“มหัศจรรย์กล้วยไม้แห่งแผ่นดิน” เฉลิมพระเกียรติ “พระบรมราชชนนีพันปีหลวง”

ศูนย์การค้าสยามพารากอน ร่วมกับกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม สมาคมพืชสวนแห่งประเทศไทย กรมวิชาการเกษตร กรมส่งเสริมการเกษตร และสมาคมพฤกษชาติแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ ตลอดจนพันธมิตรทางธุรกิจภาคเอกชนชั้นนำ ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน), บมจ.แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส, บมจ.พราว เรียล เอสเตท, ปอร์เช่ ประเทศไทย โดย บจก.เอเอเอส ออโต้ เซอร์วิส, บจก.อีฟ โรเช (ประเทศไทย) และ บจก.เนสท์เล่ (ไทย) จัดงาน สยามพารากอน แบงค็อก รอยัล ออร์คิด : เดอะ ไพรด์ ออฟ สยาม 2020 เชิญร่วมชมความงดงามของงานกล้วยไม้ยิ่งใหญ่ระดับประเทศ ภายใต้แนวคิด “ทั่วหล้า เทิดไท้ ถวายใจสดุดี เฉลิมพระเกียรติ ๘๘ พรรษา พระบรมราชชนนี พันปีหลวง” เพื่อเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เนื่องในโอกาสทรงเจริญพระชนมายุ ๘๘ พรรษา 12 สิงหาคม 2563

ตระการตากับความอลังการของประติมากรรมกล้วยไม้ 9 สกุล และกล้วยไม้ที่หาชมยากกว่า 880,000 ดอก พร้อมเปิดพื้นที่จำหน่ายกล้วยไม้ 9 สกุล เพื่อช่วยเหลือเกษตรกรกล้วยไม้ที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 รวมทั้งเพลิดเพลินกับกิจกรรมสำหรับคนรักกล้วยไม้มากมาย เช่น นิทรรศการ กิจกรรมเวิร์กชอปและจำหน่ายศิลปหัตถกรรมจากมูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพฯ และศูนย์ส่งเสริมศิลปาชีพระหว่างประเทศ (องค์การมหาชน) งานจัดระหว่างวันที่ 6-12 สิงหาคม 2563 ณ ศูนย์การค้าสยามพารากอน

สำหรับการตกแต่งกล้วยไม้ในงานปีนี้ ได้น้อมนำพระราชดำรัสของสมเด็จฯพระบรมราชชนนี พันปีหลวงฯ ตอนหนึ่งว่า “เมื่อพระเจ้าอยู่หัวเป็นน้ำ ฉันจะเป็นป่า..ป่าที่จงรักภักดีต่อน้ำ พระเจ้าอยู่หัวสร้างอ่างเก็บน้ำ ฉันจะสร้างป่า...” โดยมีไฮไลต์ความพิเศษอลังการสุดตระการตาของประติมากรรม ช้างเผือกคู่พระบารมี จำลองขนาดสูง 2 เมตร ท่าทางคลานหมอบ ประดับด้วยเครื่องทรงตามพระราชพิธี เพื่อเฉลิมพระเกียรติสมเด็จฯ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ซึ่งได้อาจารย์กอล์ฟ-พิทักษ์ หังสาจะระ ศิลปินนักจัดดอกไม้แนวหน้าของเมืองไทยเนรมิตพื้นที่บริเวณ Botanical Garden (โบทานิคอล การ์เด้น) ชั้น M ของสยามพารากอน ให้เป็นผืนป่าที่มีความอุดมสมบูรณ์ของกล้วยไม้นานาพันธุ์

รังสรรค์ฉากกล้วยไม้พาโนรามาสวยสดงดงามกว้างกว่า 15 เมตร สูงกว่า 10 เมตร ที่ได้แรงบันดาลใจจากรูปทรงของดอกคัทลียาพระนาม “ควีนสิริกิติ์” โดยประดับประดาด้วยกล้วยไม้ต่างๆ ทั้ง 9 สกุล ได้แก่ สกุลคัทลียา (Cattleya) , สกุลซิมบิเดียม (Cymbidium), สกุลฟาแลนนอปซิส (Phalaenopsis ), สกุลม็อคคาร่า (Mokara), สกุลรองเท้านารี (Paphiopedilum), สกุลแวนด้า (Vanda), สกุล สปาโทกลอตทิส (Spathoglottis), สกุลหวาย (Dendrobium) และสกุลออนซิเดียม (Oncidium) หลากหลายสี รายล้อมด้วยประติมากรรมนกยูงสีขาวที่ทอดหางยาวประดับด้วยดอกกล้วยไม้ฟาแลนนอปซิสสีขาว, เหล่ากินรี ที่สื่อถึงความงดงามดั่งสรวงสรรค์ และประติมากรรมกวางที่ประดับด้วยดอกกล้วยไม้มายืนอวดโฉมคอยต้อนรับ พร้อมหลากหลายมุมถ่ายรูปสุดอลังการที่ให้ผู้เข้าชมงานได้สัมผัสสีสันความงดงามของหมู่มวลดอกกล้วยไม้ไทย จัดแสดงที่บริเวณ Jewel Zone (จีเวล) ชั้น M

สำหรับพื้นที่ Hall of Fame ชั้น M รังสรรค์พื้นที่เสมือนอยู่ภายในท้องพระโรง และวนอุทยาน โดยผลงานการจัดดอกกล้วยไม้จาก อาจารย์ป้อม-ปราโมทย์ การัมย์ นักจัดดอกไม้ที่มีชื่อเสียง ภายในบริเวณพื้นที่ประกอบด้วยพานพุ่มวิจิตรประดับตราสัญลักษณ์ ฉัตรดอกไม้ และการร้อยกรองดอกไม้หลากหลายรูปแบบ เพื่อแสดงให้เห็นถึงศาสตร์และศิลป์แขนงต่างๆ ที่สมเด็จฯพระบรมราชชนนีพันปีหลวงทรงสืบสาน รักษาให้รุ่งเรืองคงอยู่ พร้อมใช้เทคนิคงานดอกไม้ไทย เช่น งานเย็บร้อยค่อยจีบมาจัดประดับร่วมกับดอกกล้วยไม้และดอกไม้ไทยที่รังสรรค์อย่างวิจิตรงดงาม

ภายในงานยังจัดฉายวีดิทัศน์ที่รวบรวมพระราชกรณียกิจของสมเด็จฯ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง จำนวน 88 ตอน ตลอดจนประชาชนยังสามารถร่วมถวายพระพรสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เนื่องในโอกาสทรงเจริญพระชนมายุ ๘๘ พรรษา 12 สิงหาคม 2563

นอกจากนี้ ผู้เข้าชมงานยังสามารถชื่นชมความงดงามของกล้วยไม้พระราชทานนามหลากหลายสายพันธุ์ และกล้วยไม้สายพันธุ์ที่หาชมได้ยาก อาทิ กล้วยไม้รองเท้านารีสีดำ ที่หาชมได้ยาก เป็นกล้วยไม้ที่ถูกผสม เพื่อพัฒนาสายพันธุ์ให้ไปถึงจุดสูงสุดด้านสี และกล้วยไม้สายพันธุ์ใหม่ สกุลลิ้นมังกร กล้วยไม้ดินที่มีศักยภาพในการพัฒนาเป็นกล้วยไม้ประดับชนิดใหม่ ที่ค้นพบในประเทศไทยมาจัดแสดงในงานอีกด้วย