xs
xsm
sm
md
lg

แซ่บได้ หวานก็มี! สไตล์ “นันทญา ภิรมย์ภักดี” ลูกสาว​ “คุณหญิง​ต้น”

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



แม้ว่าจะเห็นหน้ากันอยู่บ่อยๆ แต่อาจไม่ค่อยได้ทำความรู้จักกับเธอมากนัก สำหรับหนึ่งในทายาทตระกูลดัง ตระกูลสิงห์ “ตุ๊ย-นันทญา ภิรมย์ภักดี” ลูกสาวคนที่ 2 ของ “จุตินันท์ และ ม.ล.ปิยาภัสร์ ภิรมย์ภักดี” น้องสาวของนักการเมืองหญิงผู้มีอุดมการณ์ อย่าง “ตั๊น-จิตภัสร์ ภิรมย์ภักดี” เพราะก่อนหน้านี้ส่วนใหญ่สาวตุ๊ยใช้ชีวิตอยู่ต่างประเทศซะมากกว่า


ตั้งแต่เรียนจบระดับไฮสกูลที่ Benenden School ประเทศอังกฤษ สาวหัวใจอาร์ติสต์ก็ได้ศึกษาต่อด้านวิจิตรศิลป์ (Fine Art) ที่มหาวิทยาลัยศิลปะระดับโลก อย่าง “เซ็นทรัล เซนต์ มาร์ติน” (Central Saint Martins) กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ จากนั้นได้ไปหาประสบการณ์การทำงานกับ “Chrome Hearts” แบรนด์เครื่องประดับระดับตำนานในลอสแองเจลิส สหรัฐอเมริกา อยู่ 8 ปี ประจวบเหมาะกับเป็นช่วงโควิดและความอิ่มตัวในการทำงาน เธอเลือกกลับมาพักชิลๆ ที่เมืองไทย ก่อนที่จะเตรียมตัวเรียนต่อ

“ทำงานที่ Chrome Hearts อยู่แอลเอมาประมาณ 8 ปี คิดว่าจะไปเรียนต่อปริญญาโทด้านการบริหารจิวเวลรีที่ลอนดอน แต่พอดีโควิด-19 ระบาด คิดอยู่ว่าจะเอาอย่างไรดี เพราะจะไปเรียนต่อก็คงไม่ได้ ประกอบกับเราเริ่มอิ่มตัวกับการทำงานที่บริษัทเดิม คิดว่าถึงเวลาแล้วที่ต้องลองออกไปทำอย่างอื่น ก็เลยกลับมาเมืองไทยก่อนดีกว่า ปลอดภัยที่สุด ชีวิตช่วงนี้ก็เลยชิลๆ ช่วยงานคนรู้จักบ้างนิดหน่อย หรือไม่ก็ช่วยงานคุณแม่บ้าง ถือเป็นช่วงพักของเรา”


สำหรับสไตล์ของสาวอาร์ตคนนี้เรียกได้ว่า เธอเป็นสาว 2 สไตล์ จะแซ่บๆ แนวแกลมร็อกก็ได้ หรือจะหวานชวนฝันแนวปรินต์เซสก็มี หรือบางทีก็จับสองสไตล์นั้นมาเจอกันในลุคเดียวซะเลย!

“สไตล์ที่เป็นตัวของตัวเองตั้งแต่เด็กแล้ว คืออันดับแรกตุ๊ยเป็นคนที่สวมใส่ทุกอย่างที่อยากใส่ ที่ชอบใส่ โดยมีข้อแม้หนึ่งว่าต้องสวมใส่แล้วสบายตัว เช่น ถ้ารู้สึกว่าเสื้อรัดเกินไปก็ไม่ใส่ สไตล์ไม่ได้ตายตัว อย่างเมื่อก่อนด้วยความที่เราเป็นสาวอาร์ต ต้องทำงานศิลปะก็จะชอบใส่เสื้อยืดกับกางเกงวอร์ม เพราะกลัวเสื้อผ้าเลอะ แต่ช่วงนี้ชอบใส่เดรสลายดอก ผ้าพลิ้วๆ เย็นๆ อย่าง ของ Landmee กับรองเท้าแตะ หรือรองเท้าบู๊ท

แต่สไตล์ที่คนคิดถึงตุ๊ยก็จะเป็นแนวร็อก เสื้อผ้าสีดำ มีหนามอะไรอย่างนี้ แต่ความจริงเราเป็นคนมีสองขั้ว ขั้วหนึ่งคือร็อกๆ หน่อย ส่วนอีกขั้วหนึ่งก็คือ แนวเจ้าหญิงไปเลย อย่าง สีชมพู ลายดอกไม้ แต่บางทีพอแต่งออกมาก็มาเจอกันตรงกลาง คือมีความร็อกซ่อนอยู่”


สิ่งที่ทำให้สาวสองสไตล์คนนี้เสียเงินมากที่สุดนั้น ก็เหมือนกับสาวๆ ทั่วไปที่ชอบความสวยงามของ “รองเท้า” ไม่ว่าจะเป็นรองเท้าส้นสูง รองเท้าบูต รองเท้าแตะ แทบจะกลายเป็นของสะสมที่เธอมักจะเลือกคอลเลกชันพิเศษๆ มาเก็บไว้ในครอบครอง และถ้าหากเปิดตู้ดูสิ่งที่มีมากไม่น้อยไปกว่ารองเท้านั่นก็คือ เสื้อยืด สกรีนร็อกแบรนด์ต่างๆ ที่เริ่มสะสมตั้งแต่สมัยเด็กๆ โดยมักจะไปซื้อที่ตลาดจตุจักร และยิ่งตอนไปเจอที่อเมริกาซึ่งราคาสูงกว่าที่เมืองไทยหลายเท่าตัว ฉะนั้น เธอจึงยิ่งชอบซื้อที่เมืองไทย

“ในตู้เสื้อผ้าจะมีเสื้อยืดเยอะสุด พวกลายร็อกๆ ที่เวลาเราแต่งเราก็จะมัดตรงเอวบ้าง หรือตัดครอปให้เป็นสไตล์เรา แต่พวกกระเป๋า เครื่องประดับ ส่วนใหญ่ใช้กับคุณแม่ เพราะเสื้อผ้าอาจจะคนละไซส์กันนิดหนึ่งค่ะ (หัวเราะ) ตั้งแต่โควิดตุ๊ยชอบชอปปิ้งออนไลน์ แต่ถ้าเป็นไปได้ก็ชอบไปเดินซื้อเองมากกว่า เพราะเราได้จับได้ลอง”


สิ่งหนึ่งที่เราเห็นจากไลฟ์สไตล์ของเธอคือ เธอเป็นสาวที่ชอบกิจกรรมกลางแจ้ง ยิ่งถ้าเป็นการออกไปอยู่กับทะเล หาดทราย สายลมและแสงแดดแล้วหล่ะก็ เธอสู้ไม่ถอย ชนิดที่ว่าผิวแทนก็ไม่กลัว!

“ตุ๊ยชอบไปทะเล ชอบเล่นสกี ชอบผิวแทน ชอบอาบแดด โชคดีที่เป็นคนผิวกลับมาขาวง่าย ไปอาบแดดแป๊บเดียวก็กลับมาผิวขาวแล้ว แต่เห็นชอบเที่ยวลุยๆ อย่างนี้ตุ๊ยก็ต้องเทกแคร์ตัวเองนะ เป็นคนที่ดูแลผิวพรรณมาก เวลาไปทะเลผิวตัวไม่เท่าไหร่เพราะเราชอบผิวแทน แต่สำหรับใบหน้าคือโปะ SPF เต็มที่ กลัวเป็นกระ เป็นฝ้า ผิวหน้าเจ๊งแล้วเจ๊งเลยต้องดูแลกันหน่อย อีกอย่างปกติเป็นคนที่ไม่ค่อยแต่งหน้า ฉะนั้น ผิวหน้าเราต้องดี เรียกว่าดูแลเป็นกิจวัตรเลย สิ่งสำคัญคือต้องล้างหน้าให้สะอาด แบบล้างหน้า 3 รอบเลย เพราะบางทีสิ่งสกปรกหลุดไม่หมด ก่อนนอนต้องทาครีม 5 สเต็ปเลยนะ (หัวเราะ) ส่วนผิวตัว ด้วยความที่เราชอบอาบแดด ให้ผิวแทน ฉะนั้น ผิวจะแห้งก็จะต้องทาครีม ทาโลชั่นตลอด”


พอได้ทำความรู้จักกับเธอมากขึ้นก็พบว่า ภายใต้ความแซ่บ ซ่า ที่เธอแสดงออกมานั้น ก็มีความหวานละมุนแบบเด็กสาวเจือปนอยู่ และเธอก็สามารถพรีเซ็นต์ความต่างของทั้งสองขั้วออกมาได้อย่างเพอร์เฟกต์ซะด้วย!








กำลังโหลดความคิดเห็น