เปิดตัวความหรูหราใหม่ล่าสุด เครื่องบินเจ็ตแอร์ฟอร์ซวัน ซูเปอร์โซนิก ของประธานาธิบดี โจ ไบเดน ที่โอ้อวดว่าสามารถบินได้ไวกว่าการเดินทางของเสียงถึง 2 เท่าตัว
เมื่อเดือนกันยายนปีที่ผ่านมา เคยมีข่าวคราวออกมาว่า เครื่องบินเจ็ตส่วนตัวของประธานาธิบดีสหรัฐฯ หรือที่รู้จักกันดีในนาม ‘แอร์ฟอร์ซวัน’ รุ่นใหม่ น่าจะนำเทคโนโลยีซูเปอร์โซนิกมาใช้ ซึ่งจะทำให้บินได้ไวกว่าเสียง หรือลดเวลาในการเดินทางของทีมประธานาธิบดีไปได้ครึ่งหนึ่งลยทีเดียว
ล่าสุด เอ็กโซโซนิก บริษัทสตาร์ทอัพในแคลิฟอร์เนีย ของซีอีโอเชื้อสายเอเชีย นอร์ริส ที ที่มีสัญญากับแอร์ฟอร์ซสหรัฐฯ ได้เปิดตัวเครื่องบินเจ็ตแอร์ฟอร์ซวัน ซูเปอร์โซนิก ลำที่ว่าออกมาเรียบร้อยแล้ว
ข้อตกลงสำคัญในสัญญาครั้งนี้ก็คือ ศูนย์วิจัยแอร์ฟอร์ซ จะต้องช่วยเหลือสตาร์ทอัพ อย่างเอ็กโซโซนิก ให้สามารถพัฒนาเครื่องบินที่มีเทคโนโลยีซูเปอร์โซนิกสำหรับใช้ในการบินพาณิชย์ รวมทั้งปรับแต่งให้กลายเป็นพาหนะระดับเอ็กซ์คลูสีฟ ซึ่งแอร์ฟอร์ซวัน ซูเปอร์โซนิก เป็นโมเดลตัวอย่างที่ออกมาตอบโจทย์ว่าพวกเขาทำได้
“ด้วยคอนเซ็ปต์นี้ เราวางแผนที่จะนำเอาเทคโนโลยีใหม่ที่ไม่เคยมีมาก่อนในสายการบินพาณิชย์มาใช้” สเตฟานี ชาฮาน หัวหน้าทีมออกแบบตกแต่งภายในของเอ็กโซโซนิก กล่าวว่า ได้ออกแบบภายในเครื่องแอร์ฟอร์ซวัน ซูเปอร์โซนิก โดยอาศัยเครื่องบินที่ออกแบบสำหรับใช้ในการบินพาณิชย์ของเอ็กโซโซนิก ขนาด 70 ที่นั่งเป็นต้นแบบ และดัดแปลงดีไซน์ใหม่ให้ใช้งานได้ 31 ที่นั่ง
บนเครื่องประกอบไปด้วยห้องโดยสารระดับสวีท 2 ห้อง ห้องแรกเป็นห้องประชุมส่วนตัว สำหรับผู้โดยสารระดับอีลีท 3 ท่าน บรรจุจอทีวีแอลอีดีสำหรับใช้ในการประชุมวิดีโอทางไกลแบบลับสุดยอด พร้อมเก้าอี้ชนิดพิเศษที่เอนนอนได้ ทำจากไม้บุเบาะหนังอย่างดี “ไม่ว่าจะเป็นรองประธานาธิบดี สตรีหมายเลขหนึ่ง หรือในอนาคตอาจจะมีสุภาพบุรุษหมายเลขหนึ่ง (กรณีประธานาธิบดีเป็นสตรี) ก็ล้วนนั่งได้สบายๆ ทุกเพศทุกวัย” สเตฟานี กล่าว
ห้องโดยสารระดับสวีทอีกห้อง บรรจุที่นั่ง 8 ที่ สำหรับเจ้าหน้าที่ระดับสูง ซึ่งเก้าอี้อาจจะไม่ใหญ่โตโอ่อ่าเท่าในห้องโดยสารห้องแรก ทว่าก็สามารถเอนนอนราบได้เช่นเดียวกัน
ขณะที่ห้องโดยสารหลัก ออกแบบให้มีเก้าอี้โดยสารแบบเดียวกับที่มีบริการบนชั้นบิสิเนสคลาส 20 ที่นั่ง มีครัวเล็กๆ 2 ฝั่ง พร้อมทั้งห้องน้ำ และชั้นเก็บของต่างๆ
“ห้องโดยสารบนเครื่อง ออกแบบโดยได้แรงบันดาลใจจากการออกปฏิบัติงานนอกสถานที่ของเจ้าหน้าที่ระดับสูงของทำเนียบขาว นอกจากมีอุปกรณ์ที่ครบครัน สะดวกสบายแล้ว ยังคำนึงถึงการทำงานยามที่เครื่องเคลื่อนที่ และเน้นที่ความสวยงามด้วย” หัวหน้าทีมออกแบบคนเดิมบอก
เครื่องบินเจ็ตของเอ็กโซโซนิก อ้างว่า สามารถบินได้เร็วถึง 1.8 แมค (เร็วกว่าเครื่องบินพาณิชย์รุ่นล่าสุดถึง 2 เท่า) นอกจากนี้ ยังได้ออกแบบเทคโนโลยี ‘บูม-ซอฟเทนนิง’ ที่ช่วยให้การบินที่ความเร็วระดับซูเปอร์โซนิกได้ แบบไม่สร้างมลพิษทางเสียงต่อสิ่งแวดล้อม คาดว่า แอร์ฟอร์ซวัน ซูเปอร์โซนิก จะได้ฤกษ์ออกมาใช้งานจริงได้ในปี 2030
