“Koenigsegg” (เคอนิกเส็กก์) สุดยอดแบรนด์รถไฮเปอร์คาร์สมรรถนะสูงสัญชาติสวีเดน ร่วมกับ บริษัท เจเนอร์รัล ออโต้ ซัพพลาย จำกัด (ในเครือชาริช โฮลดิ้ง) นำโดย อภิชาติ ลีนุตพงษ์ ประธานกรรมการ และ ศักดิ์ นานา กรรมการ จัดงาน “Koenigsegg Bangkok : The Ultimate Performance” แกรนด์ โอเพนนิง ปาร์ตี้ เปิดตัวแบรนด์ “Koenigsegg” ที่ล่าสุดเปิดบ้านในประเทศไทยอย่างเป็นทางการ พร้อมร่วมฉลองกับ เจเนอร์รัล ออโต้ ซัพพลาย (ในเครือชาริช โฮลดิ้ง) เมื่อ Koenigsegg Automotive AB (เคอนิกเส็กก์ ออโตโมทีฟ เอบี) ประกาศแต่งตั้งให้เป็นตัวแทนจำหน่ายไฮเปอร์คาร์ เคอนิกเส็กก์ อย่างเป็นทางการในประเทศไทย
ร่วมด้วยไฮไลต์ที่หาชมได้ยาก! ส่งตรงจากสวีเดน กับการเผยโฉมที่สุดแห่งนวัตกรรมไฮเปอร์คาร์ 2 รุ่น มูลค่ากว่า 400 ล้านบาท อย่าง Koenigsegg Gemera Mega-GT สี่ที่นั่งคันแรกของโลก และ Koenigsegg Jesko Absolut ไฮเปอร์คาร์ที่เร็วและแรงที่สุดในประวัติศาสตร์ของ Koenigsegg โดยมีเหล่าเซเลบแถวหน้าร่วมงานคับคั่ง เช่น เฉลิมชัย มหากิจศิริ, สุรเชษฐ วรวงศ์วสุ, วงศ์ชนก ชีวะศิริ, ทวี-นรรจาพร จงควินิต, ธีระ ซอโสตถิกุล, สาริศ รัตนาวะดี, วารีนิธิ กันท์ไพบูลย์, และ ดีเจเพชรจ้า-วิเชียร กุศลมโนมัย เป็นต้น ณ ห้องบอลรูม โรงแรม พาร์ค ไฮแอท กรุงเทพฯ
Jesko Absolut มาพร้อมเครื่องยนต์เบนซิน V8 เทอร์โบคู่ 1,600 แรงม้า (เมื่อใช้เชื้อเพลิง E85) และยังลากรอบได้ถึง 8500 รอบต่อนาที ระบบส่งกำลังแบบ 9 จังหวะ ที่ช่วยให้การเปลี่ยนเกียร์ตอบสนองได้ใกล้เคียงความเร็วของแสง การออกแบบและเส้นสายของตัวรถมีความปราดเปรียวและดุดันมากขึ้น โดยเฉพาะ ครีบฉลามคู่บริเวณด้านท้ายที่ถ่ายทอดแรงบันดาลใจจากเครื่องบินรบ F-15 ช่วยเพิ่มความนิ่งของตัวรถแม้ขณะที่ทำความเร็วสูงขึ้น ด้านหน้าถูกออกแบบให้เก็บหลังคาได้ ขณะที่ ช่วงล่างปรับแต่งให้มีความนุ่มมากขึ้น
Koenigsegg Gemera ไฮเปอร์คาร์ Mega-GT (Mega-Gran Turismo) คันแรกของโลก ที่ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์การใช้งาน กับที่นั่งที่รองรับสรีระของผู้ใหญ่ได้ถึง 4 ที่นั่ง ทั้งยังเก็บกระเป๋าได้ถึง 4 ใบ พร้อมที่วางแก้ว 8 จุด จอแสดงผลข้อมูลต่างๆ ทั้งด้านหน้าและด้านหลัง จุดชาร์จโทรศัพท์แบบไร้สาย ระบบ Apple CarPlay ลำโพง 11 จุด และระบบเบาะปรับด้วยไฟฟ้า
หัวใจหลักอยู่ที่ขุมกำลังเครื่องยนต์เบนซิน 3 สูบ เทอร์โบคู่ ขนาด 2.0 ลิตร “Tiny Friendly Giant (TFG)” มาพร้อมมอเตอร์ไฟฟ้า 3 มอเตอร์ 1,700 แรงม้า และแรงบิดสูงสุดที่ 3,500 นิวตันเมตร ให้อัตราเร่งจาก 0-100 กม./ชม. ในเวลาเพียง 1.9 วินาที ประตูถูกดีไซน์ใหม่ให้ผู้โดยสารด้านหน้าและด้านหลังเข้ารถได้พร้อมกันในเวลาเดียวกัน คงรูปลักษณ์แบบรถสปอร์ต 2 ประตูไว้อย่างครบครัน ผลิตเพียง 300 คันทั่วโลก สนนราคาอยู่ที่ 2.998 ล้านยูโร
