“จิมมี่ ชู” (Jimmy Choo) เผยพลังของเสน่ห์ที่น่าดึงดูดแสนเย้ายวนของสาวยุคใหม่ ในคอลเลกชั่นต้อนรับลมหนาวที่กำลังจะมาถึงนี้ ที่เต็มเปี่ยมไปด้วยจิตวิญญาณของแบรนด์ เกิดเป็นความลงตัวระหว่างความประณีตและความอลังการเหนือชั้น เกินขอบเขตของความจริงผ่านซิลลูเอตอันแปลกใหม่และสง่างาม โดยได้ซุเปอร์โมเดล “เคนดัลล์ เจนเนอร์” มาร่วมถ่ายทอดเสน่ห์อันน่าค้นหา ความสง่างาม และความกล้าหาญผ่านแคมเปญประจำซีซั่นนี้ ในคอนเซปต์ภาคต่อของซีรีส์ Time to Dare
“ความมีชีวิตชีวา พลัง และอิสระ คือไอเดียหลักของฤดูใบไม้ร่วง การเสาะหาซิลลูเอตและรูปทรงต่างๆ สัดส่วนและขนาดใหม่ๆ เพื่อนำมาสร้างผลงานที่นำเสนอแก่นแท้ของเรา แต่มีความสดใหม่โดยยังคงรากฐานและดีเอ็นเอของแบรนด์ ซีซั่นนี้สะท้อนผู้หญิงที่มีแอตติจูดแบบจิมมี่ ชู วิวัฒนาการของเหล่าเทพธิดายุคใหม่ผู้มีระดับผสมผสานเข้ากับการหมุนไปอย่างรวดเร็วของโลกในปัจจุบัน ด้วยความลงตัวระหว่างความเย้ายวนสุดขีดและการใช้งานได้จริง ซึ่งได้แสดงถึงวิธีการรังสรรค์และนำเสนอความคิดแห่งจินตนาการให้กลายเป็นความจริง” แซนดร้า ชอย ผู้อำนวยการฝ่ายสร้างสรรค์ ของ จิมมี่ ชู กล่าว
จิมมี่ ชู ให้ความสนใจกับการสร้างซิลลูเอตให้กับเรียวขาและรองเท้าของผู้หญิง ไม่ว่าจะเป็น รองเท้าบูทสูง ที่ทำให้ช่วงตัวแลดูยาวขึ้น ด้วยการสร้างหัวปลายแหลมในรองเท้าส้นสูงและรองเท้าบูท ทำให้ช่วงขาดูเรียวยาวกว่าเดิมด้วยรายละเอียดต่างๆ รูปทรงของรองเท้าที่สื่อถึงจิตวิญญาณและพลังที่มีเสน่ห์น่าดึงดูดออกมา ไม่ว่าจะเป็น พื้นรองเท้ายางแสนนุ่มมีความยืดหยุ่นให้ทุกย่างก้าวสามารถเดินได้อย่างมั่นคง เผยถึงความมั่นใจและความสง่างามของผู้หญิงยุคใหม่แบบฉบับจิมมี่ ชู
ซีซั่นนี้ยังเต็มไปด้วยดีเทลที่สื่อถึงความเฟมินีน ด้วยการประดับ ลูกพู่ พู่แบบเรียงเส้น และคริสตัลที่เพิ่มความโดดเด่นเมื่อกระทบแสง ผิวสัมผัสอันเลอค่าของเนื้อผ้ากำมะหยี่ การวางเม็ดคริสตัลแบบรังผึ้ง เทคนิคการเย็บผ้าควิลต์แบบ Matelassé และหนังที่มีความเงางาม ซึ่งมาในพาเลตโทนสีที่มีความเป็นผู้หญิง อย่าง สีแคนดี้พิงก์ สีชมพูฟิวเซีย ที่ได้กลายเป็นสีเอกลักษณ์ของแบรนด์ รวมถึง สีทอง สีเงิน และสีดำ นำเสนอผ่านรูปทรงของความเฟมินีนที่มีการพัฒนาไปแบบไม่มีสิ้นสุด
Blake รองเท้าบูทยาวถึงเข่า เสริมด้วยส้นที่มีความสูงถึง 110 มิลลิเมตร กับปลายยาวแหลมเฉียบ มาในวัสดุกำมะหยี่แบบลูบเปลี่ยนผิวได้ และหนังลิควิดเมทัลลิก หรือจะประดับคริสตัล พร้อมเฉิดฉายอยู่ในสปอตไลท์ ด้วยความหยืนยุ่นและลื่นไหลของช่วงขา ซึ่งจะมาช่วยเน้นย้ำความเด่นชัดในอารมณ์ และยังได้นำมาใช้กับ Dreece รองเท้าบูทที่ได้แรงบันดาลใจมาจากรองเท้าหัวแหลมอันเป็นเอกลักษณ์ของแบรนด์ จากยุค 2000s มาในหนังนัปปากับสีแคนดี้พิงค์ ประดับด้วยกำไลข้อเท้าหนัง ซึ่งได้หยิบยืมไอเดียนี้มาจากกระเป๋ารุ่น Bon Bon
อีกหนึ่งซิกเนเจอร์ของจิมมี่ ชู คือ การนำรองเท้ารุ่น Biker Boot มาตีความใหม่จนได้มาเป็นรุ่น Biker II OTK Flat ทำให้ความคลาสสิกในช่วงเวลากลางวันกลายเป็นความมั่นใจสำหรับเหล่าเทพธิดายุคใหม่ ด้วยผ้าที่มีความยืนหยุ่นกับความสูงถึงกลางน่อง ประดับด้วยดีเทลหัวเข็มขัดและส้นหนา ในขณะที่ รุ่น Vari กับส้นสูงแบบ Kick-Heel ความยาวถึง 45 มิลลิเมตร เป็นรองเท้าที่เน้นให้ดูขาเรียวยาว
ความประณีตและความอลังการแบบเหนือชั้นนั้นได้นำมาเพิ่มดีกรีในผลงาน Mionne และ Socorie รองเท้าส้นตึก หรือที่เรียกกันว่าส้นแพลตฟอร์ม ซึ่งยังคงนำแก่นแท้ของแบรนด์กลับมา ด้วยไข่มุกอันเป็นเอกลักษณ์ของจิมมี่ ชู ที่ได้นำมาสร้างสรรค์ในขนาดโอเวอร์ไซส์ และการนำคริสตัลมาประดับโลโก้รูปตัวซี สามารถนำมาแต่งเป็นลุคสำหรับงานทางการหรือในวันสบายๆ ก็ได้
เน้นย้ำความสำคัญของงานดีเทลที่เคลื่อนไหวได้อย่างความมีระดับ ด้วยพู่เมทัลลิกที่ประดับตรงขอบรองเท้าและกระเป๋าที่แกว่งไปมาอย่างมีชีวิตชีวา ปรากฏในรองเท้ารุ่น Eris ในหนังนัปปาตกแต่งด้วยพู่เส้นโลหะ และกระเป๋ารุ่น Bon Bon กับการนำพู่โลหะมาประดับเพื่อทำให้ซิลลูเอตดูมีความเพรียวยาวมากขึ้น เพื่อเป็นการสะท้อนลักษณะเด่นและตัวตนของคอลเลกชั่นนี้
Varenne Quad กระเป๋ากล่องสี่เหลี่ยม ประดับด้วยสายโซ่เพื่อความคล่องแคล่ว ซึ่งยกชูให้ความเรียบง่ายมาเป็นลักษณะเด่นชัด สำหรับฤดูใบไม้ร่วงประจำปี 2022 Varenne Quad ได้ถูกนำเสนอในรูปแบบใหม่กับความเฉพาะของจิมมี่ ชู ด้วยรูปทรงเลขาคณิตที่มีความซับซ้อนในลายผ้า (Matelessé) ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจมาจากเหลี่ยมของเหล่าอัญมณี กับความหรูหราสุดโมเดิร์นของรูปทรง ผสานกับงานฝีมืออันประณีต กระเป๋าหนังนัปปาและหนังลิควิดเมทัลลิกมาในสีประจำซีซั่นนี้ อย่าง สีแคนดี้พิงค์ สีทองอร่าม และสีดำสุดคลาสสิก รวมถึงกระเป๋าหนังกลับประดับคริสตัลสีเงิน คู่กับรุ่น Bonny ในตะข่ายคริสตัลประกายแสงที่มีความน่าดึงดูด