xs
xsm
sm
md
lg

บทเรียนเปลี่ยนชีวิต “ดวงพร บุณยะจินดา”

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


ช่วงที่ที่ผ่านมา ในแวดวงสังคมไทย อาจจะแปลกใจกันว่า เซเลบริตีสาวเปรี้ยวสุดฮอตทายาทตระกูลดัง อย่าง “เอ-ดวงพร บุณยะจินดา” พี่สาวของ “ดาว-พอฤทัย ณรงค์เดช” กับ “ดัง-พันกร บุณยะจินดา” หายหน้าหายตาไปไหน ไม่ค่อยเห็นออกงาน จนมาทราบข่าวอาการป่วยของเธอ ซึ่งขณะนี้เธอได้ทำการรักษาจนอาการหายดีแล้ว มาในวันนี้ สาวเอจะมาอัปเดตอาการของเธอให้ฟังกัน

ก่อนอื่น เอเล่าถึงวิธีสร้างกำลังใจกว่าจะมาถึงวันที่ยิ้มได้อีกครั้งว่า “ต้องบอกว่าเราเป็นคนที่ถลุงร่างกายหนักมาก เป็นสาวเปรี้ยว ปาร์ตี้เกิร์ล ใช้ชีวิตหนักมาก กินเที่ยว ดื่ม มาเป็นเวลา 10 ปี จนช่วงที่รู้ว่าตัวเองป่วยก็บังเอิญมาก ไปตรวจเพราะพอดีเกิดอุบัติเหตุนิดหน่อย จึงไปหาหมอ ปรากฏว่าคุณหมอจับสแกนดูพบว่า ผลกระทบจากอุบัติเหตุไม่มีเลย แต่ดันไปเจอก้อนเนื้อขนาดเท่าลูกเทนนิสที่สมองแทน

ตอนแรกที่หมอบอกให้เข้ารับการผ่าตัดทันที เรายังไม่เชื่อ เพราะไม่เคยปวดหัว ไม่เคยมีอาการมาก่อน คิดว่าคุณหมอหลอก จนคุณแม่มาเกลี้ยกล่อมให้ผ่าตัด เพราะถ้าขืนปล่อยต่อไป ไม่รู้ว่าถ้าวันไหนเกิดก้อนเนื้อนี้ทับเส้น จะเป็นอัมพาตหรือชักขึ้นมาจะทำอย่างไร เอก็เลยตัดสินใจผ่าเมื่อประมาณกลางปีที่แล้ว” เอเฉลยถึงเหตุผลที่ทำให้หลังๆ เธอหายหน้าหายตาไปจากแวดวงสังคมและกลุ่มเพื่อน

“สภาพจิตใจช่วงแรกๆ ไม่โอเคเลย ต้องโกนหัวก่อนเข้าผ่าตัด เศร้ามาก จากคนที่มีผมยาวๆ ตอนนั้นเรียกว่าหมดอาลัยตายอยาก อยากตาย อะไรก็แย่ไปหมด เพราะปีที่แล้วสำหรับเอ ชีวิตค่อนข้างดาวน์ อะไรก็ไม่ดี ทั้งเรื่องความรัก เรื่องงาน ยังมาเจ็บป่วยอีก แต่ก็คิดว่าฟาดเคราะห์ จากการเจ็บป่วยครั้งนี้ มันทำให้ชีวิตเราเปลี่ยน หลังผ่าตัดเรียบร้อย เอโชคดีมากที่กลับมาใช้ชีวิตได้แทบจะปกติหมด ไม่ต้องกายภาพบำบัด ช่วงนั้นคุณแม่ให้ไปพักฟื้นอยู่ที่บ้านที่หัวหิน 4 เดือน หลังจากเข้า-ออกโรงพยาบาลอยู่ก่อนหน้าประมาณ 2 เดือน รวมแล้วชีวิตหายไปเลย 6 เดือน


ช่วงไปอยู่หัวหินก็หนักเอาเรื่อง เพราะคุณแม่ไม่ให้ใช้โทรศัพท์เลย กลัวคลื่นไปกระทบกับสมอง ชีวิตเราเปลี่ยนเลย อยู่ติดบ้าน แก้เบื่อด้วยการดูซีรีส์ อ่านหนังสือบ้าง ไปเดินห้างสรรพสินค้าจนตอนที่รู้ว่าจะกลับมากรุงเทพฯ อีกครั้ง คุณแม่ก็ช่วยเปลี่ยนเบอร์โทรศัพท์ให้เสร็จ เพราะบ้านเราเชื่อเรื่องนี้ (หัวเราะ) หลังจากกลับมา เอก็เปลี่ยนไลฟ์สไตล์ เลิกบุหรี่ ดื่มน้อยลง อยู่ติดบ้านมากขึ้น เพราะเราไม่อยากให้แม่เสียใจหรือต้องเครียด อีก 4 เดือนที่ผ่านมา ช่วงแรกก็ทรมานนะ ที่จู่ๆ ไปไหนไม่ได้ ไม่มีโทรศัพท์ เอาแต่คิดว่าชีวิตมันยากจังเลย แต่พอผ่านมาได้ มันเหมือนในที่สุดเราได้ค้นพบว่าเราก็ใช้ชีวิตแบบนี้ได้”

สำหรับการดูแลตัวเอง เอสารภาพตามตรงว่า ตั้งแต่สมัยยังเป็นสาวใช้ชีวิตหนักมาก ก็พยายามชดเชยด้วยการเลือกกินอาหารที่ดี ดื่มน้ำที่สะอาด กินอาหารคลีนอยู่แล้ว ที่เพิ่มเติมคือ ตอนนี้หันมารักตัวเองมากขึ้น เน้นออกกำลังกายเบาๆ ด้วยการเดินบนลู่ ควงน้องสาวคนสวยไปเล่นโยคะ ใช้เวลาว่างอยู่กับครอบครัวมากขึ้น ส่วนเรื่องความรักเอตอบแบบไม่กั๊กว่า

“เอาจริงๆ ก็ทำใจนะ คุณแม่ชอบบอกว่าเออาภัพรัก มีความรักทีไรพังทุกที แต่บางทีก็ยังแอบหวังขอเฮือกสุดท้าย (หัวเราะ) เราเป็นพวกรักแล้วทุ่มเทเพราะกลัวเขาไม่รัก ไป Please อีกฝ่ายจนเราเสียความเป็นตัวเอง ทำทุกอย่างให้อีกฝ่ายรัก พอทำเยอะ ยิ่งรู้สึกเยอะ เสียใจมาก ด้วยความที่คุณแม่รู้นิสัย กลัวเอเฮิร์ตกลับไปกินเหล้าอีก จึงบอกว่าอย่ามีเลย มีก็ไม่เคยดีสักคน” เอเล่าอย่างอารมณ์ดี ก่อนจะตัดบทมาถึงอีกหนึ่งแพสชั่นที่ทำให้หัวใจสูบฉีดอีกครั้ง

“งานหลักของเอตอนนี้คือ กลับมาทำแบรนด์เสื้อผ้า Alisa แบรนด์เสื้อผ้าที่ปลุกปั้นมากับมือให้พร้อมกลับมารับใช้สังคมด้านแฟชั่นอีกครั้ง ตอนนี้เอใช้ที่บ้านเป็นโชว์รูมรับตัดชุด บอกเลยเต็มที่มาก ทำการบ้านเยอะมาก กว่าจะทำออกมาแต่ละชุด ต้องตามไปส่องไอจีของคนที่มาสั่งชุดเพื่อดูว่าเขาใส่อะไรหรือสไตล์ไหนสวย เพราะเราอยากออกแบบชุดที่เข้ากับบุคลิกของลูกค้าจริงๆ เอเชื่อว่า ยุคนี้มีเสื้อผ้าให้เลือกมากมาย ใครจะซื้อแบบไหนก็ได้ แต่ถ้าจะเอาให้เข้ากับตัวเองยาก สำหรับใครที่รู้ว่าอะไรที่เหมาะและเข้ากับตัวเองจริงๆ ก็โอเค แต่ถ้าไม่ก็ไม่เป็นไร มาหาเรา เราจัดให้เพื่อให้เข้ากับเขามากที่สุด ลูกค้าบางคนเราให้ยืมกระเป๋า หรือบางคนเราแนะนำเลยว่าต้องไปใส่กับเครื่องประดับ รองเท้าแบบไหน จะได้เพอร์เฟกต์ตั้งแต่หัวจรดเท้า”

ต่อจากนี้ เหล่าแฟชั่นนิสต้าก็จะได้มีเสื้อผ้าสวยๆ มาให้เลือกใส่เพื่อให้เข้ากับบุคลิกของตัวเอง โดยมีสาวเอนั่งมองอย่างภาคภูมิใจ

Make-up : วรธน กฤษณะกลิน (เป้อ) โทร. 09-5956-9153 IG: @nongperr
Hair : เพ็ญศรี ประจง (ตุ๊ก) โทร. 09-5545-4229 IG: @tukkyhair


กำลังโหลดความคิดเห็น