ช่วงนี้ “ชานมไข่มุก” นับเป็นเครื่องดื่มยอดฮิตจากไต้หวัน ที่แฝงตัวอยู่ทุกซอกทุกมุม บางร้านมีคนรอคิวซื้อยาวเหยียดเป็นกิโล เรียกว่าฮอตฮิตระดับโลกเลยก็ว่าได้ แม้แต่ร้านกาแฟแบรนด์หรู อย่าง สตาร์บัคส์ ยังต้องเกาะกระแส ด้วยการเปิดตัวเมนูใหม่ที่หน้าตาดูละม้ายคล้ายชานมไข่มุก ขณะเดียวกัน S&P ก็เปิดขายชาไข่มุกสูตรต้นตำรับ อย่าง Bubble Cup by S&P ในร้านทุกสาขาเช่นเดียวกัน ส่วนสายการบินแอร์เอเชีย ก็ยังเอาใจคนติดชานมไข่มุก ด้วยการนำขึ้นไปขายบนเครื่องบินอีกด้วย
ด้วยปรากฏการณ์สุดร้อนแรงนี้เอง บรรดาเซเลบเสือปืนไวเมืองไทย จึงเกาะกระแสของชานมไข่มุก ขอรวยก่อนใคร ด้วยการเปิดร้านขายชานมไข่มุก ทั้งที่ผลิตคิดสูตรเองจนติดลมบนเป็นแบรนด์ดังระดับโลก หรือบางคนก็นำเข้าเครื่องดื่มชานมไข่มุกมาจากแบรนด์ดังระดับโลก อันเป็นต้นตำรับชานมไข่มุกที่แท้จริงมาขาย ซึ่งแต่ละร้านนั้นมีลูกค้ามาต่อแถวซื้อกันยาวเหยียด แต่จะมีเซเลบคนไหนบ้างที่หันมาเปิดร้านชานมไข่มุกรีบตามไปดูกันเลยคร่า
เพิ่งฉลองครบรอบ 2 ปีของการเปิดกิจการปิ้งย่างเกาหลี Nice Two Meat U ที่สยามสแควร์ซอย 3 ไปได้ไม่นาน สองหุ้นส่วนคนขยัน “เกศ-ชุติมา เปรื่องเมธางกูร” และ “แนท-นันทนัช เอื้อศิริทรัพย์” ก็เกิดไอเดียเด็ดกระตุ้นยอดขายด้วยการเปิดร้านกาแฟข้างๆ กัน เพื่อเน้นบริการเสิร์ฟของหวานครบครันภายใต้ชื่อร้านว่า Seoulcial Club ที่มีการตกแต่งร้านแนวคิกขุน่ารัก และมีบริการที่นั่งสำหรับลูกค้า แต่ด้วยทั้งสองหุ้นส่วนคนสำคัญชอบตระเวนชิมอาหารไปทั่วโลก และประกอบกับกระแสชานมไข่มุกกำลังเป็นที่นิยม จึงเปิดตัวเครื่องดื่มใหม่ ชานมเสือพ่นไฟ (Fire Tiger) ซึ่งได้แรงบันดาลใจมาจากชานมไข่มุกไต้หวัน ภายใต้ชื่อแบรนด์ว่า Fire Tiger By Seoulcial Club อันเป็นแบรนด์ชานมไข่มุกสัญชาติไทยอย่างแท้จริง
เกศเล่าต่อว่ากว่าจะมาเป็นแบรนด์เสือพ่นไฟ ที่มีลูกค้าต่อคิวยาวเหยียดได้ขนาดนี้ ต้องลองผิดลองถูกมาหลายครั้ง แม้แต่ลงทุนจ้างชาวไต้หวันมาสอนชงอยู่ 2 เดือน แต่ก็ไม่ได้ดังใจ เจ้าตัวจึงลองผิดลองถูกเอง และตกผลึกเป็นสูตรเสือพ่นไฟรสชาติถูกปากคนไทยอยู่ในทุกวันนี้
“ชานมไต้หวันต้องใส่ครีมเทียมแบบผงเป็นส่วนผสมสำคัญ ขณะที่ ผลจากการทำวิจัยระบุว่า ลูกค้าที่ซื้อเครื่องดื่มหวานหรือขนมหวานนั้น ยังคงต้องการความเข้มข้นและวัตถุดิบที่ดีเป็นหลัก เราจึงนำน้ำตาลทรายแดงและน้ำตาลทรายดำมาเป็นส่วนผสมหลัก และที่สำคัญ ตัวไข่มุกนั้นเรานำเข้าจากไต้หวันโดยตรง และไข่มุกที่ร้านเราจะมีการเคี่ยวไว้ตลอดเวลา เพื่อรักษาสภาพไข่มุกไม่ให้หนืดจับตัวเป็นก้อน และเมื่อผ่านไปครึ่งชั่วโมงไข่มุกยังไม่ได้ขาย เราจะเอาทิ้งทันที ดังนั้น เราจึงขายชานมในราคาที่สูงกว่าแบรนด์อื่น เพราะต้องมีค่าใช้จ่ายในการดูแลรักษามาตรฐานของไข่มุกให้คงที่”
เกศในฐานะผู้คิดค้นสูตรเล่าว่า ทุกวันนี้เธอมีชานมไข่มุกในตระกูลเสือถึง7 อย่างด้วยกันคือ เสือพ่นไฟ นมพ่นไฟ ราชาเสือ ราชินีเสือ ลูกเสือ เสือดาว และเสือหิมะ ที่เพิ่งเปิดตัวไปเมื่อไม่นาน
“ตอนที่เราจะตั้งชื่อแบรนด์นั้น เราคิดกับหุ้นส่วนไว้หลายชื่อมาก เดิมทีจะเอาปีเกิดของเราทั้งสองมาตั้ง แต่สุดท้ายมาลงตัวที่ เสือพ่นไฟ เพราะเสือนั้นสามารถนำมาตั้งชื่อได้หลากหลาย จึงทำให้เราสนุกเวลาที่จะคิดสูตรใหม่ๆ ขึ้นมา ตอนนี้มีหน้าร้านเปิดขายทั้งหมด 6สาขา และได้ขายแฟรนไชส์ให้กับลูกค้าในต่างประเทศไปแล้ว 4ประเทศคือ อังกฤษ สหรัฐอเมริกา อินโดนีเซีย และมาเลเซีย ส่วนในปีหน้าก็จะนำแบรนด์นี้เข้าตลาดหลักทรัพย์ เพื่อให้คนไทยได้ร่วมเป็นเจ้าของและภาคภูมิใจในแบรนด์คนไทยอย่างแท้จริง”
ขณะที่ “โก้-กฤตพณ ทัพพะรังสี” ซีอีโอหนุ่มแห่ง ฟู้ด แอนด์ ดริ้งค์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด พร้อมทีมนักธุรกิจไฟแรง ชเนษฏ์ ชื่นชูจิตต์ และสินิสธรา รติมาศ ที่ลงขันกันนำความอร่อยของเครื่องดื่มพรีเมียมอันดับหนึ่งจากไต้หวัน “CoCo Fresh Tea & Juice” มาบริการแก่นักดื่มชาวไทย
โก้เล่าถึงที่มาว่า ตัวเขาเป็นคนชอบทานชามากอยู่แล้ว เลยคิดว่าคนไทยน่าจะมีแบรนด์ดีๆ จากไต้หวัน อันเป็นประเทศที่ขึ้นชื่อเรื่องชานมไข่มุกอยู่แล้ว ได้ลองทานกัน
“ผมตัดสินใจบินไปชิมถึงไต้หวันเลย ถามเพื่อนที่นั่นว่ามีแบรนด์อะไรดังๆ บ้าง ได้มาเกือบสิบแบรนด์ แต่พอไปลองก็ชอบโคโค่ที่สุด เพราะรสชาที่ทั้งหอม นุ่มนวล และอร่อยจนติดใจ ซึ่งความอร่อยของชานมไข่มุกทั้งหมดอยู่ที่ตัวชา ถ้าชาไม่มีคุณภาพก็ไม่หอม ชานมของโคโค่หอมมาก เป็นชาพันธุ์อัสสัมชั้นดี” คุณพ่อลูกสองเผยเคล็ดลับ
โก้เล่าต่อว่าวัตถุดิบทุกอย่างในร้านโคโค่นั้นนำเข้ามาจากไต้หวันทั้งหมด และวิธีการชงแต่ละแก้วนั้นก็มีเทรนเนอร์จากไต้หวัน มาสอนตามสูตรอย่างเป๊ะทุกขั้นตอน ตั้งแต่การเตรียมใบชา
“เราเอาใบชามาต้มสดๆ ที่ร้าน ต้องขออนุญาต อย.ด้วย เวลาคนต้องคนตามเข็มนาฬิกา คนทวนไม่ได้ เตาก็ต้องเตาไฟฟ้า มีนาฬิกาจับเวลาเลยว่าต้องคนกี่ครั้ง และชาที่ต้มเสร็จเก็บได้แค่สามชั่วโมง พอเกินเวลาต้องเททิ้ง เพราะทางไต้หวันบอกว่าถ้าไม่ทำอย่างนั้นรสชาจะเปลี่ยน ไข่มุกนี่ก็ต้องใส่ถังไว้สี่ชั่วโมง น้ำแข็งที่ใช้เราก็ผลิตเอง น้ำต้องสะอาด เครื่องทำน้ำแข็งก็ต้องรุ่นนี้เท่านั้น น้ำที่ใช้ต้องผ่านระบบกรองน้ำที่ได้มาตรฐาน นอกจากชาและไข่มุกแล้ว นมเองก็ต้องใช้นมนำเข้าจากไต้หวันด้วย” โก้เล่าถึงความพิถีพิถันในการผลิตชานมไข่มุกแต่ละแก้ว
หลังจากสร้างปรากฏการณ์ต่อคิวยาวมาแล้วใน 12 ประเทศ “ยูกิ-อุณาวรรณ ตั้งคารวคุณ” ประธานกรรมการบริหาร ดิ แอร์ลี่ ประเทศไทย (The Alley Thailand) จึงได้นำเข้าเครื่องดื่มแบรนด์ดังจากประเทศไต้หวัน อย่าง แบรนด์ ดิ แอร์ลี่’ (The Alley) ที่มีสัญลักษณ์เป็นรูปกวางน้อย มาให้คนไทยได้ลิ้มลองต้นฉบับชานมไข่มุกแท้จากไต้หวัน
ยูกิเล่าถึงเหตุผลที่เลือกนำเข้าแบรนด์นี้มาขายในเมืองไทยว่า เมื่อครั้งที่เดินทางไปประเทศจีน เกิดประทับใจในเมนูซิกเนเจอร์ อย่าง บราวน์ ชูการ์ เดียร์ริโอกา วิท เฟรซ มิลค์ ประกอบกับ ไข่มุกน้ำตาลทรายแดง ที่ขณะนั้นในประเทศไทยยังไม่ค่อยมีใครทำ เธอจึงปิ๊งไอเดีย อยากนำเข้ามาให้คนไทยได้ลิ้มลองรสชาติของไข่มุกจากน้ำตาลทรายแดง
“ส่วนตัวแล้วเดินทางค่อนข้างบ่อย และชอบลองอะไรใหม่ๆ เวลาไปต่างประเทศก็จะชอบไปชิมอาหารเครื่องดื่มที่เป็นที่นิยมของเมืองนั้นๆ อย่าง ‘ดิ แอร์ลี่’ ก็รู้จักอยู่แล้ว เพราะแบรนด์ค่อนข้างมีชื่อเสียง และมีเพื่อนๆ แนะนำให้ไปลองชิมอยู่หลายคนเวลาไปต่างประเทศ พอได้ชิมก็รู้สึกประทับใจ เพราะมีความกลมกล่อม ไม่หวานจนเกินไป ดื่มแล้วรู้สึกสดชื่น ประกอบกับ ช่วงนี้ชานมไข่มุกกำลังเป็นที่นิยมในเมืองไทย ก็เลยอยากนำเข้ามาให้ได้ลองชิมกัน เพราะคิดว่าคนไทยน่าจะชอบในรสไข่มุกที่หอมหวานเหนียวนุ่มลงตัวกับรสเครื่องดื่มที่เข้ากัน”
ยูกิบอกว่าสาขาแรกที่เธอนำเข้ามาเปิดจำหน่ายนั้น อยู่ที่ สยามสแควร์วัน ชั้น4 ปรากฏว่าผลตอบรับดีเกินคาด มีคนมาต่อแถวซื้อยาวเหยียดเป็นหางว่าว เธอจึงขยายสาขาไปที่ เซ็นทรัลเวิลด์ ชั้น 6 และในอนาคตอันใกล้นี้ ผู้บริหารสาวคนเก่งยังวางแผนจะส่งกวางน้อยแสนละมุนลิ้นนี้ ไปยังต่างจังหวัดและต่างประเทศอีกด้วย
“วางแผนไว้ว่าอยากจะขยายสาขาในประเทศให้ครอบคลุมทั้งในเมืองและนอกเมือง รวมถึงในต่างจังหวัดและประเทศใกล้เคียงด้วย’
ยูกิเล่าถึงจุดเด่นของ ชานมไข่มุก ดิ แอร์ลี่ ว่า เครื่องดื่มชาแต่ละแก้วใช้เวลาเตรียมวัตถุดิบกว่า 500 วัน เริ่มตั้งแต่การรอเก็บเกี่ยวใบชาที่คัดเลือกเฉพาะที่คุณภาพดี ก่อนนำไปบ่มรวมกับวัตถุดิบพิเศษของทางแบรนด์ ทำให้ชามีกลิ่นหอม เมื่อดื่มคู่กับไข่มุกจึงอร่อยลงตัวอย่างเป็นเอกลักษณ์ แถมทุก 3 เดือน มาสเตอร์ของแบรนด์จะบินมาตรวจสอบคุณภาพ และรสชาติของชาด้วยตัวเองเป็นประจำทุกไตรมาส
“ซิกเนเจอร์ของร้านเป็น ไข่มุก เดียร์ริโอก้า (Deerioca) ขนาดพอดีคำ ที่ถูกนำมาคลุกเคล้ากับน้ำตาลทรายแดงสูตรลับเฉพาะของทางแบรนด์ ที่ทำสดใหม่ทุกวัน โดยผ่านขั้นตอนการหมัก กวน ต้มจนได้เป็นน้ำเชื่อมสีดำเข้มข้น ก่อนนำมาผสมคลุกเคล้ากับไข่มุก ทำให้ไข่มุกมีความแวววาว มีกลิ่นหอมหวาน ให้สัมผัสเหนียวนุ่มเคี้ยวหนึบเต็มคำ และไม่หวานเลี่ยนจนเกินไป” ยูกิบรรยายสรรพคุณ
ขณะที่ สาวรักสุขภาพ “เปเป้-วาริธร กันท์ไพบูลย์” ก็ขอปั้นโปรเจกต์ใหม่ด้วยการเปิดร้านขายชานมไข่มุกและเครื่องดื่ม ในชื่อเก๋ๆ ว่า RAAK (ราก) พร้อมๆ กับเปิดตัวแบรนด์ผลิตภัณฑ์จากน้ำตาลโตนด ที่มีชื่อสวยเหมือนกับเจ้าของแบรนด์ว่า “น้ำตาลสยาม” ในเดือนหน้านี้ เล่าถึงที่มาในการเปิดร้านชานมไข่มุก ซึ่งส่วนผสมทั้งหมดล้วนทำจากน้ำตาลโตนดว่า เธอเป็นคนชอบเสาะแสวงหาเครื่องดื่มที่อร่อย โดยเฉพาะ ชานมไข่มุก อันเป็นเครื่องดื่มที่เธอชอบมาก แต่ขณะเดียวกัน ก็มีผลวิจัยมาว่าส่วนผสมในชาไข่มุกบางอย่าง มีปริมาณแคลอรี่สูง และถ้าดื่มมากๆ จะทำให้สะสมและแก่ไว ดังนั้น เธอจึงเกิดปิ๊งไอเดียเด็ดที่จะทำเครื่องดื่มชานมไข่มุกขาย ซึ่งมีส่วนผสมของน้ำตาลน้อยแต่อร่อยเหมือนเดิม ประกอบกับที่บ้านเธอมีไร่ตาลโตนดอยู่ที่เพชรบุรี เธอจึงคิดเปิดร้านขายชานมไข่มุก เพื่อเป็นอีกทางเลือกสำหรับคนลดความอ้วน หรือคนที่คุมเรื่องน้ำตาล ได้รับประทานชานมไข่มุกที่มีความอร่อยและเป็นมิตรกับสุขภาพ
“เป้เป็นคนชอบดื่มน้ำหวานมาก โดยเฉพาะ ชานมไข่มุก และเมื่อ4 ปีที่แล้ว ครอบครัวเราได้ทำไร่ตาลโตนดขึ้นมา และตอนนี้ผลผลิตก็ออกผลให้ชื่นใจแล้ว เป้จึงอยากต่อยอดผลให้เป็นประโยชน์ ด้วยการเปิดร้านเครื่องดื่ม RAAK (ราก) ที่ขายเครื่องดื่มทุกชนิด โดยเฉพาะ ชานมไข่มุก ซึ่งทุกแก้วเราได้นำผงน้ำตาลโตนดมาให้ความหวานแทนน้ำตาลทราย ที่สำคัญ ตัวไข่มุกนั้นเราใช้น้ำตาลโตนดมาเคี่ยวให้เม็ดไข่มุกมีความเหนียวแน่นหนึบ แถมยังมีความหอมในกลิ่นน้ำตาลโตนดอีกด้วย ซึ่งผู้ป่วยที่เป็นโรคเบาหวาน หรือผู้ที่กำลังควบคุมน้ำตาลอยู่ สามารถทานชานมไข่มุกของที่ร้านได้ค่ะ เพราะผลวิจัยรายงานว่า น้ำตาลโตนดมีปริมาณแคลอรี่ต่ำกว่าน้ำตาลทรายทั่วไปถึงครึ่งหนึ่ง”
เมื่อถามถึงเครื่องดื่มซิกเนเจอร์ของร้าน สาวสวยสุขภาพดีรีบตอบด้วยน้ำเสียงสดใสว่า อยากให้ทุกคนได้มาลิ้มลองน้ำตาลโตนด รวมถึงวุ้นตาลโตนด และชานมไข่มุกตาลโตนด รสชาติหอมหวานแบบไทยๆ นุ่มละมุนลิ้นทุกแก้วแน่นอน