส์
จากความชอบในวัยเด็กเพียงอายุ 13 “น้องฉัตร-ฉัตรชัย เพียงอภิชาติ” ได้ขอแม่ไปเรียนเสริมสวย และเปิดร้านเสริมสวยที่บ้าน ที่ทั้งทำผมและแต่งหน้า และจากช่างแต่งหน้าธรรมดาๆ ที่เริ่มต้นได้เงินเพียง 10 บาท มาถึงปัจจุบันในวัย 34 ปี ฝีแปรงน้องฉัตรไม่เป็นรองใคร แถมไต่อันดับขึ้นมาเป็นเมกอัพสไตลิสต์ชื่อดัง แต่งหน้าแต่ละครั้งอยู่ที่หลักหมื่นบาทขึ้นไปจนถึงหลักแสน เป็นที่ต้องการตัวของเหล่านักแสดง คนดัง และนางแบบ ล่าสุดๆ น้องฉัตรมีธุรกิจส่วนตัว เปิดเคาน์เตอร์แบรนด์เป็นของตัวเองชื่อว่า “Chat cosmatics” จำหน่ายผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวกับการแต่งหน้า ในห้างสรรพสินค้าชื่อดังและทางช่องทางออนไลน์
เรียกได้ว่าเป็นการสร้างรายได้และชื่อเสียงให้กับตัวเอง จนเติบโตมาสู่ธุรกิจสร้างตัวให้มีรายได้อย่างมั่นคงโดยแท้จริง
