เครื่องประดับไม่เพียงแต่จะเป็นแอคเซสเซอรี ที่ทำให้ผู้สวมใส่ดูสวยโดดเด้งขึ้นมาเท่านั้น แต่จะยิ่งสวยเฉิดฉายมากขึ้นไปอีก เมื่อเครื่องประดับชิ้นสุดรักแสนหวงชิ้นโปรดนั้น ได้รับมาจากบุคคลอันเป็นที่รัก วันนี้ Celeb Online จะพาไปเปิดกรุเครื่องประดับชิ้นโปรด ของเหล่าบรรดาเซเลบระดับเอลิตส์ของเมืองไทย ว่ามีเครื่องประดับสุดรักแสนหวงชิ้นไหนบ้าง ที่พวกเขาใส่ติดกายเป็นประจำ จนไม่อยากจะถอดออกแม้แต่วินาทีเดียว
เริ่มที่นักธุรกิจสาวเก่งหัวใจงาม ขวัญ-ม.ล. พลอยนภัสร ลีนุตพงษ์ บอกเล่าถึงเครื่องประดับชิ้นโปรด อย่าง แหวนเพชรรูปหัวใจ ที่เธอใส่ติดนิ้วนางข้างซ้ายไว้ไม่เคยห่างกายมาจนถึงทุกวันนี้ว่า แหวนวงนี้ถึงแม้ไม่ใช่แหวนหมั้นที่ใช้ในวันเข้าพิธีสมรสของเธอกับสามี (อภิชาติ ลีนุตพงษ์) แต่เป็นแหวนเพชรที่สามีเธอซื้อให้ด้วยความรักและความใส่ใจ เธอจึงรักและหวงแหนแหวนวงนี้เป็นที่สุด ใส่ติดกายไม่เคยห่างประหนึ่งเป็นตัวแทนความรักของสามีที่มีต่อเธอ
“แหวนหมั้นที่คุณแม่พี่นัทเตรียมไว้ให้เราในวันแต่งงานเป็นแหวนที่ล้ำค่าและมีค่ามากจนขวัญไม่กล้าใส่ในวันปกติทั่วไป ดังนั้น เราจึงเก็บแหวนวงนี้ไว้ แต่สำหรับแหวนเพชรรูปหัวใจนั้น เป็นแหวนที่พี่นัทซื้อมาเซอร์ไพรส์เรา เพราะมีอยู่วันหนึ่งเมื่อ 4-5 ปีที่แล้ว ขณะที่เรากำลังเดินชอปปิ้งอยู่ และเดินผ่านร้านเจมส์ พาวิลเลียน เกิดสะดุดตากับแหวนวงนี้มาก ถึงขั้นไม่เดินต่อไปไหน ตรงปรี่เข้าไปถ่ายรูปแหวนวงนี้แล้วส่งไปให้พี่นัทดูว่าสวยมาก ผ่านมาประมาณ 4-5 วัน เราทั้งคู่ไปทานอาหารเย็นด้วยกัน และปรากฏว่าพี่นัทซื้อแหวนวงนั้นมาให้ ซึ่งขวัญดีใจและประทับใจที่สุด ไม่คิดว่าพี่นัทจะซื้อให้” ราชนิกูลสาวเล่าย้อนความทรงจำ
ขวัญเล่าต่อว่า เพื่อเป็นการตอบแทนความรักและความใส่ใจที่สามีมีต่อเธอ ทุกวันนี้ไม่ว่าจะนอนหรือตื่น เธอไม่เคยถอดแหวนวงนี้ออกจากนิ้วนางข้างซ้ายเลยแม้แต่วันเดียว
ส่วน แพร-พัณณิตา ณ.ส. สนิทวงศ์ ณ อยุธยา ลูกสาวสุดรักสุดหวงของ คุณพ่อกษิดิศ สนิทวงศ์ ณ อยุธยา และคุณแม่ฐิติพร ณ.ส. สนิทวงศ์ ณ อยุธยา เล่าถึงเครื่องประดับชิ้นโปรดที่ใส่ติดกายเป็นประจำก็คือ นาฬิกาคาร์เทียร์ อันเป็นเครื่องประดับที่คุณแม่ให้เป็นของขวัญวันเรียนจบปริญญาโท เมื่อ3 ปีที่แล้ว และทุกวันนี้เธอก็ใส่ติดกายเป็นประจำ
“เครื่องประดับชิ้นโปรดที่แพรขาดไม่ได้เลยคือ นาฬิกา ที่คุณแม่ท่านมอบให้แพรเมื่อครั้งที่เรียนจบปริญญาโท ซึ่งความพิเศษของนาฬิกาคือ ด้านหลังได้สลักชื่อของคุณแม่ไว้ด้วย จึงเปรียบเสมือนว่าความรักที่คุณแม่มีให้เรานั้นอยู่เหนือกาลเวลาและไม่เคยเปลี่ยนไป ดังนั้น ไม่ว่าจะทำกิจกรรมอะไรแพรจะใส่นาฬิกาเรือนนี้ติดกายไว้เสมอ เพราะนาฬิกานอกจากจะเป็นเครื่องประดับที่สวยเรียบหรูแล้ว ยังมีความคลาสสิกเหนือกาลเวลาอีกด้วย”
ขณะที่ เจ้าแม่ดิสนีย์ของเมืองไทย แพร-แพรพรรณ ธรรมวัฒนะ นักธุรกิจสาวไฟแรงบอกว่า เครื่องประดับสุดรักที่เจ้าตัวใส่ติดกายอยู่เป็นประจำนั้น มีอยู่ถึง 3 ชิ้น ประกอบด้วย ตุ้มหูเพชรข้างละ3 กะรัต นาฬิกา Patek Philipe 7071R และแหวนพระที่เจ้าประคุณ สมเด็จพระมหาธีราจารย์ เจ้าอาวาสวัดยานนาวา ให้มาเมื่อต้นปีที่ผ่านมา ซึ่งเครื่งประดับทั้ง3 ชิ้น ล้วนมีเรื่องราวความประทับใจที่ทำให้นักธุรกิจสาวรักและผูกพันเป็นอย่างมาก
“ตุ้มหูเพชรเม็ดข้างละ3 กะรัตนั้น คุณแม่ซื้อให้เป็นของขวัญเมื่อครั้งที่แพรเข้าเรียนมหาวิทยาลัย ซึ่งโดยส่วนตัวแล้ว แพรเป็นคนชอบใส่ต่างหูอยู่แล้ว เพราะเป็นเครื่องประดับที่ใส่ได้กับทุกชุด ที่สำคัญเป็นของขวัญที่คุณแม่ซื้อให้ด้วย แพรจึงใส่ทุกวันเหมือนมีคุณแม่อยู่ด้วย ส่วนนาฬิกา Patek Philipe 7071R แพรเพิ่งซื้อเป็นของขวัญให้ตัวเองเมื่อไม่นานมานี้ และเป็นนาฬิกาเรือนแรกที่ซื้อด้วยน้ำพักน้ำแรงของเราเอง เพราะที่ผ่านมาแพรจะใส่นาฬิกาที่คุณแม่ให้ และนาฬิกาเรือนนี้ราคาค่อนข้างแรง แพรจึงภูมิใจมากที่เราซื้อเครื่องประดับชิ้นนี้ด้วยเงินของตัวเอง และแหวนพระซึ่งเป็นแหวนที่เจ้าประคุณ สมเด็จพระมหาธีราจารย์ เจ้าอาวาสวัดยานนาวาท่านให้มาเมื่อต้นปี แพรจะสวมใส่ไว้ที่นิ้วกลางข้างขวาตลอดเวลา เปรียบประหนึ่งว่า มีพระพุทธคุณคอยปกปักษ์คุ้มครองเรา ซึ่งนอกจากจะเป็นที่พึ่งทางใจแล้ว ยังเป็นเครื่องประดับที่ทำให้เราดูเก๋อีกด้วย ดังนั้น เครื่องประดับทั้ง3 ชิ้นนี้แพรจึงรักและหวงแหนมากค่ะ” เจ้าแม่ดิสนีย์เมืองไทยเล่าด้วยน้ำเสียภาคภูมิใจ
ปิดท้ายที่เจ้าแม่โปรเจกต์แห่งยุค เปเป้-วาริธร กันท์ไพบูลย์ นักธุรกิจหญิงไฟแรงอีกคนที่นอกจากจะเพิ่งเปิดแบรนด์น้ำตาลโตนด “ตาลสยาม” Tansiam ไปเมื่อเร็วๆ นี้ แถมวันที่ 2 ธ.ค.นี้ เจ้าตัวยังจะเปิดตัวร้านชานมไข่มุกที่ใช้น้ำตาลโตนด อย่างร้าน “ราก” (Raak) ได้เปิดใจเล่าถึงเครื่อประดับชิ้นโปรดแสนมีค่าสำหรับเธอว่า เป็นแหวนเพชรของคุณย่าที่มอบไว้ให้เธอ ก่อนที่คุณย่าจะเสียชีวิต ถึงแม้เธออาจจะไม่รู้ราคาค่างวดว่าแหวนเพชรเม็ดนี้มีราคาเท่าไหร่ หากแต่มีคุณค่าและความหมายทางใจกับเธออย่างหาที่สุดไม่ได้
“คุณย่าได้ฝากแหวนเพชรที่ท่านใส่ติดกายเป็นประจำ ไว้ให้กับคุณพ่อเพื่อให้หลานสาวก่อนที่ท่านจะเสียชีวิต เพราะตอนที่เป้ได้รับแหวนจากคุณพ่อตอนอายุได้ 10 ขวบ ตอนนั้นคุณย่าได้เสียชีวิตไปแล้ว ซึ่งตอนเป็นเด็กเราเห็นว่าแหวนเพชรที่คุณย่าให้นั้นมันดูใหญ่เกินไปเราจึงไม่ได้ใส่ แต่เมื่อพอเร่ิมโตขึ้นเรารู้สึกว่าอยากใส่เครื่องประดับอะไรสักชิ้น จึงเอาแหวนเพชรของคุณย่ามาใส่ ซึ่งลักษณะแหวนเพชรอาจจะดูโบราณไม่เป็นที่นิยมของคนสมัยใหม่แล้วก็ตาม แต่เป้มองว่า มันเป็นของที่คุณย่าท่านต้ังใจจะมอบให้กับหลานสาว ซึ่งมันเป็นสิ่งที่แสดงให้เห็นถึงความรักและความห่วงใยที่คุณย่ามีต่อเรา ดังนั้นเป้ไม่เคยมีความคิดจะนำแหวนที่คุณย่าให้ไปดัดแปลงทำใหม่เพื่อให้เข้ากับยุคสมัย เรายินดีและมีความสุขที่จะใส่แหวนดั้งเดิมของคุณย่า เพราะนอกจากจะเป็นเครื่องประดับประจำกายของเราได้แล้ว การใส่แหวนวงนี้ยังทำให้เราระลึกถึงความรักของคุณย่าอยู่ตลอดเวลาด้วยค่ะ” เปเป้ เล่าปิดท้าย