อดีตเจ้าหญิงพิสูจน์ว่า พวกเขาอาจละทิ้งตำแหน่งและสิทธิพิเศษบางอย่าง และรู้สึกว่ามันคุ้มค่าที่จะแลกกับสิ่งที่พวกเขาเรียกว่า เสรีภาพที่ค้นพบใหม่ๆ เรามาดูกันว่า อดีตเจ้าหญิงที่ละทิ้งชีวิตในราชวงศ์เหล่านี้ ไปทำอาชีพอะไร
เจ้าหญิงมาร์ทา ลุยส์ :: ผู้มีญาณทิพย์/นักเขียนหนังสือเด็ก
พระราชธิดาพระองค์โตและพระองค์เดียวในกษัตริย์ฮารัลด์ และราชินีซอนยา แห่งนอร์เวย์ เจ้าหญิงมาร์ทา ลุยส์ ทรงประกาศสละฐานันดรศักดิ์เพื่อที่จะทรงสมรสกับคนธรรมดา อารี เบห์น ในปี 2002 และหลังจากนั้นไม่นาน ทั้งคู่ก็ร่วมกันเปิดโรงเรียน ‘แองเจล สกูล’ สอนวิธีการสื่อสารกับวิญญาณ
ในปี 2019 มาร์ทา ลุยส์ ประกาศบนอินสตาแกรมของเธอว่า จะเอาคำนำหน้าอย่าง ‘เจ้าหญิง’ ออกไปจากการทำธุรกิจของเธอทุกอย่าง นอกจากนี้ เธอยังเขียนหนังสือนิทานเด็กขายดี Why Kings and Queens Don’t Wear Crowns อีกด้วย
เจ้าหญิงโนริ :: นักบวช
เจ้าหญิงโนริ พระธิดาพระองค์สุดท้องในจักรพรรดิอากิฮิโตและจักรพรรดินีมิชิโกะ ปัจจุบันเป็นนักบวชอยู่ที่วัดญี่ปุ่นในอิเสะ ซึ่งนับว่าเป็นวัดสำคัญแห่งหนึ่งของญี่ปุ่น
เจ้าหญิงโนริ ต้องสละฐานันดรศักดิ์เป็นสามัญชนนามว่า ซายาโกะ คุโรดะ หลังจากที่ตัดสินใจสมรสกับสามัญชน โยชิกิ คุโรดะ ในปี 2005 โดยก่อนที่จะไปเป็นนักบวช ซายาโกะทำงานเป็นนักปักษีวิทยา
เมแกน มาร์เคิล :: โปรดิวเซอร์/นักเขียนหนังสือเด็ก
หลังจากเมแกน มาร์เคิล และเจ้าชายแฮร์รีแห่งอังกฤษ ทรงตัดสินใจสละฐานันดรศักดิ์ พวกเขาก็ไปตั้งบริษัท อาร์คเวล องิก์ ซึ่งทำทั้งงานการกุศล และเป็นบริษัทรับทำโปรดักชัน
นอกจากมีสัญญาทำหนังสารคดีและรายการต่างๆ กับเน็ตฝลิกซ์แล้ว เมแกนยังเขียนหนังสือเด็ก โดยมีผลงานออกมาเล่มแรก อย่าง The Bench
เจ้าหญิงอะมิราห์ :: นักลงทุน
อดีตชายาในเจ้าชายอัลวาลีด บิน ตาลาล แห่งซาอุดีอาระเบีย หลังจากทรงหย่ากับเจ้าชาย เธอก็ตั้งบริษัทของตัวเองในสายบันเทิง
อะมิราห์ ยังก่อตั้งองค์กรการกุศล ขึ้นมาเพื่อช่วยเหลือส่งเสริมสิทธิสตรี โดยช่วยผลักดันให้สตรีชาวซาอุดีอาระเบียมีสิทธิที่เท่าเที่ยม เช่น ต่อสู้ให้สามารถขับรถได้ ไปไหนมาไหนได้เอง มีสิทธิในการการเลี้ยงดูบุตรหลังหย่าร้าง ฯลฯ
