xs
xsm
sm
md
lg

รถคันแรกสุดประทับใจ 3 หนุ่ม 3 วัย นักสะสมรถคลาสสิกคนดัง

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



เมื่อ “ของขวัญ” ถูกกำหนดให้เป็นสื่อแทนความรักความห่วงใย การจะเลือกหาของขวัญให้คนที่คุณรัก ย่อมเป็นสิ่งที่ดีที่สุด ยิ่งหากเป็นของขวัญที่โดนใจผู้รับด้วยแล้ว มนต์เสน่ห์ในของขวัญชิ้นนั้น จะสะกดใจให้เกิดความรู้สึกรักและผูกพัน ฝังอยู่ในความทรงจำได้อย่างแนบแน่นตลอดไป ในวาระปีใหม่ที่จะมาถึง CelebOnline พาไปส่องรถยนต์ของขวัญชิ้นแรกชิ้นโปรดของ 3 คนดังนักสะสมรถคลาสสิกกันค่ะ


หากกล่าวถึงเรื่องรถยนต์แล้วไม่พูดถึง หนุ่มใหญ่วัยเก๋าเจ้าพ่อ Moto Expo มหกรรมยานยนต์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในเอเชีย “ขวัญชัย ปภัสร์พงษ์” ไม่ได้ แค่เปิดโรงรถก็คงเจอรถมากมาย ทั้งรถหรู รถโบราณที่สะสมไว้ แต่เมื่อถามถึงรถคันแรกในชีวิต ขวัญชัยทำท่านึกย้อนหลังแล้วตอบว่า “ต้องบอกว่าเป็นรถคันแรกที่ซื้อเป็นของขวัญให้ตัวเองมากกว่า เพราะผมใช้เงินจากการเล่นดนตรีซื้อมาครับ”

ย้อนกลับไปช่วงที่ขวัญชัยอายุได้ 15-16 ปี กำลังเข้าสู่วัยรุ่นเนื้อหอมสุดเท่ เพราะเป็นทั้งนักดนตรีและนักร้องนำ เมคมันนี่ได้เดือนละเกือบ 2 หมื่นบาท จึงตัดสินใจใช้เงินที่หามาได้ซื้อรถคันแรกในชีวิตคือ mini Austin 1000 สีแดงในราคา 46,000 บาท (สมัยนั้น)



“ผมเป็นคนชอบรถเล็กๆ แบบ mini อยู่แล้ว พอเพื่อนมาบอกขายรถคันนี้ผมก็ซื้อทันที เป็นรถเก่าที่ผลิตยุค 60 ตอนนั้นชีวิตมีความสุขเพราะรถ mini เป็นรถคันเล็กที่ขับสนุกมาก บ่อยครั้งหลังเสร็จจากเล่นดนตรีตอนเที่ยงคืน ผมจะควบเจ้ามินิสีแดงทะยานไปพัทยา เพียงเพื่อไปนอนฟังเสียงคลื่นบนโขดหินแสนจะโรแมนติกมาก ขับใช้งานได้เพียง 2-3 ปี สุดท้ายต้องตัดใจขายรถคันแรกไปเพราะต้อนบินไปเรียนต่อที่เยอรมนี” ขวัญชัยพูดถึงของขวัญชิ้นแรกที่เปรียบเสมือนเพื่อนคู่ใจที่อยู่เคียงข้างในตอนนั้นอย่างมีความสุข

ในฐานะที่เป็นนายกสมาคมรถโบราณแห่งประเทศไทย มาอย่างยาวนาน จึงแถมท้ายด้วยการเล่าถึงรถโบราณคันแรกในชีวิตที่สะสมไว้เพิ่มเติมว่า


“ตอนมาอยู่สมาคมรถโบราณก็มองหารถโบราณอยู่ โชคดีมากไปได้ mini Austin 7 ผลิตตั้งแต่ปี 1928 จึงเหลือไม่มากแล้ว เห็นครั้งแรกก็ชอบเลย ตอนนั้นซื้อมาในราคา 5 แสนบาทแล้วมาซ่อมต่อจนขับได้ ตอนนี้รถรุ่นนี้น่าจะเหลือประมาณ 20 คัน ผมได้มาก็ส่งเข้าประกวด กวาดรางวัลมาหลายครั้งแล้ว” ขวัญชัยเล่าอย่างภาคภูมิใจ

สำหรับ Austin mini 7 คันนี้ ไม่ใช่รถสะสมที่มีไว้โชว์เท่านั้น แต่เขายังนำไปช่วยหาเงินเพื่อการกุศลมาแล้วหลายครั้ง และมีเรื่องน่าแปลกคือ ถ้านับญาติกันแล้ว Austin mini 7 ที่ซื้อมานั้น กลายเป็นรถรุ่นคุณพ่อของ mini Austin 1000 ซึ่งเป็นรถที่ซื้อมาคันแรกอีกต่างหาก


ด้านหนุ่มใหญ่สุดเท่ “สยาม เศรษฐบุตร” ประธานชมรม Mercedes-Benz Club Thailand ผู้ซึ่งเติบโตมากับรถคลาสสิก ที่มีคุณพ่ออักษร เศรษฐบุตร รักและสะสมไว้มากมาย ทำให้ผูกพันโดยไม่รู้ตัว เล่าว่า “ได้เห็นพ่อซื้อรถ ซ่อมแซม ดูแล และทะนุถนอมรถยนต์ พานั่งไปทดลองขับแล้วก็ชื่นชอบ เมื่อโตมาขับรถได้แล้วก็เริ่มขออนุญาตนำรถท่านออกไปขับขี่อยู่หลายครั้ง จนวันหนึ่งขณะที่เรียนชั้นมัธยม 6 โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาพัฒนาการ มีคนขับรถซีตรอง BX16 RS ป้ายแดงมาที่บ้าน และเซลส์ที่เอารถมาส่งบอก จึงได้รู้ว่าเป็นบิ๊กเซอร์ไพรส์ที่คุณพ่อมอบให้ จึงนับเป็นรถยนต์คันแรกที่ได้รับ


แม้ลึกลงไปในใจสยามจะหลงรักรถคลาสสิก แต่ซีตรอง BX16 RS ป้ายแดงคันนี้ก็ทำให้เขาก็รู้สึกดีใจมาก ไม่คาดฝัน เพราะเป็นรถยนต์คันแรกของเขา “ผมเข้าใจว่าตอนนั้นพ่อเห็นผมเป็นเด็กก็จะมองในสิ่งที่เหมาะสม ไม่อยากซื้ออะไรที่แพงเกินตัวให้ แม้รู้ว่าทุกครั้งที่ผมขับรถจะระมัดระวังไม่ประมาท แต่ก็อาจ accidental จึงเลือกแบบธรรมดาให้ก่อน ประกอบกับช่วงนั้นซีตรองเพิ่งออกรุ่นนี้มาพอดี ต่อมาเมื่อผมสอบเข้าจุฬาฯ ได้ พ่อก็มอบให้อีกคัน เป็น Mercedes-Benz เปิดประทุน 450 SL ซึ่งเคยบอกกับพ่อไว้นานแล้วว่าชอบ คันนี้จึงเป็นคันที่รักมากไม่นึกว่าเป็นเด็กจะได้รับรถดีๆ แบบนี้” สยามย้อนถึงอดีตพร้อมรอยยิ้ม


สำหรับ เบนซ์ 450 SL เขาจะขับไปไหนมาไหนตลอด จนจบมหาวิทยาลัย และต้องไปเรียนต่อต่างประเทศ รถจอดทิ้งไว้ไม่ได้ใช้ คุณพ่อก็เลยขออนุญาตขาย ผมก็ให้ขายเพราะเห็นว่าใช้มา 4 ปีแล้ว กว่าจะเรียนจบกลับไปก็น่าจะมีรถรุ่นใหม่ๆ มาให้เลือก แต่ความเป็นจริงนั้นไม่ใช่เลย เพราะเมื่อกลับมาเมืองไทย เขากลับคิดถึงเจ้า Benz SL เปิดประทุนอย่างหนัก จึงเสาะหามาครอบครองอีกครั้ง

“คือฝังใจว่าเราขับมาตั้งแต่เด็กๆ ก็ชอบ ถ้าจำไม่ผิด Benz SL ผ่านมือผมมา 5 คันแล้ว คือเจ้าเบนซ์รุ่นนี้มีบอดีเดียว มีทั้ง 450 SL, 500 SL, 380 SL, ผมก็ลองหมด ชอบในเรื่องของรูปลักษณ์ ใส่ hardtop ก็ได้ ใส่ softtop ก็ได้ มีลักษณะ 3 รูปแบบในรถคันเดียวกัน จึงเลือกที่จะเก็บไว้”


ด้วยมนต์เสน่ห์จากของขวัญชิ้นแรก บวกกับแรงซึมซับความสวยคลาสสิกในรถเก่าของพ่อ ฝังใจหนุ่มรูปหล่อคนนี้ ทำให้เขากลายเป็นนักสะสมรถคลาสสิกปัจจุบันเฉพาะรถเก่าที่เก็บไว้มีหลายคันหลายยี่ห้อรวมๆ แล้วประมาณ 20 กว่าคัน ทั้งหมดผ่านการใส่ใจดูแลซ่อมแซมเบื้องต้นด้วยตัวเองแทบทั้งสิ้น


การส่งผ่านจากรุ่นสู่รุ่นอาจจะไม่มีความหมายใดเลย หากผู้รับมองไม่เห็นคุณค่า อาจใช้ได้กับ “จิ๊บ-วสุ แสงสิงห์แก้ว” ซึ่งเป็นอีกหนึ่งหนุ่มใหญ่ที่ลุ่มหลงในรถคลาสสิก เพราะเกิดและเติบโตมากับครอบครัวที่มีคุณตาและคุณพ่อ-นายแพทย์วิทุร แสงสิงห์แก้ว ซึ่งเป็นคนรักรถด้วยกันทั้งนั้น

จิ๊บเล่าย้อนถึงรถยนต์คันแรกที่เรียกได้ว่าเป็นของขวัญที่รักมากให้ฟังว่า ที่บ้านจะชอบ Mercedes-Benz โดยบ้านคุณตาจะใช้ Mercedes-Benz S-Class รุ่นปีประมาณ 2515-2516 ส่วนคุณพ่อชอบรถสปอร์ตก็จะมีรถหลายคัน หนึ่งในนั้นคือ Mercedes Benz 190 SL เปิดประทุนสีขาวงาช้างเบาะแดง

“จำคันนี้ได้เพราะครั้งหนึ่งคุณพ่อขับพาคุณแม่ (อาจารย์สุชาดา อดีตอาจารย์คณะอักษรศาสตร์ จุฬาฯ) และผมไปนั่งรถเล่น พอผ่านอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิปรากฏเครื่องดับ พวกเราเลยต้องลงมาช่วยกันเข็น (หัวเราะ) เลยรู้สึกผูกพันเป็นพิเศษ เมื่อเจ้า Benz 190 ต้องจอดในโรงรถมีเพื่อนพ่อมาขอซื้อคุณพ่อก็ขายไป ตอนนั้นก็ยังไม่รู้สึกอะไร จนเมื่อโตมาอีกนิดไปหลงรัก เอลวิส เพรสลีย์ ราชาร็อกแอนด์โรล ซึ่งเขาเล่นภาพยนตร์เรื่อง “G.I. Blues” ในหนังเอลวิสขับ Benz 190 SL สีรถ-สีเบาะเหมือนที่คุณพ่อมี ผมเลยมาเดินหาในโรงรถ ปรากฏไม่เจอเพราะคุณพ่อขายไปแล้ว เลยขอให้พ่อหามาให้ใหม่แต่ก็หาไม่ได้ เราก็ฝังใจมาตลอดว่า ถ้ามีโอกาสจะต้องหาให้ได้ จนวันหนึ่งไปเจอเพื่อนพ่อที่เป็นนักสะสมรถ ท่านมี Benz 190 SL ที่เราตามหาอยู่ ก็เลยตื๊อท่าน ตื้อคุณพ่อขออาสารับมาดูแล นานเป็นปีกว่าท่านจะยอมให้ จึงถือเป็นรถคันแรกที่ได้มาเพราะความรักที่ติดอยู่ในใจเรา”

Mercedes Benz 190 SL ที่เฝ้ารอถือเป็นมรดกทางใจ เมื่อได้มาแล้ว จิ๊บ บอกว่า นำกลับมาขับกับคุณพ่ออยู่นาน ในวันว่างก็พาคุณแม่บ้าง คุณพ่อกับสุนัขตัวโปรดของท่านบ้าง ไปกินลมชมวิว เหมือนที่ท่านเคยพาเราไป




กำลังโหลดความคิดเห็น