xs
xsm
sm
md
lg

ควีนอลิซาเบธฉลองครองราชย์ครบ 70 ปี ท่ามกลางกระแสดราม่า ประกาศพร้อมยกตำแหน่งควีนให้คามิลลา

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ปีนี้เป็นปีแห่งการเฉลิมฉลองของราชวงศ์อังกฤษ เนื่องด้วยนับเป็นปี Platinum Jubilee หรือการฉลองการครองสิริราชสมบัติครบ 70 ปี ของสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 แห่งราชวงศ์วินเซอร์ ประเทศอังกฤษ ที่สร้างสถิติทรงเป็นประมุขหญิงของประเทศที่ครองราชย์ยาวนานที่สุด และตลอดการนั่งบัลลังก์ของพระองค์ก็ได้เผชิญหน้ากับปัญหานานัปการ รวมไปถึงข่าวไม่ดีไม่งามทั้งหลายที่ส่งผลต่อกระทบต่อความเชื่อมั่นในราชวงศ์ของพสกนิกร ยิ่งในปีนี้ที่ควรจะเป็นปีแห่งการเฉลิมฉลองกลับต้องผจญกับกระแสดราม่ากระหน่ำกันตั้งแต่ต้นปีเลยทีเดียว




ยังไม่ทันจะได้หายจากการโศกเศร้าเสียใจ ที่เพิ่งสูญเสีย เจ้าชายฟิลิป พระสวามีสุดที่รักไปเมื่อปีที่แล้ว เปิดมาปีใหม่ได้เพียงเดือนกว่า ควีนอลิซาเบธก็เจอข่าวหนักๆ ต่อเนื่องหนักหน่วงหลายกระแส ตั้งแต่ข่าวเจ้าชายแอนดรูว์ หนึ่งในพระโอรสตกเป็นข่าวเกี่ยวพันกับคดีล่วงละเมิดทางเพศ จนทำให้ถูกปลดออกจากตำแหน่งและระงับห้ามใช้ยศนำหน้าชื่อ พร้อมทั้งพระองค์ยังแสดงความจำนงค์ที่จะไม่ให้ราชวงศ์เข้ามาช่วยเหลือเกี่ยวกับการขึ้นโรงขึ้นศาลคดีความต่างๆ ของพระโอรสพระองค์นี้อีกด้วย


ตามต่อมาด้วยกระแสความบาดหมางระหว่างราชวงศ์อังกฤษกับคู่รักแหกคอกอย่างเจ้าชายแฮร์รี่ และเมแกน มาร์เคิล ที่แม้จะขอลดบทบาทในฐานะสมาชิกราชวงศ์และเดินทางไปพำนักอยู่ที่ประเทศสหรัฐอเมริกาแล้ว แต่กลับมีการให้สัมภาษณ์หรือการออกรายการโทรทัศน์พูดคุยถึงเรื่องราวเกี่ยวกับราชวงศ์ในทางแง่ลบ และทำให้ภาพลักษณ์ของสมาชิกราชวงศ์หลายพระองค์เสื่อมเสีย โดยเฉพาะอย่างยิ่งประเด็นเรื่องการเหยียดสีผิว

แถมล่าสุดยังมีข่าวเจ้าชายแฮร์รี่เตรียมฟ้องร้องรัฐบาลอังกฤษในกรณีที่ปฏิเสธการขอจ้างตำรวจอารักขามาดูแลความปลอดภัยในช่วงระหว่างเสด็จเยือนอังกฤษช่วงกลางปีนี้ โดยทางฟากรัฐเห็นว่าหน่วยงานตำรวจเป็นหน่วยงานรัฐบาลไม่สามารถจะรับจ้างจากเอกชนได้ และเห็นว่าเจ้าชายแฮร์รีสามารถใช้ทีมรักษาความปลอดภัยเอกชนที่ดูแลอยู่เป็นประจำ ยามใช้ชีวิตในอเมริกามาปฏิบัติหน้าที่นี้ได้ตามปกติ ในขณะที่ทางฝั่งเจ้าชายแฮร์รี่แจ้งว่าการเสด็จเยือนอังกฤษของพระองค์ต้องการการอารักขาที่มากกว่าปกติ และเชื่อว่าครอบครัวของพระองค์โดนมุ่งปองร้ายในประเทศบ้านเกิดของตัวเอง จึงต้องการการปฏิบัติการจากหน่วยตำรวจราชการลับเป็นพิเศษ


รวมไปถึงการเข้าฉายของภาพยนตร์เรื่อง Spencer ที่กล่าวถึงความสับสนของชีวิตเจ้าหญิงไดอาน่าช่วงที่ใกล้จะหย่าขาดกับเจ้าฟ้าชายชาร์ลส์ ซึ่งถึงแม้เนื้อเรื่องจะไม่ได้โจมตีราชวงศ์อังกฤษอย่างรุนแรงเหมือนกับซีรีส์ The Crown ที่โด่งดังในเน็ตฟลิกซ์ แต่การพลิกฟื้นเรื่องราวความไม่ลงรอยกันของทั้งสองฝ่ายขึ้นมาถ่ายทอดอีกครั้ง ก็ทำให้กระแสความไม่พอใจของบรรดาแฟนคลับของเจ้าหญิงไดอาน่าที่มีต่อราชวงศ์กลับมาอีกรอบ


แถมดราม่าล่าสุดที่เพิ่งเกิดขึ้นสดๆ ร้อนๆ ก็ยิ่งช่วยโหมกระแสให้เผ็ดร้อนขึ้นอีก เมื่อหนึ่งในใจความสำคัญของพระราชสาส์นที่ทรงเผยแพร่เนื่องในวันครองราชย์ครบ 70 ปี นอกจากการกล่าวถึงการขอบคุณถึงแรงสนับสนุนของพสกนิกร และรู้สึกยินดีที่ได้รับหน้าที่อันทรงเกียรตินี้มาอย่างยาวนาน ยังมีการกล่าวถึงว่าเมื่อถึงเวลาที่พระโอรสของพระองค์ เจ้าฟ้าชายชาร์ลส์ ขึ้นครองราชย์ เขาและพระชายา คามิลล่า ดัชเชสแห่งคอร์นวอลล์ จะได้รับการสนับสนุนเฉกเช่นเดียวกัน

พร้อมทั้งแสดงเจตจำนงอย่างชัดแจ้งว่า เมื่อถึงเวลานั้น คามิลล่าจะได้ดำรงตำแหน่ง “สมเด็จพระราชินี”


ซึ่งนับเป็นการยุติข้อถกเถียงที่มีมาอย่างยาวนานตั้งแต่เจ้าฟ้าชายชาร์ลส์ทรงสมรสกับ คามิลล่า ว่า เธอจะได้รับตำแหน่งใดแน่ เนื่องด้วยกระแสความไม่พอใจของประชาชนอังกฤษที่มองว่าเธอคือต้นเหตุของการหย่าร้างของเจ้าฟ้าชายชาร์ลส์และเจ้าหญิงไดอาน่า และจะไม่ยอมรับเธอในฐานะพระราชินี ถึงขั้นที่สำนักพระราชวังเคยออกมาประกาศว่า เธอจะได้รับเพียงตำแหน่ง “เจ้าหญิงพระชายา” เท่านั้น ถ้าเจ้าฟ้าชายชาร์ลส์ได้ขึ้นครองราชย์


การออกมาประกาศของควีนอลิซาเบธที่ 2 ที่แสดงถึงการยอมรับในตัวพระสุนิสา ก็กลายเป็นข่าวใหญ่กลบข่าวการฉลองการครองราชย์ครบ 70 ปีของพระองค์ เพราะความคิดเห็นของประชาชนส่วนใหญ่มุ่งไปกับการตัดสินใจของพระองค์ในครั้งนี้ ซึ่งถึงแม้จะมีหลายฝ่ายเห็นด้วย เพราะคามิลล่า ทรงประพฤติ ปฏิบัติตนอย่างดี สมกับตำแหน่ง และทรงงานหนักมาตลอด แต่ก็มีคนอีกไม่น้อย โดยเฉพาะอย่างยิ่งเหล่าแฟนคลับของเจ้าหญิงไดอาน่า ที่แสดงความรับไม่ได้ ที่จะให้ คามิลล่า ขึ้นนั่งแท่นว่าที่พระราชินีคนใหม่










กำลังโหลดความคิดเห็น