คุณอาว์โรเจอร์ หรือ ไนเจล อึง นักแสดงสแตนด์อัพคอมเมดี ที่กลายเป็นคนดังในโลกอินเทอร์เน็ตชั่วข้ามคืน เมื่อเขาทำวิดีโอวิจารณ์แบบสับเละ รายการสอนทำอาหารทางช่องทีวีดังของอังกฤษ ที่ให้เชฟคนดังๆ มาปรุงเมนู ‘ข้าวผัดไข่’
วิดีโอฮาๆ ที่ไนเจลสร้างคาแรกเตอร์ คุณอาว์โรเจอร์ ขึ้นมาพูดคุยกับหลานๆ ด้วยภาษาอังกฤษติดสำเนียงจีน สับเละถึง ‘ความปลอม’ ของเชฟฝรั่งที่ทำอาหารเอเชียไม่เป็น (แล้วยังมีหน้ามาสอน) โดยเล่นกับวัฒนธรรมการครัวของบรรพบุรษ เสริมเข้าไปเป็นอารมณ์ขันกัดจิก ตอนนี้สร้างฐานผู้ชมได้ถึง 11.6 ล้านวิว
“ผมปลื้มมากเลยที่ทุกๆ คนชอบกัน ผมดีใจจริงๆ บางคนบอกว่าเป็นเพราะผมทำการบ้านหนักเลยได้ยอดวิวนี้มา แต่ผมว่า เป็นเพราะโชคช่วยมากกว่า”
คุณอาว์โรเจอร์ วัย 29 เล่าว่า เชฟผู้โชคร้ายรายแรกคือ เฮอร์ชา พาเทล ที่มาสอนทำ ‘ข้าวผัดไข่’ ก่อนจะไปถึงเชฟดังรายได้อันดับที่ 2 ของโลก อย่าง เจมี่ โอลิเวอร์ “รายแรกนี้ผิดตั้งแต่เริ่มหุงข้าว ที่ใช้ถ้วยชาอังกฤษมาตวงน้ำแล้ว แต่ที่แย่ที่สุดคือ เอาข้าวที่หุงเสร็จแล้วไปใส่ผักชีแล้วล้างน้ำ! พระเจ้าช่วยกล้วยทอด ฆ่าอาว์ให้ตายดีกว่า คิดได้ยังไงเอาข้าวสวยไปล้างน้ำ”
วิดีโอที่ออกทางช่อง คุณอาว์โรเจอร์ กลายเป็นไวรัลในทวิตเตอร์ เรดดิต เฟซบุ๊กกรุ๊ปของชาวเอเชีย สร้างคาแรกเตอร์หนุ่มนักแสดงตลกให้กลายเป็นชายวัยกลางคนขี้บ่น โด่งดังชั่วข้ามคืน ดังยิ่งกว่าอาชีพสแตนด์อัพคอมเมดีที่ทำมาตั้งแต่ปี 2011 เสียอีก
“สแตนด์อัพคอมเมดีต้องอาศัยจังหวะเวลาจริงๆ ไม่ใช่ว่าจะปังกันง่ายๆ ผมรู้สึกโชคดีจริงๆ” ไนเจล บอกอีกว่า ความตั้งใจของเขาตอนทำวิดีโอนั้น กะว่าจะได้ยอดวิวสัก 20,000 ก็ปลื้มแล้ว “ผมมีผู้ติดตามบนยูทูบตอนนั้นก็ราว 9,000 คน ถ้ามียอดวิวสัก 10,000 ผมก็โอเคแล้ว”
6 สัปดาห์หลังวิดีโอวิจารณ์เชฟ ‘ข้าวผัดไข่’ กลายเป็นไวรัล ช่องยูทูบของคุณอาว์โรเจอร์ก็มีผู้ติดตามเฉียดล้าน และไนเจล อึง ก็เริ่มมีคนทักทายเวลาออกไปเดินตามท้องถนนในกรุงลอนดอน ไม่ใช่เฉพาะในไชน่าทาวน์
“ผมคิดว่าส่วนหนึ่งเป็นเพราะ ‘ข้าว’ เป็นสิ่งที่สำคัญมากในวัฒนธรรมเอเชีย โดยเฉพาะคนที่ต้องไปอาศัยอยู่ในโลกตะวันตกแบบผม จะยิ่งเห็นคุณค่าของข้าวมากๆ เลย” ไนเจล บอกว่า พอได้ดูวิดีโอสอนทำข้าวผัดของเฮอร์ชา มันก็เลยกระตุกต่อมอะไรบางอย่าง แล้วรู้สึกว่า จะอยู่เฉยๆ ไม่ได้แล้ว “ไม่ต้องเป็นผมหรอก คนเอเชียทุกคนที่ได้ดูวิดีโอของเธอจะต้องรู้สึกแบบเดียวกัน โอ๊ย ใครเขาหุงข้าว-ทำข้าวผัดกันแบบนั้น”
เนื้อหาในการแสดงสแตนด์อัพคอมเมดีของ ไนเจล อึง ส่วนใหญ่มาจากการเป็นคนเอเชียที่ไปใช้ชีวิตในอังกฤษและอเมริกา “แม้จะมาปักหลักอยู่ในลอนดอน แต่ผมไม่ได้ถูกเลี้ยงดูมาแบบตะวันตก ตอนเด็กๆ ผมเข้าเรียนโรงเรียนภาษาจีน เพื่อนๆ ในกลุ่มที่เรียนมาด้วยกันส่วนใหญ่ก็มีความฝันจะเป็นวิศวกร นักกฎหมาย นักบัญชี”
ไนเจล เริ่มหัดเป็นนักพูดแบบสแตนด์อัพคอมเมดี ตอนที่ย้ายไปศึกษาต่อด้านวิศวกรรมศาสตร์ ณ มหาวิทยาลัยนอร์ทเวสเทิร์น ในรัฐอิลลินอยส์ “ตอนนั้นผมเพิ่งเดินทางจากมาเลเซียไปสหรัฐใหม่ๆ ไอเดียพร่างพรูมากๆ เลย ทั้งเรื่องคัลเจอร์ช็อก เรื่องประชาธิไตย และเรื่องอื่นๆ”
สแตนด์อัพคอมเมดี ยังคงเป็นงานอดิเรกของไนเจล หลังจากย้ายมาทำงานเป็นนักวิจัยในลอนดอน จนกระทั่งปี 2019 จึงกลายเป็นอาชีพหลัก หลังจากที่เขาได้ับรางวัลนักแสดงตลกหน้าใหม่ยอดเยี่ยม ในงานเอดินเบอระห์ ฟริง เทศกาลศิลปะการแสดงที่ใหญ่ที่สุดในโลก จัดในสกอตแลนด์
รางวัลถือเป็นการแจ้งเกิดได้ระดับหนึ่ง หลังตัดสินใจเบนเข็มจากอาชีพเก่า ไนเจล ก็เริ่มสร้างสรรค์เนื้อหาลงยูทูบและอินสตาแกรม รวมทั้งพ็อดแคสต์และติ๊กต่อก เพื่อสร้างฐานแฟนๆ บนแพลตฟอร์มออนไลน์
“การเป็นสแตนด์อัพคอมเมดี ชื่อเสียงเป็นสิ่งสำคัญ รายได้มาจากการขายตั๋วอย่างเดียวเลย การแสดงออกทีวีก็ค่อนข้างจำกัดวงของคนดูอยู่แคบๆ ช่องทางออนไลน์จึงสำคัญมากในการขยายเครือข่ายออกไป และตอนนี้ช่องยูทูบ Uncle Roger และพ็อดแคสต์ Rice to Meet You ก็เป็นไปได้สวย”
สำหรับวิดีโอแจ้งเกิดก่อให้เกิดข้อถกเถียงเป็นอย่างมาก “ตอนแรกๆ ผมก็เครียดนิดหน่อย กลัวว่า เฮอร์ชา จะโกรธ กลัวเธอจะไม่เข้าใจว่าจริงๆ แล้วมันเป็นวิดีโอตลกแค่นั้นเองนะ คุณก็รู้ว่า บนอินเทอร์เน็ต คนเราของขึ้นได้ง่ายมาก แต่โชคดีที่เฮอร์ชา เข้าใจว่าอะไรเป็นอะไร เธอยังช่วยแชร์บนอินสตาแกรมด้วยซ้ำ”
การเติบโตแบบก้าวกระโดดบนโลกออกไลน์ ถือเป็นจังหวะดีในช่วงการระบาดของ COVID-19 ที่ทำให้สแตนด์อัพคอมเมดีไม่สามารถทำมาหากินได้ “รายได้จากยูทูบแม้ไม่มากมายอะไร แต่ก็ช่วยต่อลมหายใจต่อไปได้ ซึ่งเราสามารถเพิ่มจำนวนคนดูและสมาชิกผู้ติดตามไปได้เรื่อยๆ ตอนนี้ก็ไม่ได้มีแต่เนื้อหาเกี่ยวกับเมนูข้าวผัดแล้วนะครับ”