เพราะการเดินทางของ “กาแฟ” ไม่ได้สิ้นสุดเพียงแค่ส่งถึงมือผู้บริโภคเท่านั้น แต่ยังสามารถเดินทางไปได้ไกลเพื่อส่งคืนประโยชน์กลับสู่ผืนดินและสิ่งแวดล้อมของเราได้ ล่าสุด เนสเพรสโซ ในฐานะแบรนด์กาแฟที่มุ่งดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน จับมือ วันเดอร์ฟรุ๊ต (Wonderfruit) ไลฟ์สไตล์เฟสติวัลที่เน้นวิถียั่งยืน จัดกิจกรรม Nespresso x Wonderfruit: Journey to Sustainable Farming เปิดโมเดลความยั่งยืนจากกาแฟสู่ฟาร์มในคอนเซ็ปต์ Rice & Roast พาสื่อมวลชนพร้อมเหล่าเซเลบริตี้สายรักษ์โลก อย่าง เปิ้ล จริยดี - เจย์ สเปนเซอร์, หวานหวาน อรุณณภา พาณิชจรูญ และหญิง รฐา – ตุลย์ ตุลยเทพ เอื้อวิทยา มาโอบกอดธรรมชาติพร้อมเติมเต็มหัวใจนักอนุรักษ์ ผ่านการเยี่ยมชมวันเดอร์ฟรุ๊ตฟาร์มผักออร์แกนิค (Wonderfruit Farm) ณ เดอะฟิลด์ แอท สยามคันทรีคลับ จ.ชลบุรี ที่เนสเพรสโซได้มอบกากกาแฟเพื่อเป็นปุ๋ยสำหรับเพาะปลูก และสัมผัสกิจกรรมสุดเอ็กซ์คลูซีฟที่มาพร้อมคอนเซ็ปต์ “การเดินทางอันไร้จุดสิ้นสุดของกากกาแฟ” ผ่านเวิร์คช็อปทำก้อนเมล็ดพืช (Seed Bomb) และวาดรูปสีน้ำสกัดจากกาแฟและวัสดุจากธรรมชาติ เพื่อสร้างแรงบันดาลใจในวิถีชีวิตแบบ Eco-living พร้อมตอกย้ำจุดยืนของเนสเพรสโซในการมอบประโยชน์ให้แคปซูลกาแฟและกากกาแฟได้อย่างไม่รู้จบ
เพื่อยกระดับให้เห็นถึงความสำคัญของกาแฟเนสเพรสโซที่เต็มเปี่ยมไปด้วยรสชาติของความใส่ใจ ก่อนที่จะเข้าสู่กิจกรรมต่างๆ งานนี้ เหล่าสื่อมวลชนและเซเลบริตี้ ได้พบกับ บอย-สาธิต กลิ่นสาโรจน์ เนสเพรสโซคอฟฟี่ แอมบาสเดอร์ คนแรกของประเทศไทย ที่ได้มาแนะนำข้อมูลเกี่ยวกับเครื่องชงกาแฟ กาแฟ พร้อมครีเอทเมนูซิกเนเจอร์จากเนสเพรสโซที่ได้รับกระแสตอบรับอย่างดีจากลูกค้าเป็น Refreshment menu อย่าง Yuzu Iced Coffee
หลังจากดื่มด่ำรสชาติกาแฟอย่างเต็มอิ่มแล้ว ผู้ร่วมงานยังได้สัมผัสกับประสบการณ์ความอร่อยต่อเนื่องกับมื้อกลางวันสุดพิเศษ ณ Theatre of Feasts ฮอลล์กลางแจ้งโครงสร้างไม้ไผ่ดีไซน์เท่ รังสรรค์เมนูอาหารโดย เชฟหนุ่ม -วีระวัฒน์ ตริยเสนวรรธน์ จากร้าน ซาหมวย แอนด์ ซันส์ อุดรธานี เชฟผู้หลงใหลในการเลือกใช้วัตถุดิบธรรมชาติจากเครือข่ายเกษตรอินทรีย์มานำเสนอประสบการณ์ความประทับใจไปกับอาหาร 5 คอร์ส เริ่มต้นอาหารเรียกน้ำย่อยด้วย “เมี่ยงตะไคร้กุ้งลายเสือย่าง” ตามด้วย “เมนูไก่ปิ้งกับตำหน่อไม้ฝรั่ง” ถัดมาเชฟเสิร์ฟเป็น “ห่อหมกปลาอินทรีย์กับแกงเทโพ” และจากหลักอย่าง “เนื้อสกลวากิวหมักเครื่องเทศกาแฟ และขอนแก่นหมูย่างกับแจ่วกาแฟ” พร้อมปิดท้ายด้วยของหวานอย่างวุ้นกาแฟกับกะทิรวมมิตร โดยเชฟหนุ่มได้ใช้กาแฟเนสเพรสโซ 3 รสชาติในกลุ่ม Professional รังสรรค์เมนูอาหารให้แขกในงานได้ลิ้มรสความอร่อยของอาหารอีสานโมเดิร์นที่ดึงความขมจากกาแฟ มาเพิ่มรสกลมกล่อม และกลิ่นหอมกาแฟในอาหารมื้อพิเศษนี้ พร้อมใช้ผักออร์แกนิคจากฟาร์มวันเดอร์ฟรุ๊ตที่ปลูกจากกากกาแฟเนสเพรสโซทุกจานเสิร์ฟพร้อมกับภาชนะที่ทำจากไม้ไผ่สามารถย่อยสลายได้ตามธรรมชาติ
เมื่อเติมพลังไปกับอาหารมื้อพิเศษเรียบร้อยแล้ว ก็ถึงเวลาของการโอบกอดธรรมชาติ เดินสายทำกิจกรรมตามวิถี Eco โดยคณะสื่อมวลชนและเซเลบริตี้ได้ใช้เวลาใกล้ชิดกับความสวยงามของธรรมชาติในพื้นที่ 10 ไร่ของฟาร์มผักออร์แกนิค ซึ่งพืชผักและดอกไม้ทั้งหมดในฟาร์มยังปลูกจากกากกาแฟ 100% โดยสถานีแรก สื่อมวลชนและเหล่าเซเลบริตี้จะได้พบกับโรงปุ๋ยหมัก ซึ่งถือว่าเป็นหัวใจหลักของการทำเกษตร โดยทางฟาร์มวันเดอร์ฟรุ๊ตได้ใช้กากกาแฟของเนสเพรสโซมาทำเป็นปุ๋ยเพื่อช่วยบำรุงดิน และเป็นส่วนผสมของยาไล่แมลงสูตรธรรมชาติ ในสถานีถัดมาจะเป็นโรงเพาะเห็ด ซึ่งในปัจจุบัน ทางฟาร์มได้ใช้กากกาแฟที่มีความชื้นมาผสมรวมกับก้อนเห็ดเพื่อทดลองว่ากากกาแฟจะสามารถช่วยกระตุ้นอัตราการเจริญเติบโตของเห็ดได้หรือไม่
นอกจากนี้ เหล่าผู้ร่วมงานยังได้เดินชมโรงตากเมล็ด รวมถึงแปลงสมุนไพร แปลงปลูกผัก แปลงพืชไร่และพืชหมุนเวียน ที่ทางฟาร์มได้ปลูกข้าวโพดสลับกับปอเทืองเพื่อคลุมดิน ไปจนถึงแปลงดอกไม้กินได้ โดยพืชผักหลากหลายชนิดที่ปลูกจะเน้นไปที่พืชผักพื้นบ้านที่สามารถนำมาใช้ประกอบอาหารได้ โดยตลอดการเยี่ยมชมฟาร์ม ผู้ร่วมงานยังได้เรียนรู้เกี่ยวกับวงจรอาหารที่เริ่มจากการเพาะปลูกพืชผัก และเข้าใจในการจัดการเกี่ยวกับอาหารให้ยั่งยืน เช่น การทำปุ๋ยอินทรีย์จากกากกาแฟเนสเพรสโซที่ใช้แล้ว
ปิดท้ายด้วย 2 กิจกรรมเวิร์คช็อปรักษ์โลกให้ผู้เข้าร่วมได้เรียนรู้วิธีการนำกากกาแฟกลับมาใช้ประโยชน์ในหลากหลายรูปแบบ อย่างการนำกากกาแฟใช้แล้วเราสามารถมอบชีวิตใหม่ให้เป็นของขวัญคืนสู่ธรรมชาติด้วยการนำมาทำ Seed Bomb ด้วยการนำดินเหนียว มูลไส้เดือน และกากกาแฟเนสเพรสโซ นำมาปั้นเป็นก้อน เพื่อส่งเมล็ดพันธุ์ที่ต้องการปลูกยิงเข้าไปในป่าที่เป็นพื้นที่ที่เข้าถึงได้ยาก
ต่อด้วยกิจกรรมสร้างสรรค์ผลงานอาร์ตด้วยการวาดรูปสีน้ำ สกัดจากพืช ดอกไม้จากธรรมชาติ และกากกาแฟ โดยผู้ร่วมงานจะได้เริ่มทำตั้งแต่ขั้นตอนสกัดสีจากธรรมชาติเอง ไม่ว่าจะเป็น สีน้ำตาลจากกาแฟ สีเหลืองจากขมิ้น สีม่วงจากอัญชัน และสีเขียวจากพาร์สลีย์ พร้อมนำสีดังกล่าวไปสร้างสรรค์ผลงานชิ้นเอก ที่นอกจะเปิดจินตนาการความคิดสร้างสรรค์ของผู้ร่วมงานอย่างเต็มที่แล้ว ยังได้แรงบันดาลใจในการสร้างสรรค์สิ่งใหม่จากวัสดุที่ใช้แล้วนำกลับมาใช้ให้เป็นประโยชน์ เพื่อสะท้อนแนวคิดของเนสเพรสโซในการสร้างชีวิตใหม่ให้อะลูมิเนียมกาแฟและกากกาแฟได้อย่างไม่รู้จบ
ซึ่งในปี 2022 นี้ เนสเพรสโซเดินหน้าต่อยอดความร่วมมือกับวันเดอร์ฟรุ๊ต ในแคมเปญส่งมอบกากกาแฟที่เหลือจากการกระบวนการผลิต ให้กับวันเดอร์ฟรุ๊ตฟาร์ม เพื่อนำไปแปรรูปเป็นปุ๋ยเพิ่มแร่ธาตุโพแทสเซียม ไนโตรเจน และ ฟอสฟอรัส ที่จำเป็นต่อการเจริญเติบโตของพืชในฟาร์ม รวมถึงช่วยกำจัดวัชพืชและศัตรูพืชต่อไป ตามความมุ่งหมายของเนสเพรสโซที่ต้องการนำกากกาแฟมาใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด และไม่เพิ่มขยะให้สิ่งแวดล้อม ตอกย้ำเจตนารมณ์แห่งความยั่งยืนอันเป็นพันธกิจสูงสุดของเนสเพรสโซ