xs
xsm
sm
md
lg

วอทช์เลิฟเวอร์ต้องไม่พลาด! มหกรรมงานแสดงนาฬิกาและเครื่องประดับที่สุดแห่งปีที่พารากอน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ศูนย์การค้าสยามพารากอน ร่วมกับ วอทช์ แกลเลอเรีย พารากอน ดีพาร์ทเม้นท์สโตร์ ตอกย้ำความเป็น WORLD CLASS SHOPPING DESTINATION จัดงาน “SIAM PARAGON WATCH & JEWELRY EXPO 2022” (สยามพารากอน วอทช์ แอนด์ จิวเวลรี่ เอ็กซ์โป 2022) มหกรรมงานแสดงนาฬิกาและเครื่องประดับครั้งยิ่งใหญ่ที่สุดแห่งปี ภายใต้คอนเซ็ปต์ "THE TIMELESS ELEGANCE" ชวนสัมผัสช่วงเวลาแห่งความสง่างามผ่านเรือนเวลา จากหลากหลายแบรนด์ชั้นนำระดับเวิลด์คลาสกว่า 180 แบรนด์ และเครื่องประดับอันล้ำค่าจากแบรนด์ดัง พร้อมมอบข้อเสนอสุดพิเศษในรอบปี ระหว่างวันที่ 1 ก.ค. 65 - 24 ก.ค. 65 ณ ฮอลล์ ออฟ เฟม, เมนฮอลล์, แผนกนาฬิกา ชั้น M, แฟชั่น ฮอลล์ และแฟชั่น แกลเลอรี ชั้น 1 ศูนย์การค้าสยามพารากอน


ในฐานะที่ วอทช์ แกลเลอเรีย (WATCH GALLERIA) เดอะมอลล์ กรุ๊ป เป็น NO.1 OF WATCH DESTINATION เดสติเนชั่นของคนรักนาฬิกา จึงได้ร่วมกับสยามพารากอน จัดมหกรรมงานแสดงนาฬิกาและเครื่องประดับอัญมณีครั้งยิ่งใหญ่ “SIAM PARAGON WATCH & JEWELRY EXPO 2022” โดยได้รวบรวมนาฬิกาหรูจากทั่วทุกมุมโลก ส่งตรงจากประเทศสวิตเซอร์แลนด์ เปิดตัวครั้งแรกในประเทศไทย ทั้งรุ่นลิมิเต็ดเอดิชั่นหายากที่มาจำหน่ายเฉพาะในงานนี้ รวมถึงนาฬิกาคอลเลคชั่นใหม่ล่าสุดปี 2022 รวมกว่า 10,000 เรือน มาเผยโฉมให้นักสะสม และคนที่ชื่นชอบนาฬิกาได้เลือกสรรและสัมผัสความพิเศษ ไม่ว่าจะเป็นนาฬิกากลุ่ม LUXURY, นาฬิกากลุ่ม TREND ที่รวบรวมไว้ภายในงานแบบครบครันที่สุด พร้อมด้วยข้อเสนอสุดพิเศษในรอบปี ที่คนรักนาฬิกาต้องห้ามพลาด


ทั้งนี้ภายในงานได้คัดสรรที่สุดของนาฬิกา ที่มาพร้อมนวัตกรรมสุดสร้างสรรค์ และความพิเศษแบบเอ็กซ์คลูซีฟ ได้แก่ กลุ่ม Luxury อาทิ BOVET รุ่น The Virtuoso VIII Chapter Two จากคอลเลคชั่นVirtuoso VIII ที่ล้ำเลิศด้วยการทำงานของกลไกไขลานพร้อมจักรกล “Flying Tourbillon” ที่อวดให้เห็นและการตกแต่งอย่างชัดเจนทั้ง 2 ฝั่งกลไก ที่เรียกว่า “Double-face” อันเป็นลิขสิทธิ์ของ Bovet ผลิตจำนวนจำกัดเพียง 8 เรือนเท่านั้นทั่วโลก และ มีเพียง 1 เรือนในประเทศไทย เช่นเดียวกับ BOVET รุ่น 19Thirty Fleurier ที่มีเรือนเดียวในไทย ตัวเรือนสแตนเลสสตีล ขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 42 มม. หน้าปัด Guilloché สีเทอร์คอยซ์ กลไกไขลาน Breitling เฉลิมฉลองครบรอบ 70 ปีของ Navitimer นาฬิกานักบินในตำนานของ Breitling ที่มาพร้อมกับ Slide Rule แบบวงกลม, หลักชั่วโมงแบบแท่ง, หน้าปัดย่อยสำหรับบันทึกเวลาแบบ 3 วง และขอบหน้าปัดแบบหยักเพื่อการหมุนได้อย่างถนัดมือ ส่วน Carl F.Bucherer รุ่น Manero Flyback Signature มาในรูปลักษณ์นาฬิกาแบบสปอร์ตที่ผสมกับความซับซ้อนทางเทคนิคได้อย่างลงตัว ด้วยเครื่องกลไกแบบออโตมาติกที่พร้อมกับระบบ ‘Flyback’ ที่เป็นส่วนประกอบสำคัญในฟังก์ชั่นโครโนกราฟ ผลิตด้วยจำนวนจำกัดเพียง 188 เรือนทั่วโลกและ 5 เรือนในไทย


TAG Heuer รุ่น Formula 1 X Red Bull Racing ดีไซน์ของเรือนเวลาถูกพัฒนาและสร้างสรรค์ด้วยโทนสีที่สอดคล้องกับสีประจำของทีมแข่ง Red Bull Racing โดยมีการใช้พื้นฐานของนาฬิกาจับเวลารุ่นดังอย่าง F1 Chronograph, นาฬิกา Longines รุ่น Ultra-Chron Diver ได้รับแรงบันดาลใจจากนาฬิกาที่มีกลไกระดับอัลตรา-โครโนมิเตอร์เรือนแรกของโลกซึ่งเปิดตัวในปี ค.ศ.1963 โดยคาลิเบอร์ที่มีความแม่นยำระดับสูงของนาฬิการุ่นใหม่นี้นับเป็นตัวแทนของการตีความใหม่ครั้งแรกที่ทำให้ Longines โดดเด่นและแตกต่างในฐานะผู้บุกเบิกด้านการจับเวลาในการแข่งขันกีฬา จึงนับว่านาฬิกา Longines Ultra-Chron 2022 คือการสดุดีแด่นาฬิกาดำน้ำจากช่วงปี 1960s


ORIS รุ่น New York Harbor Limited Edition ลิมิเต็ด เอดิชั่น 2,000 เรือนทั่วโลก (50 เรือนในไทย) พร้อมหมายเลขประจำตัวเรือน บรรจุในกล่องแบบพิเศษ, นาฬิกา Maurice Lacroix รุ่น Aikon Skeleton 39mm คือการผสมผสานคอนเซ็ปต์ของตัวนาฬิกาที่ถูกสร้างสรรค์เพื่อคนรุ่นใหม่ด้วยการนำความงดงามในเชิงสถาปัตยกรรมของตึกรามบ้านช่องในแบบ Urban Architecture ส่วน RADO เปิดตัวนาฬิการุ่น Captain Cook High-Tech Ceramic Diver ครั้งแรกในไทย กันน้ำได้ลึก 300 เมตร เข็มนาฬิกาและดัชนีของนาฬิกาสำหรับนักดำน้ำได้รับการเคลือบด้วย Super Luminova® ที่ผ่านการรับรอง ISO 6425 เพื่อให้มองเห็นได้อย่างชัดเจนบนหน้าปัดสีฟ้าซันเรย์แบบเคลือบเงาด้วยแลกเกอร์ เช่นเดียวกับ MIDO รุ่น The Ocean Star 600 Chronometer Special Edition นาฬิกาดำน้ำแบบมืออาชีพจากเทคโนโลยีสูงสุดของ MIDO ตัวเรือนเป็นสแตนเลสสตีลรมดำแบบดีแอลซี ทนทานต่อกาลเวลามาพร้อมสายสแตนเลสและสายสำรองเป็นยางสังเคราะห์ ให้คุณเปลี่ยนสายลุยไปได้ทุกที่


สำหรับ TISSOT ส่งนาฬิกาคอลเลคชั่นใหม่ของ PRX ห้ารุ่นที่มีตัวเรือนเหล็กเคลือบซาตินขนาด 35 มม. ซึ่งขับเคลื่อนด้วยกลไกระบบควอตซ์ ตัวเรือนและสายเคลือบสีเหลืองทอง PVD และหน้าปัดสีเหลืองทอง คอลเลคชั่นนี้รวบรวมสาระสำคัญและขนาดที่แน่นอนของรุ่นออริจินัลปี 1978 ที่มีการออกแบบย้อนยุคของ PRX ได้อย่างลงตัว สำหรับ FREDERIQUE CONSTANT รุ่น FC-775 Highlife Perpetual Calendar Manufacture เอ็กซ์คลูซีฟเพียง 20 เรือนเท่านั้นในไทย ตัวเรือนสแตนเลสสตีล สีเงิน ขนาดหน้าปัด 41 มม. หน้าปัดสีน้ำเงินเทา กระจก sapphire crystal กันน้ำ 50 เมตร สำรองพลังงาน 38 ชั่วโมง สายสแตนเลสสตีลสีเงิน ลิมิเต็ดเพียง 1 เรือนเท่านั้น และ Grand Seiko รุ่น SLGA 015 (Evolution 9 collection) เปิดตัวอย่างเป็นทางการที่นี่ที่แรก


นอกจากนี้ยังมีนาฬิกากลุ่ม TREND อาทิ CASIO รุ่น G-SHOCK VIRTUAL ARMOR II GMW-B5000TVB-1DR LIMITED MODEL (เพียง 50 เรือน) และรุ่น G-SHOCK MR-G AO-ZUMI MRG-B5000BA-1DR EXCLUSIVE MODEL (เพียง 10 เรือน) และเปิดตัวครั้งแรกกับรุ่น G-SHOCK DW-5600NN-1DR สำหรับ SEKIO เปิดตัวรุ่น King Seiko SJE087J โดยนำนาฬิกาที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากปี 1965 กลับมา Re-edition ใหม่ มีจำนวนจำกัด 1,700 เรือน ทั่วโลก และ 30 เรือน ในไทย และ CITIZEN นาฬิกา Eco-Drive รุ่น Citizen Tanabata (ซิติเซน ทานาบาตะ) Asia Limited Edition มีหน้าปัดที่มีเฉดสีฟ้าเพื่อแสดงความลึกและความกว้างใหญ่ของกาแลคซี่ โดดเด่นด้วยนาฬิกาสามเข็มพร้อมวันที่ กระจกแซฟไฟร์ สร้อยข้อมือสแตนเลสสีดำ และยังมีนาฬิกาไฮไลท์อื่นๆ อีกมากมายในงาน






กำลังโหลดความคิดเห็น