มาทำความรู้จักผู้ว่าการรัฐนิวยอร์กคนใหม่ ซึ่เป็นผู้หญิงคนแรกที่ได้ขึ้นมานั่งในตำแหน่งนี้ เธอตั้งเป้าสูงเสมอ ขณะที่เพื่อนฝูง ครอบครัว คนใกล้ชิด ต่างพูดถึงเธอว่า เป็นคนตั้งใจแน่วแน่ ติดดิน และเกรี้ยวกราดเป็นบางครั้ง
ในความทรงจำของ เคน เฮาส์เนคต์ เพื่อนเก่าวัยเด็กของเคที เห็นว่า เธอเป็นเด็กสาวที่มุ่งมั่น เหมือนภาพเขียนติดโปสเตอร์ในครัวสมัยก่อน
เคที เป็นลูกคนที่สองในครอบครัวคาทอลิกเชื้อสายไอริช เคยเขียนบันทึกของเธอไว้ตอน 5 ขวบว่า “เรียน พระสันตะปาปาปอลที่ 6” แล้วก็พูดถึงสิ่งเธอตั้งเป้าหมายไว้ เคนบอกว่า เด็ก 5 ขวบทั่วไปคงจะเขียนจดหมายถึงบาทหลวง หรืออธิการ “แต่เคทีข้ามไปเขียนถึงองค์พระสันตปาปาเลย”
ความทะเยอทะยานในสายการเมืองของเคทีเริ่มประสบผล หลังจากที่อดีตผู้ว่าการรัฐนิวยอร์ก อย่าง แอนดรูว์ คูโอโม ฆ่าตัวเองด้วยการมีข่าวอื้อฉาวทางเพศ ทำให้รองผู้ว่าการรัฐอย่างเธอได้ขึ้นมาแทนที่โดยอัตโนมัติ
ก่อนหน้านี้ แอนดรูว์ เคยแนะนำเธอให้ลาออกไปสมัครเป็นวุฒิสมาชิก ในปี 2018 แต่เนื่องจากการที่เคทีเห็นว่า เธอทำงานเป็นผู้ช่วยเขามานาน จึงอยากอยู่ในตำแหน่งเดิมเพื่อรับใช้ชาวนิวยอร์กต่อไป ทว่า หลังจากที่แอนดรูว์ลาออกในวันที่ 10 สิงหาคมที่ผ่านมา ทั้ง 2 คน ก็ยังไม่ได้พูดจากันอีกเลย
เคที มีความรักบ้าน ผูกพันอย่างมากกับครอบครัว และบ้านเกิดเมืองนอนที่เธอเติบโตมา อย่าง ฮัมบูร์ก ซึ่งเป็นย่านชานเมืองชั้นใน ทางตอนใต้ของบัฟฟาโล เป็นเมืองเกษตรกรรมเก่าแก่ที่มีประชากรประมาณ 59,000 คน ครอบคลุมพื้นที่ประมาณ 40 ตารางไมล์ มีชุมชนริมทะเลสาบอันร่มรื่นที่เต็มไปด้วยวงเวียนคดเคี้ยวไปมา และบ้านสไตล์โคโลเนียลแบบครอบครัวเดี่ยว
ชาวเมืองที่นี่ต่างภาคภูมิใจหมู่บ้านของตัวเอง มีชีวิตที่ดำเนินไปอย่างเชื่องช้า พวกเขามีงานประจำปี อย่าง แอรี เคาน์ตี แฟร์ หนึ่งในงานแสดงสินค้าที่ใหญ่ที่สุดในสหรัฐฯ
เคที ทำงานเป็นคณะกรรมการเมืองมากว่าทศวรรษ เธอได้รับการสนับสนุนจากชาวเมืองทั้งสองขั้วการเมืองแบบไม่แบ่งแยก
หลังจากที่เธอได้ขึ้นเป็นผู้ว่าการรัฐนิวยอร์ก ชาวเมืองต่างชื่นชมเธอ ระลึกถึงเธอด้วยความรักในฐานะนักสู้เพื่อชุมชน
คริสเตียน โรซาโด ชาวนิยอร์ก พูดถึงเคทีว่า เป็น “เพชรในตม” เขาต่างจากผู้บริหารเอมไพร์สเตทคนเก่า อย่าง แอนดรูว์ ที่ดูอยู่เหนือทุกคน แต่สำหรับเคที เธอเป็นหนึ่งในพวกเรา”
ตอนที่เคทีในช่วงฤดูร้อนปี 1958 พ่อแม่ของเธอ - แจ๊ค และแพต คอร์ตนีย์ เพิ่งย้ายออกจากบ้านเคลื่อนที่ขนาด 250 ตารางฟุต ที่จอดในลานจอดรถพ่วงในเงามืดของโรงงานถลุงเหล็กเบธเลเฮม
พ่อของเธอซึ่งตอนนั้นเป็นนักศึกษามหาวิทยาลัย ทำงานเป็นเสมียนในโรงงานที่น่าเกรงขามในลัคกาวันนา ซึ่งเป็นกลไกขับเคลื่อนเศรษฐกิจอุตสาหกรรม ที่ครั้งหนึ่งเคยเฟื่องฟูของบัฟฟาโล ซึ่งท้ายที่สุดแล้วปิดตัวลงในทศวรรษ 1980
แจ็คและแพต ย้ายจากลัคกาวันนาไปสู่ชนชั้นกลางในฮัมบูร์ก มีเคทีเกิดและเติบโตขึ้นมาในครอบครัวที่เน้นเรื่องกีฬา โบสถ์ และความสำเร็จ เธอและพี่น้องของเธอศึกษาที่เซนต์ปีเตอร์ แอนด์ พอล โบสถ์แฝดที่มีโรงเรียนประถมอยู่ติดกัน
ครอบครัวของพวกเขาต้องรัดเข็มขัดกันพอสมควร ต้องอาศัยซื้อของที่ร้านขายเสื้อผ้ามือสอง บ้านอิฐของพวกเขาที่ลอง อเวนิว นั้นก็คับแคบเกินไปสำหรับเด็ก 6 คน พ่อแม่อีก 2 คน และสัตว์เลี้ยงนานาชนิด คือมีทั้งสุนัข แมวสีขาวชื่อพัฟฟ์ และต่อมาก็มีแมวกู้ภัยที่มีหางงอเรียกว่า เอพริล
เคที แชร์ห้องนอนใต้หลังคากับ ชีล่า ไฮน์เซ่ น้องสาวของเธอ ทุกครั้งก่อนจะไปนอน ทั้งคู่ต้องเดินผ่านห้องนอนของพี่ชายเพื่อไปถึงห้องของตัวเอง และสวิตช์ไฟของทั้งคู่ก็ติดอยู่ที่ด้านล่างของบันไดที่ไม่สะดวก
อย่างไรก็ตาม ครอบครัวก็ใช้ชีวิตอย่างเรียบง่าย และสนุกสนานกับกิจกรรมมากมาย ทั้งการนั่งรถเลื่อนหิมะ เล่นฟุตบอล หรือบาสเก็ตบอลบนถนนรถแล่น และบริจาคอาหารในช่วงเทศกาลคริสต์มาส แม้ว่าจะมีฐานะทางการเงินที่ต้องกระเบียดกระเสียน
ผู้ว่าการรัฐหญิงนิวยอร์ก ศึกษาภายในกำแพงที่ปกคลุมไปด้วยไม้เลื้อยของโรงเรียนมัธยมฮัมบูร์กซึ่งเธอเป็นที่ที่เธอชื่นชอบ เธอเข้าร่วมชมรมเด็กผู้หญิง วิชาที่เธอโปรดปรานคือประวัติศาสตร์
เธอชอบทำกิจกรรมร่วมกับเพื่อนๆ ขณะที่เวลาเรียนก็ทุ่มเทมากจิม โอเว่น ครูสอนพิมพ์ดีดของเธอเล่าว่า ไม่แปลกใจเลยที่เธอจะประสบความสำเร็จทางการเมือง “เธอมีนิสัยพูดน้อยและขยันหมั่นเพียร ความมุ่งมั่นของเธอฉายแววมาตั้งแต่เด็ก”
“เธอเป็นคนขยันมาก” จิม ซึ่งตอนนี้เกษียณแล้วและอาศัยอยู่ในบาตาเวีย “เธอทำให้ครูดูดี เธอทำงานหนักนอกโรงเรียนด้วยนะ เมื่อเธอไม่ได้ดูแลลูกๆ ของเพื่อนบ้าน เคทีก็ดูแลน้องชายของตัวเอง นอกจากนี้ เธอยังทำงานที่ร้านพิซซ่าในนอร์ทบอสตันที่อยู่ใกล้ๆ บ้านด้วย”
“บางครั้งเธอจะกลับบ้านก็ปาเข้าไปห้าทุ่ม เที่ยงคืนนู่น ผนังห้องนอนของน้องสาวที่เคลือบด้วยยางสีส้ม จะสว่างขึ้นเมื่อเธอกลับมาบ้าน”
ชีล่า น้องสาววัย 57 เล่าว่า “ฉันจำได้ว่าอยู่บนเตียงและมองไปเห็นเธอกลับมาจากร้านพิชซ่า และเธอจะต้องเปิดไฟของเธอ และทำการบ้านต่ออีก”
เคที โฮคุล สำเร็จการศึกษาในปี 1976 และเข้าเรียนต่อที่มหาวิทยาลัยซีราคิวส์ ความสนใจทางการเมืองของเธอเริ่มก่อตัวขึ้นระหว่างการศึกษาชันมัธยมปลาย ทำให้เธอเลือกเรียนต่อทางด้านรัฐศาสตร์ ในมหาวิทยาลัย เธอมีส่วนร่วมในการเคลื่อนไหวและเข้าร่วมฝ่ายบริหารของนักศึกษา ในตำแหน่งรองประธาน ร่วมกับ จอร์แดน เดล ประธานนักศึกษา
เคทีมีส่วนผลักดันให้เปลี่ยนสนามฟุตบอลและสนามบาสเก็ตบอลของมหาวิทยาลัย มาใช้ชื่อ แคร์เรียร์ โดม นอกจากนี้ เธอยังพยายามต่อสู้ในร้านหนังสือของมหาวิทยาลัย ลดราคาลงมาเพื่อให้นักศึกษาทุกคนมีสิทธิ์อ่าน
นอกจากเป็นนักกิจกรรม ที่ต่อสู้เพื่อเรียกร้องสิทธิต่างๆ แล้ว เคทียังเป็นเด็กเรียนดีที่ได้เอแทบทุกวิชา เธอได้ศึกษาต่อด้านกฎหมายที่มหาวิทยาลัยคาทอลิค จนจบในปี 1983 ก่อนจะไปเป็นผู้ช่วยของวุฒิสมาชิกจากย่านบัฟฟาโลของพรรคเดโมแครต
ในช่วงกลางทศวรรษ 80 เธอแต่งงานกับ บิล โฮคุล ที่เป็นชาวเมืองบัฟฟาโลด้วยกัน และกลับมาทำงานด้านกฎหมายกับ ส.ว. แดเนียล แพทริก มอยนิฮาน โดยในช่วงต้นทศวรรษ 90 โชคชะตาและครอบครัวพาเธอกลับไปยังฮัมบูร์ก ซึ่งเธอและสามีเลี้ยงดูลูกสองคน แบบห่างๆ จากการเมืองชั่วครู่
อย่างไรก็ตาม เคที ต้องออกไปเป็นปากเป็นเสียงให้ชาวฮัมบูร์ก เวลาที่มีเรื่องไม่ชอบมาพากล หรือเกิดความติดขัด ไม่ยุติธรรม จนทุกคนแนะนำให้เธอเข้าร่วมเป็นคณะกรรมการไปเลย แน่นอนว่า พอมีตำแหน่งว่าง เธอก็ได้รับการโหวต
เธอช่วยให้คนที่ตกเป็นเหยื่อความรุนแรงในครอบครัวมีที่พักพิง ต่อสู้เพื่อถนนที่ปลอดภัยยิ่งขึ้น และสนับสนุนการพัฒนาที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
ในปี 2003 ตอนที่เคทีทำงานจริงจังที่ที่ว่าการฯ ลูกๆ ของเธอก็เติบโตขึ้น และสามีของเธอทำงานเป็นผู้ช่วยทนายความในสำนักงานอัยการท้องถิ่นของสหรัฐฯ เธอกำลังมีโอกาสก้าวไปไกลกว่าการเมืองของฮัมบูร์ก เป้าหมายของเธออยู่ที่ระดับรัฐเรียบร้อยแล้ว
เธอชนะในพื้นที่สีแดง (ของรีพับลิกัน) ในปี 2011 ที่เธอลงสมัครรับเลือกตั้งในสภาคองเกรส ทำให้นักวิเคราะห์การเมืองตกตะลึง โดยได้เข้ายึดเขตอนุรักษ์นิยมในการเลือกตั้งพิเศษ ตัวแทน ครอส ลี พรรครีพับลิกัน ยอมจำนนอย่างไม่มีชิ้นดี
เคที ทำให้การดูแลสุขภาพเป็นประเด็นสำคัญของการรณรงค์หาเสียง โดยตอกย้ำแผนงบประมาณของพรรครีพับลิกัน ทำให้เธอเธอเอาชนะคู่ต่อสู้มาได้ถึง 5 เปอร์เซ็นต์ มาในปี 2014 แอนดรูว์ คูโอโม ก็เลือกเธอเป็นคู่หูของเขา
ถึงวันนี้ เคที ทำงานกับแอนดรูว์มามากกว่า 6 ปีในการบริหารรัฐนิวยอร์ก จะว่าไปแล้ว เธอก็สวมบทบาทในพิธีการส่วนใหญ่อยู่แล้ว และเป็นตัวแทนของเขาอยู่บ่อยๆ
ตอนนี้ลูกๆ ของเธอ เคตลินและวิลเลียม ต่างก็โตๆ กันหมดแล้ว ขณะที่แม่ของเธอเสียชีวิตในปี 2014 ส่วนพ่อวัย 85 อาศัยอยู่ในฟลอริดา เธอและสามี อาศัยอยู่ในคอนโดที่สร้างจากอิฐซึ่งมองออกไปเห็นท่าจอดเรือใกล้กับตัวเมืองบัฟฟาโล สถานที่อันเงียบสงบซึ่งมีคลื่นซัดเบา ๆ ปะปนไปกับเสียงเรือแจว
สำหรับการเดินทางครั้งล่าสุดของเธอ เธอบอกว่า พร้อมที่จะออกมาจากย่านบัฟฟาโล และเธอตั้งใจจะลงสมัครรับเลือกตั้งในปีหน้าแน่นอน