หากพูดถึงการไปเที่ยวเพื่อชมสัตว์ป่าตามธรรมชาติในทุ่งหญ้าสะวันนา เชื่อว่าดินแดนที่ต้องนึกถึงคงเป็นแถบตะวันออกของทวีปแอฟริกาอย่าง “เคนยา” แน่นอน เพราะประเทศนี้มีชื่อเสียงในแง่ความอุดมสมบูรณ์ของทรัพยากรสัตว์ป่าและธรรมชาติจนกลายเป็นสัญลักษณ์คู่กันมาเนิ่นนาน แถมยังเป็นดินแดนการท่องเที่ยวที่สายผจญภัยพลาดไม่ได้ ที่เห็นภาพฝูงสัตว์ป่าออกมาโชว์ความแข็งแกร่งและความเป็นเจ้าป่านักล่าอยู่เบื้องหน้า เมื่อมีความท้าทายผสมกับการเป็นสาวนักท่องเที่ยวขาลุย จึงทำให้ แพร- พัณณิตา ณ.ส. สนิทวงศ์ ณ อยุธยา สาวสวยเก่งรอบด้าน อยากลองเข้าไปผจญภัยในดินแดนตะวันตะวันออกของทวีปแอฟริกาอย่าง “เคนยา” สักครั้งหนึ่งในชีวิต
ไลฟ์สไตล์การท่องเที่ยว : ชอบเที่ยวแบบแอดเวนเจอร์ผจญภัยหน่อยๆ เพราะมันเป็นสถานที่ที่เราต้องเดินทางไปสัมผัสด้วยตัวเองเท่านั้นถึงจะเห็นความงดงามที่ผ่านมาก็ไปเที่ยวสไตล์แอดเวนเจอร์มาหลายที่ทั้งประเทศไอซ์แลนด์ที่ไปดูแสงเหนือพอเห็นกับตาแล้วเรารู้สึกว่ามันสวยงามมาก หรือล่าสุดแพรกับครอบครัวก็ไปเที่ยวที่แอฟริกามาซึ่งแพรใช้เวลาเที่ยวอยู่ที่เคนย่าถึง10 วันเต็มสนุกมากค่ะ
ประสบการณ์10วันในเคนย่า : แพรมีความฝันอยากจะไปเที่ยวประเทศในโซนแอฟฟริกาอยู่แล้ว เพราะมันความแอดเวนเจอร์ ซึ่งเป้าหมายการเดินทางของพวกเราในครั้งนี้คือ อุทยานแห่งชาติ มาไซ มารา เป็นอุทยานแห่งชาติที่มีพื้นที่กว้างใหญ่ไพศาล ใหญ่ประมาณจังหวัดๆมีอาณาเขตติดกับประเทศแทนซาเนีย ซึ่งที่นี้ทีความโด่งดังมากเรื่องการเที่ยวในซาฟารีขับรถส่องสัตว์เราจึงจองแพ็กเกจทัวร์เป็นวิธีที่สะดวก ง่าย และปลอดภัยที่สุดในการเที่ยวซาฟารี
ทริปนี้เราต้องตื่นแต่เช้าประมาณตี5 ถึงวันเพื่อที่จะขับรถเหมือนรถเปิดประทุนเข้าไปในซาฟารี ซึ่งอากาศที่นั้นตอนเช้าหนาวมาก และเราต้องนั่งรถที่ไม่มีกระจกมันก็หนาวจนเข้ากระดูก แต่พอสายเข้าหน่อยแดดก็แรงมากเช่นกันเรียกว่าทั้งร้อนแสบผิวและหนาวจัดในเวลาเดียวกันเลย แต่ก็เป็นทริปที่คุ้มมากเพราะตลอด10วันเต็มเราได้เห็นสัตว์ที่เป็นไฮไลท์ของดิสคัฟเวอรี่ครบเลยทั้ง5 ชนิด ประกอบด้วย สิงโต แรด ควายป่า ช้างแอฟฟริกา และเสือดาว ซึ่งสัตว์ทั้ง5 ชนิดนี้จะมาให้เราเห็นไม่ครบ แต่พอมารอบนี้แพรได้เห็นครบทุกขนิดเลย ซึ่งต้องชื่นชมในความสายตาของไกด์
วินาทีระทึกในซาฟารี : การไปเที่ยวเคนย่ารอบนี้ถือว่าเป็นประสบการณ์อันน่าตื่นเต้นที่สุดและแพรต้องจดจำไปอีกแสนนาน เพราะระหว่างที่เรานั่งรถอยู่ในช่วงกลางๆของทริปเราก็เห็นเสือดาวกำลังกินเหยื่ออยู่บนต้นไม้ส่วนสิงโตเจ้าป่าก็กำลังล่าแม่ควายป่าที่พึ่งออกลูก แม่ควายป่าก็ร้องด้วยความทรมาน วินาทีที่เราเห็นภาพนี้มันเต็มไปด้วยความตื่นเต้น ปนสงสารแม่ควายป่าและลูกๆ แต่ขณะเดียวกันมันก็ทำให้เราได้เรียนรู้ถึงวัฏจักรวงจรชีวิตไปด้วย
ส่วนวันถัดมาเราก็มาดูอีกว่าสิงโตกินเหยื่อไปถึงไหนแล้ว และเมื่อมันกินเหยื่อจนหมดเหลือเพียงซี่โครงแล้ว เราก็ยังได้เห็นภาพที่แร้ง และไฮยีน่า มารุมกินซากสัตว์ที่สิงโตเหลือทิ้งไว้ มันเป็นอะไรที่อึ้งและทึ่งมาก แถมที่พักตอนกลางคืนด้วยความที่เรานอนเต็นท์ ดังนั้นในตอนกลางคืนบางคืนเรายังได้ยินเสียงสิงโตร้องคำรามเลยค่ะ และแม้แต่เวลาที่เราไปรับประทานอาหารก็จะมีบอดี้การ์ดคอยถือปืนคุ้มกันเราระหว่างเดินทาง เพราะเกรงว่าจะมีฝูงสัตว์ดุร้ายเข้ามาทำร้าย เรียกว่าเป็นทริปที่ระทึกและแอดเวนเจอร์สุดๆที่เคยไปมาเลยก็ว่าได้
วางแผนทริปต่อไป : ด้วยความที่เราเป็นคนชอบเที่ยวแบบผจญภัยและยิ่งถ้าเป็นทะเลด้วยก็จะยิ่งดีใหญ่เพราะแพรชอบดำน้ำดูปะการัง ดังนั้นปีหน้านี้แพรกับครอบครัววางแผนว่าจะไปเที่ยวทะเลที่เกาะโบราโบร่า (Bora Bora Island) เพราะมีความงดงามของน้ำทะเลใสแจ๋วน่าแหวกว่ายและหาดทรายขาวนวลเนียนละเอียดละออ หรือไม่ก็อาจจะไปดำน้ำที่ฮาวายก็ได้ค่ะ เล็งไว้สองที่ ส่วนประเทศเคนย่าถ้าผ่านไปอีกสัก5 ปี แพรอาจจะกลับไปเยือนอีกครั้งเพื่อไปชมชีวิตสัตว์ป่าอีกที แต่ตอนนี้ขอฝึกปรือฝีมือการถ่ายภาพให้เก่งก่อน เพื่อรอบหน้าจะได้เป็นช่างภาพ
