ก่อนจะมาเป็นซีอีโอของสายการบินฟิลิปปินแอร์ไลน์ (PAL) ลูซิโอ ตัน เคยทำงานเป็นภารโรงเพื่อส่งตัวเองเรียนหนังสือ และแม้ว่า ตอนนี้เขาจะกลายเป็นหนึ่งในเศรษฐีพันล้านของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ แต่ยังคงยืนยันว่า มือถือโนเกียรุ่นเก่า แบบที่เราเรียกว่า รุ่นอาม่า นั้น เหมาะกับเขาที่สุดแล้ว
ชีวิตในอดีตไม่ใช่เรื่องง่าย สำหรับผู้ก่อตั้งบริษัท แอลที กรุ๊ป และประธานสายการบินฟิลิปปินแอร์ไลน์ อย่าง ลูซิโอ ตัน เพราะเศรษฐีพันล้านรายนี้ ถึงกับต้องจับไม้ม็อปถูพื้น เพื่อจะหารายได้ส่งตัวเองเรียน ก่อนที่จะไต่เต้าขึ้นมาเป็นผู้กุมบังเหียนสายการบินขนาดใหญ่ของฟิลิปปินส์ได้ก็ต้องมุ่งมั่นทำงานอย่างหนัก เพราะไม่ได้คาบช้อนเงินช้อนทองมาเกิด
ลูซิโอ ต่างจากบรรดาท็อป 10 มหาเศรษฐีของฟิลิปปินส์ ที่ต่างก็เกิดมาในตระกูลร่ำรวยอยู่เป็นทุนเดิม ครอบครัวของเขามีพื้นเพจากมณฑลฝูเจี้ยนในจีนแผ่นดินใหญ่ ก่อนที่จะอพยพมายังเมืองเซบู ประเทศฟิลิปปินส์
ซีอีโอท่าทางใจดีวัย 86 ที่นิยมให้ผู้คนเรียกเขาในภาษาสเปนว่า “เอล กาปิตัน” (หรือท่านกัปตัน) ก่อร่างสร้างอาณาจักรแอลที กรุ๊ป มูลค่า 2,200 ล้านดอลลาร์สหรัฐ มาด้วยน้ำพักน้ำแรงของตัวเอง โดยเริ่มจากธุรกิจยาสูบ เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ธนาคาร ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ก่อนจะได้เป็นเจ้าของสายการบินในที่สุด
ลูซิโอ เป็นบุตรชายคนโตของครอบครัวที่มีลูกถึง 8 คน ทำให้เขาต้องช่วยพ่อแม่เลี้ยงน้องๆ และเมื่อเขาสอบเข้าเรียนสาขาวิศวกรรมเคมี ณ มหาวิทยาลัยฟาร์อีสเทิร์น ในกรุงมะนิลาได้ เขาจึงต้องหารายได้เสริม ด้วยการไปเป็นนักการภารโรงที่โรงงานยาสูบ เพื่อที่จะส่งตัวเองเรียนหนังสือ
ถูพื้นไม่ถูเปล่า ด้วยความฉลาดเฉลียว ทำให้เขาได้เรียนรู้ธุรกิจยาสูบไปด้วย กระทั่งสามารถก่อตั้งบริษัทยาสูบของตัวเอง แถมพัฒนาจนกลายเป็นโรงงานยาสูบที่ใหญ่ที่สุดของประเทศ
ลูซิโอ ตัน เห็นความสำคัญของการศึกษามาก เมื่อเขามั่งมีขึ้นมา เขาจึงตอบแทนสู่สังคมด้วยการมอบทุนการศึกษาให้นักเรียนที่ขาดแคลน โดยเฉพาะโครงการทุนการศึกษาในสาธารณรัฐประชาชนจีน ที่ผู้ได้รับทุนจะได้เรียนรู้ภาษา วัฒนธรรม และประวัติศาสตร์จีน นอกจากนี้ เขายังได้ก่อตั้งมูลนิธิเพื่อยกระดับทางการศึกษา เพื่อที่จะมอบทุนการศึกษาในประเทศฟิลิปปินส์ด้วย
“เอล กาปิตัน” ในวัย 86 ยังคงแข็งแรงฟิตปั๋ง เพราะเขาตื่นตั้งแต่ตี 4 เพื่อไปเล่นกอล์ฟทุกวัน นอกจากประวัติศาสตร์และวรรณคดีจีน รวมทั้งดนตรีคลาสสิกแล้ว กีฬา เป็นหนึ่งในหลายๆ แพสชั่นของลูซิโอ ทุกๆ วัน ระหว่างตี 4 ถึง 9 โมงเช้า เขาต้องเล่นแบบ 9 หลุมกับก๊วนกอล์ฟของเขา
แม้จะกลายเป็นเศรษฐีพันล้านแล้ว แต่อุปสรรคในชีวิตก็ยังมีเข้ามาท้าทายอยู่เรื่อยๆ ในปี 2017 เขาถูกประธานาธิบดีโรดริโก ดูเตอร์เต้ กล่าวหาว่าเป็นหนี้เงินภาษีรัฐบาลอยู่ถึง 600 ล้านดอลลาร์หรัฐ ซึ่งลูซิโอ ตันไม่ได้โต้เถียงใดๆ แต่ยินยอมจ่ายเต็มจำนวน จนประธานาธิบดีเองต้องออกมาประกาศให้รู้โดยทั่วกันว่าเรื่องนี้จบแล้ว
แน่นอนว่า มหาเศรษฐีพันล้านยังคงความร่ำรวยต่อไป เจ้าสัวระดับนี้สามารถเป็นเจ้าของสมาร์ทโฟนรุ่นไหนก็ได้ในโลก แต่บรรดานักข่าวตาผีตามดก็สังเกตเห็นว่า “เอล กาปิตัน” เจ้าของสายการบินฟิลิปปินแอร์ไลน์ พกโทรศัพท์มือถือคนเดียวถึง 4 เครื่อง และทั้งหมดเป็นโนเกีย รุ่นอาม่า!