xs
xsm
sm
md
lg

นิทรรศการมัลติมีเดียครั้งใหม่ FROM MONET TO KANDINSKY REVOLUTIONARY ART

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


>>การปฏิวัติแห่งวงการศิลปะนำเสนอผ่านภาพที่คมชัดและระบบเสียง Dolby Surround จัดแสดงตั้งแต่ วันที่ 31 สิงหาคม ถึง 8 พฤศจิกายน 2562 ณ อาร์ซีบี แกลเลอเรีย ชั้น 2 ริเวอร์ ซิตี้ แบงค็อก

หลังจากประสบความสำเร็จอย่างมากในเยอรมนีและรัสเซีย นิทรรศการมัลติมีเดีย FROM MONET TO KANDINSKY REVOLUTIONARY ART จะจัดแสดงตั้งแต่วันที่ 31 สิงหาคม ถึง 8 พฤศจิกายน

FROM MONET TO KANDINSKY REVOLUTIONARY ART นำเสนอลัทธิศิลปะที่สำคัญที่สุดในช่วงปลายศตวรรษที่ 19 และต้นศตวรรษที่ 20 คือ ลัทธิประทับใจ (Impressionism) ลัทธิผสานจุดสี (Pointilism) ลัทธิประทับใจยุคหลัง (Post-Impressionism) ลัทธิคิวบิสม์ (Cubism) และลัทธิแสดงพลังอารมณ์ (Expressionism) ซึ่งพัฒนาการทางศิลปะอันรวดเร็วนี้ถ่ายทอดผ่านผลงานของ 10 ศิลปินระดับมาสเตอร์แห่งศิลปะสมัยใหม่ (Modernism) ที่ผสมผสานกับเทคนิคการฉายโปรเจ็กเตอร์ที่คมชัด ภาพกราฟิคเคลื่อนไหวได้ และดนตรีประกอบ ศิลปินทั้ง 10 คน ไม่ว่าจะเป็นโคลด โมเนต์ (Claude Monet) จอร์จส์ เซอราต์ (Georges Seurat) พอล โกแก็ง (Paul Gauguin) ฟินเซ็นต์ ฟาน ก็อกฮ์ (Vincent Van Gogh) เอ็ดเวิร์ด มุงค์ (Edvard Munch) พอล เซซานน์ (Paul Cezanne) ฮวน กริซ (Juan Gris) โรแบต์ เดอโลเนย์ (Robert Delaunay) พอล เคล (Paul Klee) วาซิลี คันดินสกี (Wassily Kandinsky) ศิลปินทั้งหมดนี้มีสิ่งที่เหมือนกันคือความต้องการอันแรงกล้าที่จะเปลี่ยนศิลปะไปสู่อีกขั้นเพื่อค้นหารูปแบบใหม่และก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญของยุคสมัย
จาก Object Art สู่ภาพ “Black Square”

FROM MONET TO KANDINSKY REVOLUTIONARY ART คือการเดินทางไปสู่โลกแห่งศิลปะในช่วงเปลี่ยนศตวรรษซึ่งเกิดการปฏิวัติต่างๆ มากมาย ไม่เพียงแค่การเปลี่ยนแปลงทางการเมือง แต่รวมถึงสงครามที่ทำให้สังคมสั่นคลอนอย่างมาก อีกทั้งการปฏิวัติอุตสาหกรรมก็ประสบความสำเร็จ ทุกๆ ปีเกิดสิ่งประดิษฐ์ชิ้นใหม่ในชีวิตประจำวัน ไม่ว่าจะเป็นเครื่องโทรสาร กระบวนการดาแกโรไทป์ (Daguerreotype) อันมีบทบาทสำคัญต่อการถ่ายภาพ นอกจากนี้มีวิทยุ ไฟฟ้า เครื่องบิน และอื่นๆ อีกมากมาย อีกทั้งเป็นช่วงเวลาที่ก่อกำเนิดศิลปะลัทธิใหม่ ซึ่งทั้งหมดจัดอยู่ในกลุ่ม “ศิลปะสมัยใหม่”

ในช่วงต้นศตวรรษที่ 19 ภาพในอุดมคติและรูปแบบของศิลปะที่ร่ำเรียนกันมานั้นไม่เข้ากับยุคสมัยและความเป็นจริงอีกต่อไป ศิลปินอิมเพรสชั่นนิสม์ (Impressionist) เป็นกลุ่มแรกๆ ที่แสวงหาสุนทรียะใหม่ในเวลานั้นโดยถ่ายทอดผ่านภาพคนธรรมดาและสิ่งที่พบเห็นในชีวิตประจำวัน หลังจากเกิดสิ่งนี้นำร่องนี้ขึ้นมาก็เกิดการเปลี่ยนแปลงตามมามากมายและพลิกผันไปอย่างสิ้นเชิง วิธีการทางวิทยาศาสตร์ของการผสานจุดสี (pointillism) และฝีแปรงอันเต็มไปด้วยอารมณ์ความรู้สึกของฟาน ก็อกฮ์ (Van Gogh) รวมถึงภาพของหญิงสาวบนเกาะตาฮิติของโกแก็ง (Gauguin) ที่ได้แรงบรรดาลใจมาจากศิลปะของอนารยชน (Primitive Art) และการหมั่นเพียรศึกษาเพื่อค้นหาวิธีการใหม่ๆ ในการนำเสนอรูปทรงและมิติของเซซานน์ (Cezanne) ทั้งหมดนี้ทำให้ต่างไปจากอดีตที่ผ่านมาอย่างมากและในขณะเดียวกันก็กลายเป็นพื้นฐานไปสู่ลัทธิศิลปะคิวบิสม์ (Cubism) และศิลปะลัทธิแสดงพลังอารมณ์ (Expressionism) ซึ่งเปลี่ยนโฉมหน้าของงานวิจิตรศิลป์และเปิดทางไปสู่อีกขั้นหนึ่งของความเข้าใจ นอกจากนี้จิตรกรบางคนต้องการสร้างสรรค์โลกของตนเองขึ้นมาด้วยการลอกเลียนแบบสิ่งที่แวดล้อมเขา ดังนั้น ศิลปะจึงไม่ได้นำเสนอเพียงแค่ชีวิตมนุษย์อีกต่อไปแต่นำเสนอโลกส่วนตัวที่ล้ำขึ้นไปอีกขั้น ดังเช่น คาซีมีร์ มาเลวิช (Kazimir Malevich) นักอุดมคติแห่งศิลปะลัทธิอนุตรนิยม (Suprematism) กล่าวไว้ว่าภาพในเชิงนามธรรมโดยปราศจากสิ่งใดๆ เท่านั้นที่เรียกได้ว่าเป็น “ศิลปะอันบริสุทธิ์” (pure art) ที่ทำให้พลังแห่งศิลปะของมนุษย์เทียบเคียงได้กับขุมพลังแห่งธรรมชาติ


FROM MONET TO KANDINSKY REVOLUTIONARY ART นำเสนอผลงานของ 10 ศิลปินผู้ขับเคลื่อนลัทธิศิลปะหรือผู้เป็นตัวแทนของลัทธินั้น เป็นการฉายภาพบนจอขนาดใหญ่และในมุมต่างๆ ของห้องมัลติมีเดีย เกือบหนึ่งชั่วโมงที่ผู้ชมจะได้ดำดิ่งไปในโลกแห่งงานจิตรกรรมชิ้นเยี่ยม ผลงานมาสเตอร์พีซที่มีชื่อเสียงจากพิพิธภัณฑ์ต่างๆ ทั่วโลกคืนกลับมามีชีวิตอีกครั้งด้วยเทคโนโลยีดิจิตอลเพราะเมื่อหนึ่งร้อยปีที่แล้ว ผลงานศิลปะของศิลปินกลุ่มโมเดิร์นนิสต์เบิกทางไปสู่อนาคตแห่งเทคโนโลยีการฉายภาพเปลี่ยนจากภาพหนึ่งไปเป็นอีกภาพราวกับมีชีวิตและเคลื่อนไหวไปพร้อมกับท่วงทำนองเพลงและสายธารแห่งสีสันและเสียง เทคโนโลยีมัลติมีเดียเนรมิตให้ความฝันของศิลปินกลุ่มโมเดิร์นนิสต์หลายคนที่ปรารถนาจะผสมผสานสีและดนตรีไว้ด้วยกันให้กลายเป็นจริงขึ้นมาได้

การออกแบบและโปรดักชั่นนิทรรศการ FROM MONET TO KANDINSKY REVOLUTIONARY ART สร้างสรรค์ขึ้นโดย VISION MULTIMEDIA PROJECTS บริษัทรัสเซียและเยอรมนีที่มีผู้เชี่ยวชาญด้านการออกแบบ โปรดักชั่น และนิทรรศการที่จัดแสดงตามที่ต่างๆ ในรูปแบบมัลติมีเดีย เทคโนโลยีที่นำมาใช้เนรมิตนิทรรศการต่างๆ คือ
ภาพกราฟิคอนิเมชั่น บีมเมอร์ (beamer) นับสิบตัวที่มีความคมชัด รวมถึงจอขนาดใหญ่และเสียงรอบทิศทาง ซึ่งนิทรรศการที่ประสบความสำเร็จมาแล้ว เช่น «Bosch. Visions Alive» and «Michelangelo. The Creation». «Hieronymus Bosch. Visions Alive» จัดแสดงที่ Alte Münze Berlin ในเดือนกรกฎาคม ปี 2016 ถึงมิถุนายน 2017

นิทรรศการ FROM MONET TO KANDINSKY REVOLUTIONARY ART จะแสดงควบคู่ไปกับ ITALIAN RENAISSANCE ตั้งแต่วันที่ 31 สิงหาคม ถึง 8 พฤศจิกายนนี้ เท่านั้น ที่ RCB Galleria ชั้น 2 บัตรราคา 350 บาท (ผู้ใหญ่) 250 บาท (เด็ก 4 ขวบขึ้นไป / นักเรียนและนักศึกษาถึงระดับปริญญาตรี / ผู้อาวุโส 60 ปีขึ้นไป) ส่วนท่านที่ยังไม่มีบัตรเข้าชมสามารถซื้อได้ที่ https://bit.ly/2UfjVze

* FROM MONET TO KANDINSKY REVOLUTIONARY ART ความยาวประมาณ 1 ชั่วโมงจะฉายอัตโนมัติต่อจาก ITALIAN RENAISSANCE


















กำลังโหลดความคิดเห็น