แทบจะเป็นเรื่องธรรมดาในสมัยนี้ ที่สโมสรกีฬาในยุโรป โดยเฉพาะ สโมสรฟุตบอล จะมีมหาเศรษฐีจากตะวันออกกลาง โดยเฉพาะ บรรดาเชื้อพระวงศ์ชาวอาหรับ ต่างขนเงินไปฮุบซื้อเข้าเป็นเจ้าของสโมสรกีฬา หรือสโมสรฟุตบอลกันอย่างต่อเนื่อง แต่แทบทั้งสิ้นก็ล้วนเป็นแต่ท่านชีค หรือเจ้าชายแทบทั้งสิ้น ที่กลายเป็นประธานหรือเจ้าของสโมสรคนใหม่
แต่เจ้าหญิงนูราห์แห่งซาอุดิอาระเบีย ก็ได้ทำสิ่งที่ท้าทายความเชื่อและประเพณีโบราณ ด้วยการทุ่มเงินเข้าซื้อ “สโปเลโต” สโมสรฟุตบอลเล็กๆ ระดับกึ่งอาชีพในอิตาลี
ทันทีที่ เจ้าหญิง นูราห์ บินท์ ซาอัด ได้รับการประกาศอย่างเป็นทางการ ผ่านสโมสรในการเข้าครองสิทธิ์บริหารสโมสรฟุตบอลนี้ ก็ได้เข้าร่วมงานแถลงข่าวทันที พร้อมกล่าวว่า “เพราะฟุตบอลคือสิ่งที่ครอบครัวของเธอชื่นชอบ และอิตาลีก็เป็นหนึ่งในประเทศที่มีคนติดตามฟุตบอลมากที่สุดประเทศหนึ่งของโลก นั่นคือเหตุผลว่า ทำไมเธอถึงเลือกที่จะมาลงทุนซื้อสโมสรฟุตบอลแห่งนี้ แน่นอนว่า สโมสรนี้ยังคงเป็นสโมสรเล็กๆ แต่นั่นก็เป็นแรงบันดาลใจที่ดี ในการวางเป้าหมายที่จะพาสโมสรนี้ก้าวขึ้นไปประสบความสำเร็จในระดับที่สูงขึ้น แน่นอนไม่ใช่แค่เรื่องฟุตบอล เธอยังอยากที่จะทำให้เมืองนี้กลายเป็นที่รู้จักมากขึ้นอีกด้วย”
ภายหลังจากการแถลงข่าว บรรดาสื่อมวลชนทั้งในอิตาลีและซาอุฯ เอง ต่างวิเคราะห์ว่า เจ้าหญิงนูราห์ เป็นอีกหนึ่งคลื่นความเคลื่อนไหวของสิทธิสตรีในซาอุฯ ในช่วงปีที่ผ่านมาซาอุดิอาระเบียถือได้ว่ามีการเปิดกว้างต่อสิทธิสตรีมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการออกกฎหมายที่ให้เสรีภาพกับผู้หญิงในเรื่องต่างๆ มากขึ้น การเปิดโอกาสให้ผู้หญิงทำอาชีพได้เช่นเดียวกับผู้ชาย อย่างเช่น ยาสมีน อัล ไมมานี ที่ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นกัปตันสายการบินพาณิชย์ผู้หญิงคนแรกของซาอุฯ เมื่อเดือนที่ผ่านมา หรือแม้กระทั่ง อาซีล อัล ฮามัด ก็สร้างประวัติศาสตร์ ที่ได้เป็นนักแข่งรถฟอร์มูลาร์ วัน หญิงคนแรกของซาอุฯ เช่นกัน