ช่วงนี้ฝนโปรยปรายลงมาเกือบทุกวัน ช่วยผลักดันให้อากาศในบ้านเราเริ่มเย็นขึ้นมาเรื่อยๆ จนชวนให้ออกไปชอปเสื้อผ้าใส่รับลมหนาวที่กำลังจะมาถึงนี้กันดีกว่า แน่นอนว่าแฟชั่นแบรนด์ไทยก็นับว่าเป็นเทรนด์ที่ไม่ควรมองข้ามเช่นกัน ส่วนจะมีสไตล์อะไรโดนใจบ้างนั้น... คงต้องไปติดตามกัน
เริ่มจากแบรนด์ระดับท็อปลิสต์ที่หญิงสาวตั้งตารอชม “คลอเซ็ท” (Kloset) ได้หยิบเอาอารมณ์รักที่ไม่ได้หอมหวาน รักที่ซ่อนความกบฏอยู่ข้างใน มาถ่ายทอดผ่านเทคนิคลายพิมพ์ซิกเนเจอร์หลักของแบรนด์ อย่างลายพิมพ์ดอกกุหลาบที่วาดมือด้วยเทคนิคสีน้ำมัน ตวัดลายเส้นที่มีมิติสวยงามและสมจริง เพิ่มความสนุกลงบนผ้าหลากหลายมิติ ไม่ว่าจะเป็นผ้าตาข่ายเนื้อวาวที่อยู่ทรงง่าย ดูอ่อนไหวแต่มั่นคง ผ้าตาข่ายทอลายจุด และลายหัวใจ
ต่อด้วย “ซีนาดา” (Senada) นำดอกสวีตพีเป็นสัญลักษณ์สื่อถึงการถวิลหาคนรักที่จากไป และการรอคอยที่มักเคล้าระคนทั้งความสุขและความเศร้า เป็นการรอคอยให้ฤดูใบไม้ผลิหวนคืนมาอีกครั้ง หลังจากต้องผ่านฤดูหนาวอันยาวนาน โดดเด่นด้วยรายละเอียดงานฝีมือ อันเป็นสิ่งที่แบรนด์หลงใหลมาโดยตลอด อีกทั้งกระบวนการออกแบบและรังสรรค์งานแต่ละชิ้น ก็ยังเป็นผลงานแบบอินเฮาส์ล้วนๆ ในทุกขั้นตอน ทั้งงานควิลต์ (Quilting) และงานปักต่างๆ ก็ยังเป็นงานแฮนด์เวิร์กเช่นกัน
ด้าน “ชากะ” (Shaka) พาออกไปย้อนรำลึกถึงวัฒนธรรมที่ต้องมนต์เสน่ห์ ระหว่างวัฒนธรรมกรีกโบราณ และศิลปะร่วมสมัยแบบญี่ปุ่น ซึ่งเป็นการผสมผสานกันอย่างลงตัว รังสรรค์ให้เกิดงานศิลปะแบบ Heritage และ Modernity
ส่วนแบรนด์ “เลเชอร์ โปรเจกต์ส” (Leisure projects) โดดเด่นด้วยการใช้ “ปะลางิง” ผ้าทอมือจากจังหวัดยะลาที่ใช้เทคนิคการพิมพ์ลายบนผืนผ้าด้วยบล็อกไม้ และเทคนิคการแกะสลักเป็นลวดลายที่สื่อไปถึงท้องทะเลและทิวเขาอันงดงามในภาคใต้ของประเทศไทย
สำหรับ P.S. I Miss You จาก “TAKTAI” ทักทายด้วยโทนสีที่สุขุม นุ่มนวล บ่งบอกถึงความสงบในจิตใจ อย่าง สีธรรมชาติที่ไม่ผ่านการฟอก สีโอลด์โรสอ่อนๆ ตัวแทนของแสงแดดยามเช้า สีเทาและสีฟ้าหม่นที่สะท้อนความงามของก้อนเมฆและสายฝน จับคู่กับสีเขียวใบไม้และสีน้ำตาลเม็ดทราย
ปิดท้ายที่ “Rotsaniyom” กับเสื้อผ้าสไตล์ Ungendered ที่ไม่แบ่งแยกเพศ เปิดอิสระทางเพศ ที่สามารถแชร์สิ่งที่เราเป็น สิ่งที่เราชอบ ร่วมกันกับคนที่เรารัก เหมือนเราได้แชร์ของในตู้เสื้อผ้ากัน ถูกใจดีไซน์ไหนก็เลือกชอปกันให้สนุกมือที่ ศูนย์การค้าสยามเซ็นเตอร์
เริ่มจากแบรนด์ระดับท็อปลิสต์ที่หญิงสาวตั้งตารอชม “คลอเซ็ท” (Kloset) ได้หยิบเอาอารมณ์รักที่ไม่ได้หอมหวาน รักที่ซ่อนความกบฏอยู่ข้างใน มาถ่ายทอดผ่านเทคนิคลายพิมพ์ซิกเนเจอร์หลักของแบรนด์ อย่างลายพิมพ์ดอกกุหลาบที่วาดมือด้วยเทคนิคสีน้ำมัน ตวัดลายเส้นที่มีมิติสวยงามและสมจริง เพิ่มความสนุกลงบนผ้าหลากหลายมิติ ไม่ว่าจะเป็นผ้าตาข่ายเนื้อวาวที่อยู่ทรงง่าย ดูอ่อนไหวแต่มั่นคง ผ้าตาข่ายทอลายจุด และลายหัวใจ
ต่อด้วย “ซีนาดา” (Senada) นำดอกสวีตพีเป็นสัญลักษณ์สื่อถึงการถวิลหาคนรักที่จากไป และการรอคอยที่มักเคล้าระคนทั้งความสุขและความเศร้า เป็นการรอคอยให้ฤดูใบไม้ผลิหวนคืนมาอีกครั้ง หลังจากต้องผ่านฤดูหนาวอันยาวนาน โดดเด่นด้วยรายละเอียดงานฝีมือ อันเป็นสิ่งที่แบรนด์หลงใหลมาโดยตลอด อีกทั้งกระบวนการออกแบบและรังสรรค์งานแต่ละชิ้น ก็ยังเป็นผลงานแบบอินเฮาส์ล้วนๆ ในทุกขั้นตอน ทั้งงานควิลต์ (Quilting) และงานปักต่างๆ ก็ยังเป็นงานแฮนด์เวิร์กเช่นกัน
ด้าน “ชากะ” (Shaka) พาออกไปย้อนรำลึกถึงวัฒนธรรมที่ต้องมนต์เสน่ห์ ระหว่างวัฒนธรรมกรีกโบราณ และศิลปะร่วมสมัยแบบญี่ปุ่น ซึ่งเป็นการผสมผสานกันอย่างลงตัว รังสรรค์ให้เกิดงานศิลปะแบบ Heritage และ Modernity
ส่วนแบรนด์ “เลเชอร์ โปรเจกต์ส” (Leisure projects) โดดเด่นด้วยการใช้ “ปะลางิง” ผ้าทอมือจากจังหวัดยะลาที่ใช้เทคนิคการพิมพ์ลายบนผืนผ้าด้วยบล็อกไม้ และเทคนิคการแกะสลักเป็นลวดลายที่สื่อไปถึงท้องทะเลและทิวเขาอันงดงามในภาคใต้ของประเทศไทย
สำหรับ P.S. I Miss You จาก “TAKTAI” ทักทายด้วยโทนสีที่สุขุม นุ่มนวล บ่งบอกถึงความสงบในจิตใจ อย่าง สีธรรมชาติที่ไม่ผ่านการฟอก สีโอลด์โรสอ่อนๆ ตัวแทนของแสงแดดยามเช้า สีเทาและสีฟ้าหม่นที่สะท้อนความงามของก้อนเมฆและสายฝน จับคู่กับสีเขียวใบไม้และสีน้ำตาลเม็ดทราย
ปิดท้ายที่ “Rotsaniyom” กับเสื้อผ้าสไตล์ Ungendered ที่ไม่แบ่งแยกเพศ เปิดอิสระทางเพศ ที่สามารถแชร์สิ่งที่เราเป็น สิ่งที่เราชอบ ร่วมกันกับคนที่เรารัก เหมือนเราได้แชร์ของในตู้เสื้อผ้ากัน ถูกใจดีไซน์ไหนก็เลือกชอปกันให้สนุกมือที่ ศูนย์การค้าสยามเซ็นเตอร์