xs
xsm
sm
md
lg

ในวันที่เพชรเม็ดงามแห่งดินแดนล้านนาอย่าง “อนันตรา เชียงใหม่ รีสอร์ต” เปลี่ยนมือสู่เจ้าของใหม่

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



เรียกว่าเป็นเพชรเม็ดงามแห่งดินแดนล้านนาที่ถูกซ่อนอยู่ในกลางเมืองเชียงใหม่ แม้ว่ากาลเวลาจะถูกทำให้พร็อพเพอร์ตี้แห่งนี้ถูกเปลี่ยนมือมาหลายเจ้าของและหลายผู้บริหารจัดการโรงแรม แต่ความสวยงามคลาสสิคอันไร้กาลเวลาก็ยังคงอยู่เสมอแม้จะผ่านมาแล้ว 18 ปีก็ตาม...โรงแรมที่เรากำลังพูดถึงอยู่นี้คือ “อนันตรา เชียงใหม่ รีสอร์ต” หรือที่หลายคนอาจจะคุ้นในชื่อเก่า “เดอะเจดีย์ เชียงใหม่”




สำหรับ “อนันตรา เชียงใหม่ รีสอร์ท” แต่เดิมเคยเป็นที่ตั้งของสถานกงสุลอังกฤษประจำจังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งเปิดใช้อย่างเป็นทางการในปี พ.ศ. 2464 และเมื่อถูกเปลี่ยนมาเป็นโรงแรมก็ยังคงอนุรักษ์ตัวอาคารกงสุลสไตล์โคโลเนียลเดิมไว้ โดยสถาปนิกชาวสิงคโปร์ได้ออกแบบอาคารห้องพักในรูปแบบร่วมสมัยโดยใช้ไม้สักเป็นหลัก ให้รับกับตัวอาคารกงสุลเดิมเพื่อคงเสน่ห์อันโดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ให้กับสถานที่

อาคารห้องพักของรีสอร์ทเป็นอาคาร 4 ชั้น รูปตัวแอล หันหน้าเข้าสู่แม่น้ำปิง โอบล้อมสนามหญ้าเขียวขจีและต้นพยอมอายุกว่า 200 ปี ห้องพักทุกห้องถูกออกแบบให้มีพื้นที่หน้าห้องพัก พร้อมแนวระแนงไม้ที่กรองแสงก่อนเข้าสู่ห้องพัก ทอดยาวไปตามรูปแบบของอาคารขนานกับผนังไม้ระแนงที่เป็นฉากกั้นเสียงจากภายนอก ซึ่งแต่ละห้องเน้นความเรียบหรู สวยงาม และกว้างขวาง ให้ความรู้สึกโปร่งสบาย แฝงด้วยความอบอุ่นจากพื้นไม้ เฟอร์นิเจอร์ไม้ ตลอดจนสีและของตกแต่งในโทนสีธรรมชาติ ระเบียงกว้างที่สามารถมองเห็นพื้นที่เขียวขจีด้านนอก และวิวแม่น้ำปิงที่ไหลผ่านตัวรีสอร์ทอย่างสงบ จัดว่าเป็นบรรยากาศแสนงามที่หาได้ยากของเมืองเชียงใหม่เลยทีเดียว




อย่างที่บอกไปแล้วว่า “อนันตรา เชียงใหม่ รีสอร์ท” เดิมเคยเป็นที่ตั้งของสถานกงสุลอังกฤษประจำจังหวัดเชียงใหม่ จึงมีตึกเก่าสไตล์โคโลเนียล ที่ถูกปรับปรุงมาเป็น เดอะ เซอร์วิส 1921 เรสเตอรองต์ แอนด์ บาร์ (The Service 1921 Restaurant & Bar) ห้องอาหารและบาร์ที่เหมาะกับเป็นสถานที่พบปะสังสรรค์และงานสังคม ให้บริการเครื่องดื่มนานาชนิด ทั้งค็อกเทลสูตรพิเศษในสไตล์เอเชีย ไวน์ และแชมเปญชั้นดี มีเมนูจานอร่อยทั้งอาหารไทย จีน ตกแต่งด้วยบรรยากาศที่เปี่ยมไปด้วยเสน่ห์ของสถาปัตยกรรมในแบบโคโลเนียล

ที่ดูจะเพิ่มความตื่นตาตื่นใจหน่อยก็คือการแปลงโฉมห้องอาหารและบาร์แห่งนี้ให้กลายเป็นสำนักงานของสายลับอังกฤษในยุคอดีต โดยผู้ออกแบบได้สร้างจินตนาการและตกแต่งให้แต่ละห้องเป็นเสมือนพื้นที่กิจกรรมต่างๆ สำหรับสายลับ ประกอบด้วยห้องสายลับ (Secret Agent Room) ห้องสมุด (Library Room) และห้องลับ (Secret Room) นอกจากนี้ยังมีห้องสำหรับชิมวิสกี้ รวมถึงซิการ์คิวบาที่จัดเก็บไว้ในกล่อง humidor สำหรับเก็บซิการ์เป็นอย่างดีเพื่อรักษารสชาติที่ดีที่สุด ที่สำคัญอาคารหลังนี้ยังได้รับรางวัลอนุรักษ์ศิลปสถาปัตยกรรมดีเด่น ประเภทอาคารจากสมเด็จพระเทพฯ ตั้งแต่ปี พ.ศ 2532


และด้วยความสวยงามของโรงแรมที่แสนรื่นรมย์แห่งนี้นั่นเอง ที่โดนใจกับเจ้าของคนใหม่อย่างจัง จากที่ไม่เคยคิดว่าวันหนึ่งจะได้ครอบครองเพชรเม็ดงามแห่งล้านนานี้ แต่เมื่อพรหมลิขิตทำงาน เขาก็รู้สึกดีใจอย่างยิ่งที่ได้ครอบครองพร็อพเพอร์ตี้ชิ้นงามนี้

“ก่อนอื่นต้องออกตัวก่อนว่า อนันตรา เชียงใหม่ รีสอร์ต เป็นพร็อพเพอร์ตี้ส่วนตัวของผม เริ่มจากผมและภรรยาได้มาพักผ่อนที่นี่ ช่วงปี 2018 และเกิดความหลงรักแต่แรกเห็น ชื่นชอบในสถาปัตยกรรมจนถ่ายภาพไว้เพื่อเป็นแบบในการสร้างบ้านหลังปัจจุบัน แต่แล้วด้วยความบังเอิญที่อาจไม่ใช่เรื่องบังเอิญ มีคนรู้จักมาเสนอดีลซึ่งเราเองมีความสนใจมาเป็นทุนอยู่แล้วจึงเริ่มทำดีล แต่แล้วก็ไม่ลงตัวที่เราในครั้งแรก ก็รู้สึกเสียดาย คิดว่าอาจไม่ใช่ของๆเรา จนสองเดือนถัดมาโอกาสก็วนกลับมาที่เราอีกครั้ง และครั้งนี้ก็ปิดดีลอย่างสวยงามเมื่อมกราคมที่ผ่านมานี่เอง.” อดิศักดิ์ สุขุมวิทยา ผู้บริหารในเครือ JMART กับกลุ่มธุรกิจในเครือ ที่วันนี้ทุ่มงบหลักพันล้านเพื่อครอบครองเพชรน้ำงามแห่งจังหวัด เชียงใหม่ อย่าง อนันตรา เชียงใหม่ รีสอร์ต ที่มีสถาปัตยกรรมและประวัติศาสตร์อันยาวนานแห่งนี้




ซึ่งเราอดถามไม่ได้ถึงความเปลี่ยนแปลงครั้งใหม่ของ อนันตรา เชียงใหม่ รีสอร์ต บนความตั้งใจของคุณอดิศักดิ์ นั้นเป็นอย่างไร 

“สถานที่แห่งนี้มีประวัติความเป็นมากว่าร้อยปี แต่เดิมเคยเป็นสถานกงศุลประเทศอังกฤษเก่าประจำจังหวัดเชียงใหม่ ที่ก่อสร้างมาตั้งแต่ปี พ.ศ.2463 จวบจนวันที่มาเป็นของเราก็ครบร้อยกว่าปีพอดี ซึ่งพอเปลี่ยนมาเป็นโรงแรม ก็ยังอนุรักษ์โครงสร้างและสถาปัตยกรรมสไตล์โคโลเนียลไว้อย่างดีเยี่ยม อีกทั้งทำเลติดแม่น้ำปิงจึงส่งให้ที่ผืนนี้เป็นดั่งเพชรน้ำงามของจังหวัดเชียงใหม่ จากในสภาวการณ์ที่ผ่านมา ธุรกิจท่องเที่ยวและโรงแรมประสบปัญหาครั้งใหญ่ ไม่มีนักท่องเที่ยวต่างชาติ อนันตรา เชียงใหม่ จึงอาจไม่ได้รับการดูแลที่ดี การเข้ามาบริหารในครั้งนี้ ผมจึงต้องการชุบชีวิตให้อนันตราแห่งนี้กลับมาสวยที่สุดในเชียงใหม่ และ เป็น Top of Mind ติดในใจผู้เข้าพักทั้งชาวไทยและต่างชาติว่าเป็นแบรนด์ลักซ์ชูรี่ และ ยูนีค ที่สุดในประเทศไทย”




อนันตรา เชียงใหม่ คือ Timeless ที่แท้จริง “ถ้าไม่บอกว่า ส่วนที่ต่อเติมเป็นโรงแรมมา 18 ปีแล้ว ย่อมไม่มีใครเชื่อ เพราะที่นี่ได้สถาปนิกมือหนึ่งจากสิงคโปร์ มาออกแบบตกแต่ง โดยนักออกแบบดึงความเป็นตะวันออก ไม้สักที่ถูกเลือกมาใช้ในงานออกแบบ ช่องแสงที่ให้ความรู้สึกโปร่ง และอบอุ่นยามเมื่อแสงสาดส่องเข้ามา จึงไม่ใช่เรื่องง่ายที่การปรับปรุงต่อเติมส่วนต่างๆให้คงเอกลักษณ์และเสน่ห์ ที่สามารถหยุดเวลาและตราตรึงความสวยสง่าไว้ได้ตลอดกาล ฉะนั้นเรื่องงบประมาณการปรับปรุงจึงไม่มีขีดจำกัด โดยในช่วงแรกเราอัดไปกว่า150ล้าน เพื่อปรับปรุงทั้ง Landscape การจัดสวนใหม่ รวมถึงทีมบริหารเข้ามาปรับปรุงการบริการคุณภาพ เสมือนการปรับปรุงบุคลิกภาพให้อนันตราเชียงใหม่เป็นผู้หญิงสวยพร้อมมีเสน่ห์ มีความยูนีค แต่ทันสมัย ที่ใครพบเจอก็พร้อมจะหลงรักประทับใจกับ อนันตรา เชียงใหม่ แห่งนี้”


แม้ว่าไม่เคยคาดหวังว่าจะเข้ามาสู่ธุรกิจโรงแรมขนาดใหญ่ แต่ก็เหมือนได้เติมเต็มชีวิตของเขา ซึ่งคุณอดิศักดิ์ได้เล่าส่งท้ายอย่างมีความสุขว่า “ผมเชื่อในความลงตัว ที่ถูกกำหนดให้ได้มา ผมไม่เคยคาดหวังว่าจะทำกำไรจากธุรกิจนี้มากมาย หากแต่แค่ได้ชื่นชมและมีความสุขไปกับสถานที่ๆ เราชื่นชอบ และเมื่อทุกคนที่ได้มาเยือนเกิดความประทับใจเช่นเดียวกับผม นั่นคือสิ่งที่ถือว่าเราทำสำเร็จตามเป้าหมายครับ”

นับเป็นช่วงเวลาแห่งความประทับใจที่ได้มีโอกาสพูดคุย ในบรรยากาศสบายๆยามบ่าย ของ “อนันตรา เชียงใหม่ รีสอร์ต” ภายใต้ร่มเงาของผู้บริหารคนใหม่ที่ชื่อ “อดิศักดิ์ สุขุมวิทยา


กำลังโหลดความคิดเห็น