บริษัท อีไอจี เดอร์มอลเวลเนส (ไทย) จำกัด ผู้จัดจำหน่าย Davines (ดาวิเนส) แบรนด์ผลิตภัณฑ์เพื่อเส้นผมระดับโลกจากประเทศอิตาลี และเป็นแบรนด์แรกในไทยที่ให้ความสำคัญเรื่องการฟื้นฟูและการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม ร่วมจัดแฟชั่นโชว์ “Davines Hair Show 2022 REGENERATION/ LET”S GROW THE FUTURE’” บนเวทีแฟชั่นระดับโลก Siam Paragon Bangkok International Fashion Week 2022 (BIFW2022) โดยมี มร.ร๊อดเดอริก เชียง ประธานบริหาร บริษัท อีไอจี เดอร์มอล เวลเนส กรุ๊ป ร่วมพูดคุยเกี่ยวกับเรื่องราวของแบรนด์ และไอเดียสุดบรรเจิดในการจัดแฮร์โชว์สุดพิเศษ ภายใต้คอนเซปท์ ‘DISRUPTION FROM NATURE’ รวมถึงความร่วมมือสนับสนุนการจัดงานแฟชั่นวีค BIFW2022 ครั้งนี้ ณ พาร์ค พารากอน สยามพารากอน
นอกจากนี้ภายในงานยังมีเสวนาเรื่องการปรับตัวของธุรกิจความงามเพื่อความยั่งยืน โดย สกุลทิพย์ กิรติพันธวงศ์ เลขาธิการสมาคม Social Value Thailand & B Corp Thailand Movement Leader, ฐิติภูมิ วงศ์เกียรติขจร General Manager EIG Dermal Wellness Thai, กษิด์เดช สุวรรณาภิรมย์ และอธิชนัน ศรีเสวก นักแสดงสาว ร่วมพูดคุย
พร้อมตื่นตากับแฮร์โชว์สุดตระการตา สะท้อนคอนเซปท์ Disruption from Nature เมื่อธรรมชาติบุกรันเวย์และการผสมผสานกันอย่างลงตัวของโลกแห่งแฟชั่นที่ขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยี ควบคู่ไปกับเรื่องราวของธรรมชาติและการดูแลโลกให้ยั่งยืน เพื่อความสมดุลที่ลงตัวระหว่างวิวัฒนาการและธรรมชาติ สร้างสรรค์โดย 5 สไตลิสต์ชื่อดัง นพาพร ปืนขุนทด จากร้าน Beaute De Salon, สิทธิพงษ์ เชื้อวิวัฒน์ จากร้าน KG Salon Inter, วิพุธ จารุธรรมากร, วรัญญา พุกผาสุข, พุฒิพงศ์ จำเริญสมบัติ จากร้าน ROOFHAIR Salon และอลงกรณ์ อนิลหงษ์ จากร้าน CABIN139 และทีม Davines Education Thailand โดยโจทย์ของสีผมได้รับแรงบันดาลใจจากดอกไม้ในเขตร้อนชื้นตระกูล exotic flower โดยในโชว์ของสไตลิสท์แต่ละเซ็ท จะมีการผสมผสานทั้งสีผมที่เป็นธรรมชาติ แทรกด้วยความสนุกสนานของสีจาก exotic flower อย่างกลมกลืนและลงตัว สร้างสรรค์จากผลิตภัณฑ์ดาวิเนส ที่ตอบโจทย์ทั้งความคิดสร้างสรรค์ในงานแฟชั่น และความเป็นธรรมชาติเพื่อความงามที่ยั่งยืน
มร. ร๊อดเดอริก เชียง ประธานบริหาร บริษัท อีไอจี เดอร์มอล เวลเนส กรุ๊ป กล่าวถึงพันธกิจของแบรนด์ Davines (ดาวิเนส) ที่ต้องการสร้างความตระหนักในเรื่องการรับผิดชอบ และตอบแทนสังคมเสมอมา ว่า “ดาวิเนส ในฐานะผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นผมที่ใส่ใจและเคารพต่อสิ่งแวดล้อม ที่ได้รับการรับรองจาก Certified B Corporation ได้เปิดตัวโครงการริเริ่มทางสังคมและสิ่งแวดล้อมครั้งแรก ภายใต้ชื่อ We Sustain Beauty ที่เป็นดั่งพันธะสัญญาของเรา สำหรับการเคลื่อนไหวเรื่องของการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศ และเป็นส่วนหนึ่งของความมุ่งมั่นของเราที่จะผสมผสานความงาม และการเกษตรอินทรีย์ปฏิรูปที่เพาะปลูกจากแหล่ง Slow Food Presidium เข้าด้วยกัน โดยคัดสรรส่วนผสมที่มีคุณภาพจากธรรมชาติ และเลือกใช้เทคโนโลยีทางวิทยาศาสตร์ในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ เพื่อรับประกันความปลอดภัยของผู้บริโภค โดยวางจำหน่ายผลิตภัณฑ์กว่า 90 ประเทศทั่วโลก ซึ่งโครงการ We Sustain Beauty ถือเป็นพันธกิจของดาวิเนส ที่สะท้อนความมุ่งมั่นด้านสิ่งแวดล้อมในการเป็นผู้บุกเบิกในเรื่องความยั่งยืนที่หยั่งรากลึกของแบรนด์”
โดยในงานมีเสวนาเรื่องการปรับตัวของธุรกิจความงามเพื่อความยั่งยืน โดย สกุลทิพย์ กิรติพันธวงศ์ เลขาธิการสมาคม Social Value Thailand & B Corp Thailand Movement Leader กล่าวถึงแนวโน้มเทรนด์ Sustainability ของทั่วโลกในปัจจุบัน ว่า “ทุกวันนี้หลายคนคงประจักษ์แล้วถึงความรุนแรงของสภาวะโลกร้อน หรือ Climate change ซึ่งผู้นำโลกกว่า 193 ประเทศให้ความสำคัญและลงนามสนธิสัญญาร่วมกันในการกอบกู้โลกในอีก 8 ปีข้างหน้าในปี 2030 โดยมีเป้าหมายในการบรรลุการพัฒนาความยั่งยืน 17 ข้อ เพื่อหยุดยั้งสิ่งที่จะเกิดขึ้นกับโลกของเราซึ่งจะส่งผลกระทบถึงเจเนอเรชั่นต่อไป ซึ่ง Climate change ที่ทุกท่านกำลังจะเผชิญอีกไม่เกิน 7 ปีข้างหน้านี้ จะมีความรุนแรงไม่ต่ำกว่า 5 เท่า ผู้คนจะล้มตายไม่ต่ำกว่า 3,000 ล้านคน ประมาณ 50% ของประชากรโลกจะได้รับผลกระทบจากการไม่มีที่อยู่อาศัย โดยเฉพาะผู้ที่อยู่ในฐานล่างของสังคม หรือ Bottom of pyramid และเป็นเทรนด์ที่ไม่ใช่เฉพาะภาครัฐ แต่ต้องเป็นการรวมพลังจากทุกคนในทุกภาคส่วนของสังคมที่ต้องช่วยกันกอบกู้โลก และต้องขอชื่นชมภาคธุรกิจ อย่างดาวิเนส ซึ่งเป็นลีดเดอร์แบรนด์ที่ตระหนักถึงความสำคัญของสิ่งแวดล้อมและความยั่งยืน และเป็นแรงบันดาลให้ธุรกิจอีกหลาย ๆ แบรนด์ ที่มีเป้าหมายในการทำธุรกิจโดยไม่ได้หวังผลกำไรเพียงอย่างเดียว แต่มีส่วนร่วมในการรับผิดชอบต่อโลกใบนี้อีกด้วย
ด้าน ฐิติภูมิ วงศ์เกียรติขจร General Manager EIG Dermal Wellness Thai กล่าวถึงจุดยืนของแบรนด์ ดาวิเนส ว่า “ดาวิเนส ให้ความสำคัญกับเรื่องสิ่งแวดล้อมควบคู่ไปการพัฒนาผลิตภัณฑ์ โดยใช้เทคโนโลยี ตลอดจนส่วนผสมต่าง ๆ ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และลดการใช้สารเคมี รวมทั้งรับผิดชอบในเรื่องของแพคเกจจิ้ง ที่เป็นกล่องทำจากกระดาษรีไซเคิล ส่วนพลาสสติกก็สามารถย่อยสลายได้ และมีการรับคืนมารีไซเคิล อีกทั้งยังเชื่อมโยงอุตสาหกรรมแฟชั่นให้เอื้อเข้ากับการเกษตรแบบอินทรีย์ที่นำมาใช้เป็นส่วนผสมในผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ นอกจากนี้ยังมีแคมเปญต่าง ๆ ที่ร่วมกับผู้บริโภค และร้านซาลอนชั้นนำ เพื่อเป็นการลดปริมาณขยะ ไม่ว่าจะเป็น รณรงค์ในการนำแพคเกจจิ้งที่เป็นขวดพลาสติกและหลอดสี ส่งกลับมาคืนเพื่อนำไปเข้าสู่กระบวนรีไซเคิล หรือทำลายอย่างถูกวิธี
“สำหรับก้าวต่อไปของดาวิเนส ก็เป็นเป้าหมายเดียวกับสหประชาชาติที่ต้องการสผลักดันเรื่อง Net zero emissions ในปี 2030 ซึ่งเราได้นำมาเป็นนโยบายในการดำเนินธุรกิจของดาวิเนสที่มุ่งมั่นในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่รักษาสิ่งแวดล้อม สำหรับก้าวต่อไปของดาวิเนส ก็เป็นเป้าหมายเดียวกับสหประชาชาติที่ต้องการผลักดันเรื่อง Net zero emissions ซึ่งเราได้นำมาเป็นนโยบายในการดำเนินธุรกิจของดาวิเนสที่มุ่งมั่นในการสร้างความงามที่ยั่งยืนให้แห่โลกของเรา”
ในขณะที่ กษิด์เดช สุวรรณาภิรมย์ ในฐานะเจ้าของธุรกิจร้านซาลอน เผยถึงการเป็นส่วนหนึ่งของการรักษาสิ่งแวดล้อม ว่า “ในฐานะช่างผมที่ต้องสัมผัสสารเคมีอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน ถือเป็นเรื่องใกล้ตัวที่เปรียบเหมือนเราทำร้ายตัวเองในทุกวัน เพราะกว่าจะได้สีผมสวย ๆ เราต้องฟอกและย้อมสีผมให้ลูกค้าซ้ำแล้วซ้ำอีก และมีช่างผมช่างทำสีผมจำนวนมากที่ประสบปัญหาสุขภาพที่มีสาเหตุจากการสัมผัสสารเคมีต่อเนื่องเป็นเวลานาน ซึ่งการฟอกย้อมผมแต่ละครั้ง จำเป็นต้องใช้น้ำจำนวนมากกว่าจะได้สีตามที่ต้องการ ซึ่งสารเคมีที่ถูกชะล้างไปกับน้ำนั้นจะมีไขมันที่ไม่ย่อยสลาย และอาจไปอุดทันในท่อระบายน้ำได้อีกด้วย ฉะนั้นควรให้ความสำคัญในการเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพ ย่อยสลายได้ และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม รวมทั้งต้องตระหนักถึงผลกระทบที่จะส่งผลต่อสุขภาพของเราต่อเนื่องไปถึงสิ่งแวดล้อม ดังนั้นจึงต้องอาศัยความร่วมมือกันของทุกฝ่าย ตั้งแต่เจ้าของร้าน ช่างผม และลูกค้า ในการเลือกใช้ผลิคภัณฑ์เพื่อความงามที่ยั่งยืน ไม่ทำลายสุขภาพ และดีต่อสิ่งแวดล้อม”
ส่วน “ไอซ์” อธิชนัน ศรีเสวก นักแสดงสาวสวยที่ใส่ใจในเรื่องสิ่งแวดล้อม กล่าวถึงส่วนร่วมในภาคประชาชน ว่า “การอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมดูเหมือนเป็นเรื่องใหญ่ที่ไกลตัว แต่จริง ๆ เป็นเรื่องใกล้ตัวมาก อย่างน้อยการสนับสนุนผลิตภัณฑ์ที่ใส่ใจเรื่องสิ่งแวดล้อม เราในฐานะลูกค้าก็ได้เป็นส่วนหนึ่งในการรักษ์โลกไปด้วย อย่างผลิตภัณฑ์ดาวิเนสที่ตอบโจทย์การดูแลเส้นผมควบคู่ไปกับการดูแลรักษาสิ่งแวดล้อม ซึ่งเราสามารถใช้ได้ในชีวิตประจำวัน และเป็นเรื่องง่าย ๆ ที่เริ่มได้จากตัวเอง แล้วค่อย ๆ ขยายไปสู่คนรอบตัวของเรา ซึ่งสุดท้ายการเปลี่ยนแปลงของเราเพียงน้อยนิด อาจจะช่วยคงความสวยงามของใบโลกนี้ไว้ให้แก่ลูกหลานของเราได้ในอนาคต”
พร้อมกันนี้ดาวิเนส ได้สร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดเส้นผมและผิวกาย WE STAND/ for regeneration ที่เป็นผลิตภัณฑ์ตัวแรกที่เป็นการร่วมมือกับศูนย์เกษตรอินทรีย์ปฎิรูปสถาบันโรเดล-ดาวิเนสแห่งสหภาพยุโรป ที่ตอบโจทย์ทั้งการดูแลเส้นผมและผิวกาย ควบคู่ไปกับการดูแลรักษาสิ่งแวดล้อม ที่ตอกย้ำภารกิจของดาวิเนส ภายใต้แนวคิดความงามอย่างยั่งยืน และไม่ทำลายสิ่งแวดล้อม โดยได้รับการพัฒนาและวิจัยสูตรพิเศษด้วยส่วนผสมที่สามารถย่อยสลายตามธรรมชาติได้ถึง 94.2% และสารสกัดหลักจากธรรมชาติสูงถึง 81.8%, สามารถย่อยสลายทางชีวภาพได้ถึง 97.4%, บรรจุภัณฑ์สามารถรีไซเคิลได้, ได้รับการรับรองพลาสติกเป็นศูนย์โดย Plastic Bank, บรรจุภัณฑ์ห่อด้วยกระดาษรีไซเคิล ปราศจากพลาสติก 100%, ปราศจากส่วนผสมที่มาจากสัตว์, ปราศจากซิลิโคน ซัลเฟต สารกันเสีย สารฟอกขาว ไม่ทำให้น้ำปนเปื้อนและไม่ทำร้ายสิ่งมีชีวิตใต้ท้องทะเล
ทั้งนี้ แบรนด์ดาวิเนส ได้ร่วมมือกับโครงการ 1 % for the Planet โดยบริจาคเงินจำนวน 50,000 ยูโร เพื่อสนับสนุนกิจกรรมต่าง ๆ ของสถาบันโรเดล เพื่อสนับสนุนการเกษตรอินทรีย์แบบปฏิรูป และมูลนิธิ Slow Food เพื่อสนับสนุนความหลากหลายทางชีวภาพ และในประเทศไทยจะนำรายได้ส่วนหนึ่งจากการจำหน่ายผลิตภัณฑ์ WE STAND/for regeneration และดาวิเนส เอสเซนเชี่ยล แฮร์แคร์ 5% ร่วมสมทบทุนให้กับโครงการพัฒนาและปรับปรุงพื้นที่ดินมูลนิธิชัยพัฒนา จังหวัดนครสวรรค์
ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการส่งมอบการดูแลเส้นผมด้วยความงามที่ยั่งยืน เพื่อให้โลกที่สวยงามยังคงอยู่กับเราตลอดไป รายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.wesustainbeauty.com หรืออัพเดตกิจกรรมและผลิตภัณฑ์ดาวิเนส ได้ทาง www.facebook.com/davinesthailand