หลังจากการเลือกตั้งประธานาธิบดีฝรั่งเศส เมื่อวันที่ 24 เม.ย. 65 ปรากฏว่า “เอ็มมานูเอล มาครง” ในวัย 44 ปี จากพรรค ‘En Marche!’ ซึ่งมีเสียงข้างน้อยในสภา ได้รับการเลือกกลับเข้าไปนั่งตำแหน่งประธานาธิบดีของฝรั่งเศสเป็นวาระที่สอง
นับเป็นข่าวดีที่เขาและบริจิตต์ มาครง ภริยาวัย 69 ปี ไม่ต้องย้ายออกจากพระราชวังเอลิเซ ซึ่งเป็นอาคารโบราณสไตล์บาโรกที่ใช้เวลาในการก่อสร้างถึงสี่ปี ระหว่างปี 1718-1722 เคยเป็นที่ประทับของมาดาม เดอ ปอมปาดูร์ พระสนมของกษัตริย์หลุยส์ที่ 15 รวมทั้งจักรพรรดินโปเลียนที่ 1 และราว 150 ปีหลังจากนั้น ถูกดัดแปลงมาเป็นทำเนียบประธานาธิบดีของฝรั่งเศส
พระราชวังเอลิเซ มีทำเลที่ตั้งห่างจากถนนชองป์-เซลิเซเพียงไม่กี่ก้าว และมีพื้นที่ทั้งหมด 11,000 ตร.ม. โอบล้อมด้วยสวนขนาดใหญ่เท่าสนามฟุตบอล 4 สนาม และมีห้องลับใต้ดิน ที่เล่ากันว่ามีห้องลับอยู่ 12 ห้องที่ประธานาธิบดีสามารถใช้เป็นสถานที่หลบภัย และห้องเหล่านั้นเขาสามารถกดปุ่มขีปนาวุธนิวเคลียร์ของฝรั่งเศสได้ด้วย ส่วนห้องข้างๆ ที่หลบภัยนั้นมีโถงเก็บไวน์ แน่นอนว่าเป็นไวน์ชั้นดีเพราะนั่นคือฝรั่งเศส
การพำนักอยู่ต่อที่ทำเนียบประธานาธิบดีของมาครงและภริยา อาจช่วยชาติฝรั่งเศสประหยัดงบค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับการตกแต่ง หรือปรับเปลี่ยนอะไรใหม่ เพราะเมื่อตอนที่เขาเข้ารับตำแหน่งในวาระแรกนั้น มีข่าวลือว่า บริจิตต์ มาครง-สตรีหมายเลขหนึ่ง ได้สั่งเปลี่ยนเครื่องจานชามกว่า 1,200 ชิ้นในพระราชวังเอลิเซใหม่ทั้งหมด ใช้งบซึ่งเป็นภาษีประชาชนชาวฝรั่งเศสร่วม 500,000 ยูโร หรือประมาณ 18 ล้านบาท
นอกจากนั้น ประธานาธิบดีมาครงยังดำริให้สร้างสระว่ายน้ำที่ ฟอร์ต เดอ เบรกอนซง บ้านพักฤดูร้อนของประธานาธิบดีทางฟากตะวันตกของแซงต์-โตรเปซ์ ใช้งบอีกล้านกว่าบาท แต่ทั้งหมดนั้นน่าจะอยู่ในงบประจำปีจำนวนหลักล้านยูโรที่จัดสรรให้มาพร้อมตำแหน่ง เช่นเดียวกับเครื่องบินเจ็ตประจำตำแหน่ง ปัจจุบันเป็นเครื่อง Air Bus A330-200 ซึ่งเคยเปลี่ยนในยุครัฐบาลของ นิโคลาส์ ซาร์โคซี เมื่อปี 2010/2011 ด้วยเหตุจำเป็น เพราะก่อนหน้านั้นเครื่องบินที่ใช้อยู่ไม่สามารถบินแบบ non-stop จากปารีสไปโตเกียวได้ และการเปลี่ยนเครื่องบินลำใหม่ครั้งนั้นต้องใช้งบ 176 ล้านยูโร หรือราว 6.3 พันล้านบาท
ส่วนรถยนต์ประจำตำแหน่งที่ เอ็มมานูเอล มาครง ใช้อยู่ปัจจุบันมีด้วยกัน 3 คันคือ Renault Espace, DS 7 Crossback Présidentielle และ Peugeot 5008 ในอนาคตอันใกล้อาจจะมี DS 9 เพิ่มอีกคัน
เงินเดือนประจำตำแหน่งประธานาธิบดีฝรั่งเศสอยู่ที่ 20,000 ยูโร หรือราว 720,000 บาท (ยังไม่หักภาษี และเป็นอัตราค่าจ้างที่น้อยกว่าตำแหน่งนายกรัฐมนตรีของเยอรมนีอยู่ราว 1 แสนบาท) เป็นอัตราที่เพิ่มขึ้นประมาณ 170 เปอร์เซ็นต์ตั้งแต่ปี 2007 เป็นต้นมา
และอีกห้าปีข้างหน้า เมื่อมาครงพ้นจากตำแหน่งแล้ว เขาและภริยาจะมีสิทธิ์ได้รับเงินบำนาญสูงสุด 700,000 บาทต่อเดือน นอกจากนั้น ยังมีที่พักหรือสำนักงาน รถลีมูซีนพร้อมคนขับสองคน เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย ตั๋วโดยสารชั้นหนึ่งสำหรับสายการบิน Air France และรถไฟของรัฐ SNCF
ในบรรดาประธานาธิบดีฝรั่งเศสที่หมดวาระนั้น วาเลรี ฌิสการ์ แด็สแต็ง (ดำรงตำแหน่งระหว่าง 27 พฤษภาคม 1974-21 พฤษภาคม 1981) ได้ชื่อว่าเป็นอดีตประธานาธิบดีที่ใช้เงินคลังของรัฐมากที่สุดถึง 3.9 ล้านยูโรต่อปี แซงหน้า นิโคลาส์ ซาร์โคซี ที่ใช้เงิน 3.3 ล้านยูโรต่อปี ส่วนอดีตประธานาธิบดีที่ประหยัดงบมากที่สุดแค่ 2.4 ล้านยูโรต่อปี คือ ฌากส์ ชีรัค
ที่น่าเจ็บปวดสำหรับชาวฝรั่งเศสที่สุด เมื่อได้รู้ว่า ฌิสการ์ ใช้เงินถึง 1.3 ล้านยูโร ไปกับระบบรักษาความปลอดภัยรอบบ้านพักของเขาที่ โอต็อง ส่วนซาร์โคซีนั้นเข้าขั้นแสบกว่า เพราะเขาใช้เงินของรัฐหมดไปกับสำนักงานและการว่าจ้างทีมงาน เพื่อเตรียมตัวกลับเข้าสู่เส้นทางการเมืองอีกครั้ง
ฟรองซัวส์ โอลองด์ อดีตประธานาธิบดีที่ได้ชื่อว่าเจียมตัวและสมถะที่สุด เคยร้องขอให้ทางสำนักตรวจสอบสูงสุด จัดทำข้อเสนอเพื่อลดค่าใช้จ่ายของงบประมาณในส่วนนี้ ตัวเขาเองเมื่อพ้นจากตำแหน่งแล้วสามารถปฏิบัติตัวเป็นแบบอย่าง รวมทั้งลดละความฟุ่มเฟือยบางส่วนได้
แต่กับอดีตประธานาธิบดีคนอื่นๆ นั้น ดูเหมือนจะเป็นเรื่องปฏิบัติยาก เพราะเมื่อเป็นศักดินาแล้ว อย่างไรก็ศักดินา
สำหรับภารกิจอันดับแรกของ “เอ็มมานูเอล และบริจิตต์ มาครง ก็คือการรับใช้ชาติให้ดีที่สุด แล้วถ้าเป็นวันที่ไม่ต้องทำงานล่ะ พวกเขาทำอะไรกัน และแต่งเนื้อแต่งตัวกันอย่างไร?
จะด้วยความที่พวกเขาเป็นคนฝรั่งเศสหรือเปล่า ที่ทำให้แม้วันว่างๆ ทั้งคู่ก็ยังจัดเต็มการแต่งกายให้ดูดีเสมอ ขนาดไปเดินอยู่ที่ชายหาดโดวิลล์ ท่านประธานาธิบดีและสตรีหมายเลขหนึ่งฝรั่งเศส ก็ยังอยู่ในชุดร่วมสมัย เก๋ เท่ ไม่หลุดลุค
บริจิตต์เลือกท็อปโค้ตโทนสีชมพูสดใส ทับสเวตเตอร์และยีนส์สีดำทั้งชุด เสริมสไตล์สุดเก๋ด้วยผ้าพันคอหลุยส์ วิตตองลายโมโนแกรม ปิดท้ายลุคด้วยรองเท้าบู๊ตสูงถึงข้อเท้าสีดำ
ขณะที่ เอ็มมานูเอลสวมแจ๊กเกตหนังสีดำ เข้ากับกางเกงยีนส์สีเข้มและรองเท้าผ้าใบสีน้ำเงิน
ตามปกติเรามักจะเห็น เอ็มมานูเอล มาครง ในลุคใส่สูท ผูกไท แต่เมื่อเร็วๆ นี้ เขาได้โหลดภาพลงโซเชียลมีเดียของตัวเอง อยู่ในที่ทำการประธานาธิบดี ในชุดเสื้อฮู้ดที่มีโลโก้ “ซีพีเอ10” อันเป็นชื่อหน่วยพิเศษของกองทัพอากาศฝรั่งเศส เข้ากับกางเกงยีนส์
แม้จะเป็นวันอาทิตย์ แต่คนก็วิพากษ์วิจารณ์ว่า จะแต่งตัวเรียบง่ายไปหน่อยหรือเปล่า และในโซเชียลมีเดียต่างก็วิจารณ์กันว่า เอ็มมานูเอล มาครง พยายามจะก๊อปปี้ลุคของ โวโลดิเมียร์ เซเลนสกี ประธานาธิบดีของยูเครน ที่อยู่ในลุคนี้ระหว่างที่ถูกรัสเซียบุกเข้ามาในประเทศ
โฆษกของประธานาธิบดีฝรั่งเศส ปฏิเสธที่จะแสดงความคิดเห็นใดๆ ในเรื่องนี้ แต่ก็บอกว่า “นี่ไม่ใช่เรื่องใหม่ ท่านประธานาธิบดีก็แต่งตัวง่ายๆ อยู่เป็นปกติแล้วในวันสุดสัปดาห์ ทีมงานทั้งทีมก็เช่นกัน”