ข้อได้เปรียบของบรรดาลูกมหาเศรษฐีคือ มีโอกาสได้ทำในสิ่งที่เด็กคนอื่นๆ อาจทำได้แค่ฝัน หรือเด็กบางคนที่ร่ำรวยขึ้นมาด้วยลำแข้งของตนเอง อาจไม่ได้ใช้ความมั่งคั่งกับทุกสิ่ง เพื่อไล่ตามความปรารถนาของตนเอง และนี่เป็นตัวอย่างของเด็กรุ่นใหม่ ซึ่งมีทุกสิ่งอย่างพรั่งพร้อม แต่ก็มีสติพอที่จะรู้วิธีการใช้ชีวิตและเงินที่มี
:: เจนนิเฟอร์ เกตส์
ลูกสาวคนโตในจำนวนพี่น้องสามคนของ “บิลและเมลินดา เกตส์” จบการศึกษาด้านชีววิทยาจากมหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ด “เจนนิเฟอร์ เกตส์” ได้รับการเลี้ยงดูอย่างดีและอยู่ห่างจากสื่อ กระทั่ง ในฤดูร้อนปี 2016 เธอไปท่องเที่ยวออสเตรเลียนานสามเดือน ครั้งนั้นนำมาซึ่งความเปลี่ยนแปลง เธอเริ่มสนใจสื่อโซเชียลและใช้ประโยชน์จากมัน เพื่อกิจกรรมการกุศลเหมือนพ่อกับแม่ ปัจจุบันทายาทมหาเศรษฐีวัย 26 ปี มียอดฟอลฯ ทางอินสตาแกรมที่ 520K เธอชอบขี่ม้าและทำได้ดีด้วย เรื่องความฟุ่มเฟือยที่สุดเท่าที่เคยปรากฏเป็นข่าวคือ พิธีแต่งงานเมื่อเดือนตุลาคมปีที่แล้ว กับ “นาเยล นัสซาร์” หนุ่มเชื้อสายอียิปต์จากตระกูลมั่งคั่ง นิตยสาร Forbes รายงานว่า มรดกน้อยนิดที่เจนนิเฟอร์ได้รับการปันส่วนจากพ่อเป็นมูลค่า 1.08 หมื่นล้านดอลลาร์
:: เฟรเดอริก อาร์โนลต์
ลูกคนที่สี่วัย 27 ปีของ “แบร์นารฺด์ อาร์โนลต์” หุ้นส่วนใหญ่ของอาณาจักร LVMH ที่ล่าสุดติดอันดับ 4 ในลิสต์คนรวยที่สุดในโลก ด้วยทรัพย์สินมูลค่า 1.36 แสนล้านดอลลาร์ “เฟรเดอริก อาร์โนลต์ จบการศึกษาด้านคณิตศาสตร์และสารสนเทศจากมหาวิทยาลัยโพลีเทคนิคในปารีส เคยทำงานกับ Facebook และ McKinsey&Company พูดได้ถึง 4 ภาษา LVMH เป็นเสมือนธุรกิจครอบครัวที่เขาคุ้นเคยมาตั้งแต่วัยเด็ก จนกระทั่ง วันหนึ่งเขามีโอกาสได้เข้าทำงาน และไม่นานเขาก็ได้เป็นผู้บริหารของแบรนด์ TAG Heuer เมื่อกลางปี 2020 เขาเป็นคนพูดน้อยแต่ทำงานดีจนเป็นที่ไว้วางใจของพ่อ โปรดปรานชุดสูทสีดำทึมของ Dior แต่ก็ชอบสวมเสื้อสเวตเตอร์คอเต่า หรือเสื้อเชิ้ตลำลองกับรองเท้ากีฬา และนาฬิกา TAG Heuer ก็เพราะเขาเติบโตมากับสินค้าแบรนด์หรู แต่ไม่เคยออกนอกลู่นอกทาง
:: อีฟ จอบส์
ลูกสาวคนสุดท้องของ “อีฟ จอบส์” มีบางอย่างคล้ายกับ “เจนนิเฟอร์ เกตส์” ตรงที่ชอบกีฬาขี่ม้าและเรียนจบจากมหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ด แต่สาขาที่เธอเลือกเป็นวิทยาศาสตร์เทคโนโลยีและสังคม เธอลืมตาดูโลกในปี 1998 พร้อมๆ กับ iMac ของพ่อ ใช้ชีวิตวัยเด็กตามคำสอนของพ่อที่ว่า ‘Stay hungry, stay foolish’ นั่นคือพยายามทำตัวให้หิวและโง่ตลอดเวลา (สำหรับความรู้) ปลายปี 2020 เธอได้ถ่ายโฆษณาผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางให้กับ Glossier อีกทั้งยังได้เดินแบบครั้งแรกที่งานสัปดาห์แฟชั่นในปารีส เมื่อปีที่แล้ว และปีนี้ที่งานแฟชั่นโชว์ของ Coperni จนสื่อตั้งข้อสงสัยว่า เธอจะเข้าสู่เส้นทางอาชีพนางแบบหรือไม่ เมื่อเธอเซ็นสัญญากับค่ายโมเดลลิง DNA เธอเองยังไม่แน่ใจเรื่องนั้น แต่เธอก็ยังรักการขี่ม้า “ฉันเคยขึ้นหลังม้าครั้งแรกตอนอายุสองขวบ และเริ่มขี่อย่างจริงจังตอนอายุหกขวบ ฉันคิดว่าฉันรักและหลงใหลสัตว์มาตั้งแต่นั้น”
:: จอห์น คอลลิสัน
เด็กหนุ่มพันล้านจากครอบครัวชาวไอริช ผู้สร้างฐานะด้วยลำแข้งตนเองจนติดอันดับมหาเศรษฐีวัยเยาว์ของนิตยสาร Forbes เมื่ออายุ 26 ปี เขาเริ่มก่อตั้งธุรกิจสตาร์ทอัพกับ แพทริก-พี่ชาย พัฒนาโปรแกรมคอมพิวเตอร์ auctomatic.com เพื่อการประมูลทางอินเทอร์เน็ตตั้งแต่อายุ 16 ก่อนเข้าเรียนที่มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด แต่ก็ทิ้งการเรียนไว้กลางคัน เพราะ Stripe บริษัทผู้ให้บริการชำระเงินออนไลน์ที่เขาทำกับพี่ชาย เริ่มกลายเป็นคู่แข่งสำคัญของ PayPal พี่ชายของเขาดูแลงานด้านวิศวกรรม ส่วนเขารับหน้าที่ดูแลลูกค้า แต่ทั้งสองชอบซุ่มยืนอยู่เบื้องหลังความสำเร็จมากกว่า เมื่อปีที่แล้วพวกเขาเริ่มพัฒนา FinTech ต่อยอดเทคโนโลยีทางด้านการเงิน ที่มีบทบาทสำคัญในโลกธุรกิจสมัยใหม่ จอห์น-ปัจจุบันอายุ 32 ปี มีทักษะเพิ่มเติมในสายงานการบิน การเล่นเปียโน และตามดัชนีเศรษฐีพันล้านของ Bloomberg ปี 2022 เขายังมีทรัพย์สินอยู่ราว 1.14 หมื่นล้านดอลลาร์ ครองอันดับที่ 187 ของโลก และเป็นประชากรคนหนึ่งที่ร่ำรวยที่สุดจากไอร์แลนด์
:: ฮอลลี แบรนสัน
แม้จะเป็นลูกสาวคนโตของ “ริชาร์ด แบรนสัน” เจ้าของธุรกิจสายการบิน Virgin ผู้โด่งดังและร่ำรวยติดอันดับโลก แต่ลูกสาววัย 40 กลับใช้ชีวิตแบบโลว์โปรไฟล์ เธอเรียนจบด้านแพทย์ศาสตร์ที่ University College London วนเวียนอยู่กับงานอาชีพนักเขียน แม่ลูกสาม และนักบริหารที่ Virgin Group และ Virgin Unite สองจากกว่า 400 บริษัทในไลน์ต่างๆ ของผู้เป็นพ่อ ฮอลลีเติบโตมาแบบเด็กชาย พ่อสอนให้รู้จักพึ่งพาตนเอง และตัดสินใจด้วยตนเอง สุดท้ายก็เดินตามรอยพ่อที่ชอบใช้เงินซื้อประสบการณ์ และการผจญภัยให้ชีวิตมากกว่าสิ่งของที่เป็นวัตถุ เธอปีนเขา วิ่งมาราธอน เล่นไคท์เซิร์ฟ และการผจญภัยครั้งใหญ่สุดของครอบครัวแบรนสันคือ การได้เห็นพ่อริชาร์ดเดินทางไปท่องอวกาศ ทุกวันนี้ฮอลลีใช้ชีวิตอยู่กับครอบครัวของเธอในลอนดอน ในบ้านที่ไม่สะท้อนถึงทรัพย์สินมูลค่า 5 พันล้านดอลลาร์ของพ่อแม้สักนิด