นับตั้งแต่ปี 2015 ที่ “อัลแบร์ เอลบาซ” ถูกให้ออกจากแบรนด์ที่เขาปลุกปั้นมากับมือ อย่าง ลองแวง เราก็แทบไม่ได้เห็นผลงานการออกแบบงานแฟชั่นจากดีไซเนอร์เชื้อสายยิวคนนี้อีกเลย เป็นเวลานานนับปี
เอลบาซเปิดเผยกับหนังสือพิมพ์เทเลกราฟถึงชีวิตของตัวเอง หลังจากที่เขาต้องเดินจากลองแวงออกมาว่า เป็นเวลาร่วมปีที่เขาไม่ได้ผลิตผลงานด้านแฟชั่นอะไรออกมาเลย เขายอมรับว่ามันต้องใช้เวลาที่จะต้องสลัดสิ่งที่เหมือนอวัยวะหนึ่งของตนเองออกไปให้ได้ เขาจึงใช้เวลาส่วนใหญ่เป็นอาจารย์พิเศษ ที่บรรยายให้กับสถาบันชื่อดังด้านแฟชั่นระดับโลกมากมาย ทั้ง เซนต์ มาร์ติน ในลอนดอน พาร์สัน ในนิวยอร์ก พร้อมกับเดินทางไปๆ มาๆ ระหว่างสองเมืองนั้น กับอพาร์ตเมนต์ของตนเองในปารีส
ในวัย 54 ปี ที่แม้ในโปรไฟล์จะยังเป็นคนตกงาน (เอลบาซ เปรียบตนเอง) แต่ก็ใช่ว่าจะไม่มีการทาบทามเขาจากแบรนด์ดัง แต่เขาเลือกที่จะขอทำเป็นโปรเจกต์มากกว่าจะทำแบบถาวร ไม่ว่าจะเป็นแบรนด์กระเป๋าเลอสปอร์ตแซค เครื่องสำอางลังโคม รวมถึงคอลเลกชันกระเป๋าสุดเปรี้ยวกับ ทอดส์ เอลบาซบอกว่า ที่เป็นเช่นนี้ก็เพราะเขาเองกำลังวางแผนที่จะมีแบรนด์เครื่องแต่งกายของตัวเอง แต่เขาไม่เร่งรีบที่จะปล่อยมันออกมา เพราะเขากำลังรอเวลาที่จะมั่นใจพอว่า แบรนด์ของเขาจะดังเปรี้ยงได้ในตลาดประเทศจีน
ใช่! เอลบาซตั้งใจคัมแบคด้วยตลาดที่ทรงอิทธิพลที่สุดในโลก โดยตลอดรยะเวลาที่เขาซุ่มเก็บตัว เอลบาซได้พบกับนักธุรกิจวงการแฟชั่นมากมาย และข้อมูลที่เขาได้มันช่างสำคัญเหลือเกิน นั่นคือภายในปี 2024 เศรษฐีใหม่วัยน้อยกว่า 30 ปีในจีนจะมีมากถึง 600 ล้านคน และพวกเขาต้องกงารแฟชั่นที่บ่งบอกตัวตนในแนวที่มีความแฟนซีเฉพาะตัว ไม่เหมือนใคร นั่นคือความถนัดของเอลบาซ และวันนั้นเราอาจจะเห็นแบรนด์ของเขาครองใจวัยรุ่นจีนก็เป็นได้
