xs
xsm
sm
md
lg

DNA แฟชั่นที่ถ่ายทอดทางสายเลือด “พะเพื่อน-ชุติมณฑน์ สกุลไทย”

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



อาจจะดูโอเวอร์ไปนิดถ้าเราพูดว่า เรื่องของแฟชั่นรสนิยมการแต่งตัว สามารถถ่ายทอดทางสายเลือด!? แม้ว่าวิทยาศาสตร์จะไม่ยืนยัน แต่เราคอนเฟิร์มให้ว่า เรื่องของแฟชั่นนั้นถ่ายทอดทาง DNA ได้จริงๆ เพราะถ้าใครรู้จักแม่ลูกคนดังของสังคมอย่าง “แม่อุ๊-มณฑ์ลัชชา สกุลไทย” และลูกสาว “พะเพื่อน-ชุติมณฑน์ สกุลไทย” แม่ลูกตัวติดกันที่เรียกได้ว่าเป็น “ปาท่องโก๋” ของเมืองไทย...เมื่อคุณแม่เป็นแฟชั่นนิสต้ารุ่นใหญ่ ฉะนั้น ลูกสาวก็ได้รับการถ่ายทอดจนตอนนี้ใครๆ ก็ยอมรับว่า เธอคือ “สาวสายแฟ ลูกไม้ใต้ต้นของแม่อุ๊”

พะเพื่อน ชุติมณฑน์” หลายคนอาจคุ้นกับภาพของเธอมาตั้งแต่เด็กๆ ที่มักไปไหนมาไหนกับคุณแม่แฟชั่นนิสต้าคนดังอยู่เสมอ ซึ่งวันนี้เธอก็เป็นสาวแฟชั่นนิสต้าเดินตามรอยแม่อุ๊มาติดๆ แม้จะเห็นว่าสาวพะเพื่อนหน้าหวานๆ อย่างนี้ แต่เรื่องสไตล์ส่วนตัวของเธอไม่หวานนะจ๊ะ เพราะดูจากแบรนด์แฟชั่นแต่ละแบรนด์ที่เธอทำนั้นมีความคูล ห้าว เท่ สตรีทแวร์สุดๆ!


สาวพะเพื่อนได้อัปเดตกับทาง Celeb Online ว่า ตอนนี้เธอกำลังสนุกกับการทำแบรนด์แฟชั่นอยู่ 3 แบรนด์ ที่มีความแตกต่างกันอยู่พอสมควร แต่ทุกแบรนด์มีความเหมือนกันตรงความเท่และคูล อันเป็นซิกเนเจอร์

“ตอนนี้ทำแบรนด์แฟชั่นอยู่ 3 แบรนด์ คือ ร้านรองเท้า “Femme Studio” @Femmestudio ที่ทำมาได้ 3 ปี ต่อมาก็คือ ร้านขายกางเกงยีนส์ชื่อ “Fad For all Denim” @Fad.foralldenim ทำมาได้ 2 ปี และแบรนด์น้องใหม่ที่เพิ่งเริ่มทำเมื่อกลางปีที่ผ่านมา กับแบรนด์เสื้อยืดโอเวอร์ไซส์สไตล์สตรีท “Made From my Backyard” @madefrommybackyard_ ซึ่งทั้งหมดเน้นขายออนไลน์ และขายตามร้านมัลติสโตร์


แต่ละแบรนด์ก็มีไดเรกชันและกลุ่มเป้าหมายที่แตกต่างกัน อย่างรองเท้าเป็นสไตล์เฉพาะกลุ่ม เน้นผู้หญิงเท่ๆ ลุยๆ มีความเป็นตัวของตัวเอง ส่วนกางเกงยีนส์กลุ่มเป้าหมายก็จะกว้างหน่อย เพราะกางเกงยีนส์สามารถใส่ได้ทุกวัย ทุกสไตล์ ขึ้นอยู่กับการมิกซ์แอนด์แมตช์ ส่วนแบรนด์เสื้อยืดก็จะเฉพาะกลุ่มเข้าไปอีก แม้ว่าจะเป็นยูนิเซ็กซ์แต่ก็ต้องเป็นสายแฟที่ชอบแต่งตัวแนวสตรีทจริงๆ

ในฐานะที่เราทำแบรนด์ตัวเองก็ต้องพยายามมิกซ์แอนด์แมตช์เพื่อพรีเซ็นต์แบรนด์ตัวเองบ่อยๆ เหมือนกัน เพื่อให้เป็นไอเดียแก่ลูกค้าเราด้วย พยายามใช้ไอเท็มของตัวเองผสมกับแบรนด์อื่น เพื่อไม่ให้น่าเบื่อจนเกินไป”


เห็นได้ว่าทุกอย่างที่กำลังอินอยู่ตอนนี้เป็นเรื่องเกี่ยวกับแฟชั่นทั้งหมด ซึ่งแล้วแต่เป็นความชอบที่สกัดออกมาจากตัวตนของเธอ ที่ได้รับการถ่ายทอด ซึมซับมาจากคุณแม่อุ๊ของเธอนั่นเอง!

“บอกเลยว่าทุกแบรนด์คือความชอบของพะเพื่อนล้วนๆ เลย...พะเพื่อนชอบแต่งตัว ชอบแฟชั่น ซึ่งหุ้นส่วนทุกคนที่ทำด้วยกันก็ชอบเหมือนกัน แต่งตัวเหมือนกัน ส่วนหนึ่งที่ชอบแต่งตัว อาจจะได้อิทธิพลมาจากคุณแม่ เพราะคุณแม่เป็น “สายแฟ” ตัวจริง อีกอย่างครอบครัวของเราก็ชอบแฟชั่นกันหมด ไม่ว่าจะเป็นลูกพี่ลูกน้องบ้าแฟชั่นกันหมด (หัวเราะ) คงเป็นเนเจอร์ของที่บ้านไปแล้ว”


อย่างที่บอกใบ้ไปแล้วว่า แม้จะเห็นว่าสาวพะเพื่อนหน้าหวาน หุ่นสะโอดสะองอย่างนี้ แต่ความจริงแล้วแนวหวานไม่อยู่ในสารบบแฟชั่นของเธอ เพราะสำหรับพะเพื่อนสไตล์ต้องเท่ คูล แนวสตรีทเท่านั้น

“บอกเลยว่า “พะเพื่อนสไตล์” คือแนวสตรีทจัดๆ ไม่มีคำว่าหวาน แต่ก็มีแบรนด์เนมบ้าง ซึ่งก็เป็นแบรนด์เนมแนวสตรีท เห็นแต่งตัวเยอะๆ แต่พวกเสื้อผ้าไม่ได้ใช้กับคุณแม่เลยเพราะคนละแนว ยกเว้นกระเป๋า รองเท้า แว่นตาและเครื่องประดับที่เอาของคุณแม่มาใช้บ้าง โชคดีที่เราใส่รองเท้าไซส์เดียวกัน ก็มีแบ่งกันใส่บ้าง แต่พอแต่งตัวออกมาก็คนละสไตล์อยู่ดี...ช่วงนี้มาค้นพบว่าการตัดผมสั้นนั้นดี เริ่มจะเหมือนคุณแม่ละ (หัวเราะ) แต่คุณแม่จะสั้นกว่า รุ้สึกว่าการที่ตัดผมสั้นก็คล่องตัวดี ยิ่งเราชอบออกกำลังกายด้วยก็ ดูแลง่าย ผมสั้นนี่แหละตอบโจทย์กับชีวิตช่วงนี้”


ส่วนเรื่องของไอเท็มแนวสตรีทของสาวพะเพื่อนนั้น บอกเลยว่าก็แน่นตู้ไม่ใช้เล่น อีกอย่างหนึ่งที่ได้รับการสืบทอดมาจากแม่อุ๊ก็คือ ความเป็นสาวนักชอปตัวจริง ที่ถ้าถูกใจก็จัดมาเลย!

“นิสัยการชอปปิ้ง เป็นคนที่ไม่ซื้อของตามเทรนด์ เพราะรู้ว่าถ้าตามเทรนด์ สุดท้ายแล้วเราอาจจะไม่ได้ใช้ก็เสียดายเงิน ความจริงเวลาจะซื้ออะไรก็ไตร่ตรองพอสมควรนะ จะปรึกษากับคุณแม่ แต่ถ้าชอบจริงๆ ก็ตัดสินใจซื้อง่ายๆ เลย จากประสบการณ์การชอปปิ้งที่ซื้อมาก็ไม่ค่อยพลาด ถ้าชอบแล้วรู้สึกว่าเราได้ใช้แน่นอนก็ไม่ลังเล


ไอเท็มที่เสียเงินบ่อยที่สุดก็คือ “แว่นตา” ที่ใช้ด้วยกันกับคุณแม่ และชอบทั้งแม่และลูก เปรี้ยวพอกัน (หัวเราะ) ฉะนั้น ก็จะชอบซื้อและไม่ค่อยเสียดายเท่าไหร่ เพราะใช้คุ้มแน่นอน และแว่นตานี่แหละเป็นไอเท็มที่ขาดไม่ได้ รู้สึกว่าช่วยทำให้ลุคเราคอมพลีตและมั่นใจ ชอบหลายแบรนด์ หลายดีไซน์ แต่ที่มีเยอะๆ ก็อย่าง Gentle Monster และแบรนด์โปรดของตอนนี้ก็คือ Off-White เป็นแบรนด์สตรีทที่รู้สึกว่าชอบทุกไอเทม”

นอกจากโฟกัสเรื่องแบรนด์แฟชั่นแล้ว อีกความฝันหนึ่งของเธอก็คือ การสานต่อร้านไอศกรีม ที่มีท็อปปิ้งเป็นสารพัดคอนเฟลกซ์และขนมกรุบกริบ แต่ที่ต้องพับแผนไว้ก่อนเพราะสถานการณ์โควิด ซึ่งถ้ามีโอกาส แฟนๆ ขนมหวานเตรียมมาพบกับป็อปอัพร้านของหวานของเธอได้เลย สาวพะเพื่อนกล่าวทิ้งท้าย

ภาพจาก IG : Papuean_












กำลังโหลดความคิดเห็น