การอาศัยเซเลบริตีมาเป็นพรีเซนเตอร์ของสินค้า คือ ช่องทางการตลาดที่ง่ายที่สุด ที่จะเข้าถึงกลุ่มเป้าหมาย ถึงแม้ว่าบางรายอาจจะดูเฟคๆ ไม่เข้ากันไปบ้าง แต่ส่วนใหญ่มักจะได้ผล
ทว่า การยัดเยียด ‘สินค้า’ ให้อยู่ในกำมือของคนดัง บางทีก็กลายเป็นดาบสองคม หรืออาจจะไม่เป็นไปดั่งใจเจ้าของกิจการมากนัก แถมยังอาจจะต้องทำให้เกิดการสูญเสียทางธุรกิจอีกด้วย
คริสเตียโน โรนัลโด # โคคา-โคล่า
เมื่อนักฟุตบอลที่มีผู้ติดตามทางอินสตาแกรมมากที่สุดในโลก เอื้อมมือมาขยับขวดน้ำอัดลมยี่ห้อดังที่สุดในปฐพี ในงานแถลงข่าวก่อนการแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป 2020 ความ ‘แดเมจ’ ระดับโลกก็เกิดขึ้นทันที โดย โคคา-โคล่า ที่เป็นสปอนเซอร์หลักของการแข่งขันนี้ เกิดความสูญเสียวัดเป็นมูลค่าได้ถึง 5,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
อย่างไรก็ตาม คริสเตียโนบอกอดรนทนไม่ได้ เขาเห็นเป็นเรื่องสำคัญที่ต้องประกาศตัวว่า ไม่แตะต้องน้ำอัดลมที่ไม่ดีต่อสุขภาพ แต่เลือกที่จะดื่มน้ำเปล่ามากกว่า
รายงานข่าวว่า ทันทีที่มือของคริสเตียโน ยกขวดโค้ก 2 ขวดไปวางไว้ไกลๆ ตัว และยกขวดน้ำขึ้นมาดื่ม ราคาหุ้นของโคคา-โคล่า ก็ตกลงจาก 242,000 ล้านดอลลาร์ ลงไปเหลือ 238,000 ล้านดอลลาร์ทีเดียว
ไคลี เจนเนอร์ # สแนปแชต
ปฏิเสธไม่ได้ว่า พี่น้องคาร์ดาเชียน เป็นหนึ่งในกลุ่มผู้ทรงอิทธิพลทางโซเชียลเน็ตเวิร์กของอเมริกันในทุกวันนี้ ถึงแม้ว่า เธอจะไม่ได้มีเอี่ยว หรือสัญยิงสัญญาใดๆ กับ สแนปแชต แต่ ไคลี เจนเนอร์ ก็ยังอุตส่าห์ไปสร้างความเสียหายให้เขาได้ถึง 2,000 ล้านดอลลาร์ จากข้อความในทวิตเตอร์ของเธอ
วันหนึ่งในเดือนกุมภาพันธ์ ปี 2018 ไคลีทวีตว่า “เอ้ออออ คนเขาไม่เล่นสแนปแชตกันแล้วเหรอ? ทำไมมีชั้นเล่นอยู่คนเดียว... เศร้าจัง” --เท่านั้นแหละ มูลค่าหุ้นของแพลตฟอร์มดังกล่าวก็เริ่มดิ่งลงทันที
อีลอน มัสก์ # เงินคริปโตทุกสกุล
ด้วยฐานะมหาเศรษฐีอันดับ 2 ของโลก ทำให้ในโลกของเงินตรา ไม่ว่าจะเงินจริงๆ หรือเงินดิจิทัล อย่าง คริปโตเคอร์เรนซี ใครๆ ก็ต้องฟัง อีลอน มัสก์
แน่นอนว่า การทวีตของเขา สามารถทำให้ความเชื่อถือใน ‘เงินดิจิทัล’ อย่าง บิตคอยน์ มีมูลค่าที่ดิ่งลงเหวได้ ซึ่งหลังจาก อีลอน ได้ออกแถลงการณ์ว่า บริษัทรถไฟฟ้า เทสลา ของเขา จะขอยกเลิกทุกสัญญาที่เคยตกลงกับบิตคอยน์ ด้วยเหตุผลทางด้านสิ่งแวดล้อม เท่านั้นแหละ ค่าเงินดิจิทัลก็หล่นฮวบลงมาทันทีถึง 15% คิดเป็นเงินรวมทั้งตลาดคริปโตเคอร์เรนซีถึง 100,000 ล้านดอลลาร์
เลบรอน เจมส์ # ซัมซุง
นักบาสเกตบอลเอ็นบีเอชื่อดัง เป็นพรีเซนเตอร์ฝั่งอเมริกาของซัมซุงสมาร์ตโฟนมานาน เลบรอน เจมส์ ปรากฏกายในโฆษณาสมาร์ตโฟนจากเกาหลีใต้ และใครๆ ก็เห็นว่าเขาใช้มือถือพะยี่ห้อนี้จริงๆ แถมยังชอบบรรยายสรรพคุณเจ๋งๆ ให้เพื่อนร่วมทีมในห้องแต่งตัวอีกด้วย
แต่แล้วในปี 2014 เลบรอน ทวีตว่า “มือถือผม อยู่ดีๆ มันก็ลบทุกสิ่งทุกอย่างในเครื่อง แล้วรีบูตตัวเองซะงั้น เป็นเรื่องที่แย่ที่สุดที่เคยเกิดขึ้นในชีวิตผมเลย!!!”
แม้เขาจะรีบลบทวีตดังกล่าวในอีก 10 นาทีต่อมา แต่ก็ได้ทำลายภาพลักษณ์ของคู่แข่งคนสำคัญของแอปเปิ้ลไปเรียบร้อยแล้ว
เดวิด เบคแฮม # บรายครีม
เป็นที่รู้กันว่า นักฟุตบอลทีมแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด คลาส 90s นั้น ทรงอิทธิพลขนาดไหน ยิ่งหน้าตาไปวัดไปวาตอนสายๆ ได้อย่าง เดวิด เบคแฮม นั้น ไม่ต้องพูดถึง หนุ่มๆ ก็ชอบฝีเท้า สาวๆ ก็ชอบสีหน้า ผู้ชายซื้อชั้นในคาลวิน ไคลน์มาใส่ตามเขา ส่วนสาวๆ ก็ตามเก็บแมกกาซีนที่เขาขึ้นปก (หรืออยู่ในโฆษณากางเกงใน--ก็ได้)
กระนั้น ไม่ใช่ว่าสินค้าทุกอย่าง ที่มาใช้บริการกองกลางทีมชาติอังกฤษ จะต้องขายดีไปหมดหรอกนะ
ในปี 1997 ผลิตภัณฑ์จัดแต่งทรงผมสัญชาติอังกฤษสุดอมตะ บรายครีม เข้ามาเซ็นสัญญา 4 ปี ให้เดอะ เบคส์ ซึ่งขณะนั้นได้ชื่อว่ามีทรงผมเท่สุดๆ เป็นพรีเซนเตอร์ มูลค่า 8.17 ล้านดอลลาร์
3 ปี ต่อมา ขณะที่สัญญายังไม่หมด เดวิด เบคแฮม กลับไปทำผมทรงสกินเฮด! แล้ว บรายครีม ล่ะพี่ เอาไปทิ้งไว้ไหน?
